Special Scoop



ภัยใกล้ตัว IRS Phone Scam… Made in India!

ข่าวการจับกุมขบวนการหลอกลวงประชาชนกว่า 15,000 รายในประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วงปี 2012-2016 ได้นำความเสียหายสู่ประชาชนรวมถึงคนไทยที่ถูกหลอกไปกว่า $300 ล้านเหรียญจากการใช้โทรศัพท์ฝากข้อความ ที่ข่มขู่อ้างว่าโทรมาจากกรมสรรพากรกลาง (IRS) และให้รีบโทรติดต่อกลับด่วน มิฉะนั้นคุณจะถูกดำเนินคดี ยึดทรัพย์ในธนาคาร หรือกำลังจะถูกออกหมายจับ โดยกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ มีคอลล์เซ็นเตอร์ (Call Center) ในนครมุมไบ (Mumbai) ประเทศอินเดีย ซึ่งรัฐบาลอินเดียได้ให้ความร่วมมือกับกรมสรรพากร IRS ทำการบุกจับสำนักงานคอลล์เซ็นเตอร์นี้ ซึ่งรวบมิจฉาชีพเหล่านี้ได้ถึง 750 คน ใจกลางนครมุมไบ และยังสามารถจับเครือข่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา และส่งฟ้องศาลได้ถึง 21 คนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

แหล่งข่าว IRS Scam จากการแถลงข่าวของสำนักงานอัยการสูงสุดสหรัฐฯ https://www.justice.gov/opa/pr/24-defendants-sentenced-multimillion-dollar-india-based-call-center-scam-targeting-us-victims

การหลอกลวงนี้ได้ทำการกันมานานแล้ว แต่เริ่มเครือข่ายขยายการติดต่อประชาชนอย่างถี่ยิบในช่วงประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา ผมและอีกหลายๆ คนก็เคยได้รับข้อความดังกล่าวจากเหล่ามิจฉาชีพ ที่บอกว่า

“This call is officially a final notice from IRS, Internal Revenue Service. The reason of this call is to inform you that IRS is filing a lawsuit or an arrest warrant against you, you must call back immediately” แปลได้ว่า... “การโทรครั้งสุดท้ายนี้ มาจากหน่วยงาน IRS... ทาง IRS กำลังยื่นฟ้องหรือมีหมายจับคุณ ให้รีบโทรกลับด่วนที่เบอร์...” ปรากฏว่า 1 ใน 4 ของผู้ได้รับโทรศัพท์จะกลัวและหลงเชื่อ จึงโทรกลับไปเพื่อจะหาข้อมูล บางรายอาจมีการหลบเลี่ยงภาษีกับ IRS มาก่อน เลยตายใจ อยากจะยอมความกัน โดยได้รับการข่มขู่ว่า ถ้าไม่อยากมีเรื่อง ก็ให้ไปซื้อบัตรเครดิตที่ชำระเงินล่วงหน้าไว้แล้ว (Preloaded debit card) หรือให้รีบโอนเงินผ่านทางอิเล็คทรอนิคส์ (Wire Transfer) มิฉะนั้นจะถูกยึดบ้าน จับส่งกลับบ้านเกิด หรือจับติดคุก แล้วยังถูกขู่อีกว่าจะถูกยกเลิกใบขับขี่ ใบเขียว และใบประกอบธุรกิจในกรณีที่เป็นเจ้าของร้าน เป็นต้น

ถ้าเราหลงกลอุบายนี้ และโอนเงินไปให้เขา เราก็จะสูญเงินไปเปล่าๆ เนื่องมาจากความกลัว และรู้เท่าไม่ถึงการณ์

คุณลักษณะของเหล่ามิจฉาชีพนี้ คือ

1) มิจฉาชีพมักจะใช้ชื่อปลอม เลขประจำตัวพนักงาน IRS ปลอม (Fake Badge Numbers or ID)

2) มิจฉาชีพเหล่านี้อาจจะรู้เลขท้าย 4 ตัวของบัตรโซเชียลของคุณ

3) มิจฉาชีพสามารถทำให้โทรศัพท์ของเขาโชว์เลขหมายเลข และ/หรือ เขียนว่ามาจาก IRS หรือจากสถานีตำรวจใกล้บ้านคุณก็ได้ด้วย

4) เราสามารถได้ยินเสียงแทรกขณะพนักงานอื่นๆ กำลังพูดคุยทวงเงิน ข่มขู่เหยื่อรายอื่นๆ

5) มิจฉาชีพอาจโทรกลับโดยให้เครือข่ายแกล้งแสดงเป็นตำรวจหรือเจ้าหน้าที่อิมมิเกรชั่นตามหาเรา

6) มิจฉาชีพจะใช้การข่มขู่ถี่ขึ้นถ้าเราปฏิเสธว่าไม่มีเงินจ่าย หรือเราอ้างว่าไม่ใช่คนที่เขากำลังตามหา… เพราะเขายังไม่ได้เงินจากเรา


ข้อควรปฏิบัติเมื่อได้รับโทรศัพท์เหล่านี้

1) ถ้าคุณคิดว่าคุณติดเงินภาษีรัฐบาล ควรจะติดต่อเข้าหาหน่วยงานนั้นๆ เอง หรือโทรปรึกษาคนทำบัญชีของคุณ เพื่อให้เขาติดต่อ IRS โดยตรง

2) ถ้าเราไม่ได้ติดเงิน IRS หรือหน่วยงานรัฐบาลอื่นๆ สามารถแจ้งข้อมูลการโทรข่มขู่นี้ได้ ที่กระทรวงการคลังของรัฐบาลกลาง Treasury Department Inspector General for Tax Administration ที่ 1-800-360-4484 หรือ www.treasury.gov

3) เราสามารถแจ้งองค์กรรักษาผลประโยชน์ของธุรกิจ BBB (Better Business Bureau) ที่ 1-800-763-4222 www.BBB.org เพื่อจะได้แจ้งเตือนธุรกิจในเครือข่าย ของวิธีการที่ใช้ของคนร้ายพวกนี้ โดยเฉพาะที่มาแกล้งเป็นกรมประปา แก๊ส โทรศัพท์ ต่างๆ ที่จะมาตัดบริการน้ำ ไฟ และแก๊สในวันนั้นๆ หรือภายในสองชั่วโมงบ ถ้าเราไม่จ่ายในทันที ห้ามหลงเชื่อไปซื้อ Prepaid Card โดยเด็ดขาดนะครับ

เกร็ดความรู้ที่จำเป็น ก็ถูกรวบรวมในหนังสือของผมที่หาอ่านกันได้


โชคดีครับ
คิด ฉัตรประภาชัย