คุณหมอ..ขอคุย
น.พ. อรุณ สวนศิลป์พงศ์
อยากขอเงินประกันสังคมแต่ยังไม่สมัครเป็นซิติเซน

เวลามีงานวัดที่เมกาทีไร ถ้ามีการออกร้านขายของ เช่นอาหาร ขนมไทย หรือพืช ผัก ผลไม้ ที่มีวางขายเหมือนเมืองไทย การไปเดินชมร้านเหล่านี้ ถึงจะไม่ซื้อก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง แต่ต้องระวังอย่าเข้าใกล้ร้านที่ มีของย่าง เช่นไก่ หมู หรือประเภทไส้กรอกต่างๆ ต้องระวัง เพราะจะมีควัน จากการย่างกระจายบนอากาศ ทำให้มีกลิ่นมาติดเสื้อผ้าได้

บางร้านทำขนมครก ผัดต่างๆ เช่นผัดหอยทอด หรือกล้วย มัน เผือก ทอด ก็จะมีกลิ่นมากพอๆกัน แถมยังต้องระวังน้ำมันร้อนๆจากกระทะหกอีกต่างหาก… ส่วนใหญ่คนผัด หรือทอด มักเป็นหญิงวัยกลางคน หรือสูงอายุทำ…

บางคนง่วนอยู่กับการย่างหรือทอด อย่างมีคุณป้าคนหนึ่ง ทอดปลา ปลาเห็ด (เรียกตามคนอุทัยธานี) หรือทอดมัน ใช้กะทะเล็กๆทอดอยู่หลังร้าน

บางคนทำหมูปิ้ง จากบ้าน มาปิ้ง หรืออุ่นโดยย่างให้ร้อนขึ้นขายในงาน บางคนทำขนมไทยที่ใส่กล่องมาเรียบร้อย วางขาย

เดินๆไป ก็ถือโอกาสคุยกับแม่ค้าไปด้วย หาความรู้ แต่ก็อดถามอายุไม่ได้ บางคนอายุ 65 ปีแล้ว มาอยู่เมกากับลูกสาวที่แต่งงานกับคนมะกัน โดยทำงานอดิเรกเช่นขนม ขายตามงานหรือบางทีก็ส่งตามร้านอาหารไทย ที่ต้องการมีขนมไทยขาย …ได้เงินบ้าง ไม่ได้บ้าง หรือช้าบ้าง ก็พออยู่ได้ ไม่ถึงกับทำให้เป็นภาระกับลูกสาวมากเกินไป …

พอว่าง ก็ช่วยทำงานบ้าน แต่พักหลังทำขนมได้น้อยลง เพราะมือ ไม่ค่อยมีแรง หรือปวดข้อบ้าง ไปหาหมอก็ไม่สม่ำเสมอ เนื่องจากไม่มีประกันสุขภาพ ลูกสาวต้องจ่ายเงินค่าหมอให้…แต่ระยะหลังมีแล้ว…

เข้ามาอยู่เมกา โดยได้วีซ่าถาวร หรือกรีนคาร์ด เคยไปสมัครขอความช่วยเหลือทางการเงิน และบัตรประกันสุขภาพ จากสำนักงานประกันสังคมเมกา และสำนักงานสังคมสงเคราะห์ของมลรัฐที่อาศัย มีภูมิลำเนาอยู่ ก็ได้รับการปฏิเสธจากทั้งสองหน่วยงาน เพราะไม่เคยทำงานในเมกาเลยและไม่ได้โอนเป็นซิติเซน หรือพลเมืองมะกัน…

สาเหตุที่ไม่ได้เงินประกันสังคม เพราะมีกฏหมาย ห้ามให้เงินคนต่างด้าวที่มีวีซ่าถาวร แต่เข้าประเทศเมกา หลัง 22 สิงหาคม 1986…

สาเหตุที่ไม่ได้บัตรประกันสุขภาพ (MEDICAID) หรือความช่วยเหลือทางการเงิน (Welfare, Food stamp) จากสำนักงานสังคมสงเคราะห์ของมลรัฐ เพราะว่ามลรัฐที่มีภูมิลำเนาอยู่ ไม่จ่ายเงินช่วยเหลือคนต่างด้าว เพราะฉะนั้นต้องไปอยู่มลรัฐที่จ่ายเงิน หรือประกันสุขภาพให้คนต่างด้าวที่มีวีซ่าถาวร เช่นรัฐแมรี่แลนด์ แคลิฟอเนีย เป็นต้น…

ตกลงลูกสาวต้องซื้อประกันสุขภาพโอบาม่าแคร์ให้ …เลยถามว่าเคยยื่นใบสมัครเป็นซิติเซน หรือพลเมืองมะกันหรือยัง ปรากฏยังไม่เคยยื่นเลย เคยคิดจะสมัคร มาหลายปีแล้ว แต่กลัวสอบภาษาอังกฤษตอนสัมภาษณ์ แล้วไม่ผ่าน …ส่วนลูกสาวก็ช่วยเสริม คิดว่าจะให้แม่ไปเข้าห้องเรียน ที่มีการสอนคนต่างด้าว ในการเตรียมสอบเป็นซิติเซน…ก็ไม่รู้จะฟังรู้เรื่องหรือเปล่า เพราะเคยเรียนแค่ ประถม 2 ที่เมืองไทย… ส่วนการทำขนมก็เรียนรู้จากแม่หรือคนข้างบ้าน และดูจาก YouTube เอา…ดูวิธีการทำจาก YouTube เอง ก็เก่งมาก…

ตกลงทั้งแม่และลูกสาว คงได้แต่คิดเท่านั้น …มาหลายปีแล้ว …เลยแนะนำ ว่าให้ไปยื่นคำร้องสมัครเป็นซิติเซนได้เลย เพราะยิ่งรอไปนานวัน ค่าสมัครมีแต่จะแพงขึ้น แต่ถ้าไม่มีเงินค่าสมัคร ก็กรอกฟอร์ม I-912 (request for fee waiver) แต่ถ้ามีฐานะหน่อย ก็กรอกฟอร์ม I-942 ขอลดค่าสมัครลง…การสมัคร เดี๋ยวนี้ ใช้ทำออนไลน์หมด…

ค่าสมัครเป็นซิติเซน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2018 …กรอกฟอร์ม N-400 เสีย 640 ดอลลาร์ บวกค่า biometrics (ชีวมาตร เช่นพิมพ์ลายมือ สืบประวัติ) เสีย 85 ดอลลาร์…แต่ถ้ากรอกฟอร์ม I-912 ขอยกเว้น ก็ไม่เสียเงิน…

แต่ถ้ากรอกฟอร์ม I-942 ก็ลดค่าสมัครเหลือ 320 ดอลลาร์ ค่า biometrics หรือ ชีวมาตร เหลือ 75 ดอลลาร์ …แต่ถ้าอายุ 75 ปีขึ้นไปก็ไม่ต้องเสีย…

คุณสมบัติที่จะใช้ ฟอร์ม I-942 คือรายได้ในครอบครัว อยู่ระหว่าง ปีละ 150 % ถึง ต่ำกว่า 200 % ตามมาตรฐานของคนจนที่กำหนดโดยรัฐบาลกลาง…

เลยแนะนำว่า ตอนกรอกใบสมัคร N-400 ก็แนบใบคำร้อง I-912 ไปด้วย …ส่วนการสัมภาษณ์ ก็ไปสัมภาษณ์ตามที่กำหนดมา …แต่ถ้าไม่ผ่าน …ให้มาปรึกษากันอีกที…จะได้หาทางช่วยเหลือต่อไป…


5 ธันวาคม 2018