ลมหายใจของวัยทอง

จริตสราญ
อันเนื่องมาจาก...อัคคีภัย (ต่อ)

โหย...ถ้าน้องชายฉันต้องดำเกรียมขนาดนั้น ฉันคิดว่า...เขาคงต้องพึ่งพาฝีมือศัลยกรรมตกแต่งมือโปร...ในลำดับต่อไปอย่างแน่นอน...

อ้าว...แล้วแม่ล่ะ แม่อยู่ไหน ?

แม่ถูกหามขี้นแอมบูแลนซ์ก่อนด้วยซ้ำไป ทำไม...ไม่เห็นมีใครพูดถึงแม่เลย ไม่ได้การ...พอพยาบาลสาวเดินผ่านม่านตา ฉันรีบยกแขนขึ้นโบกให้สัญญาณ เพราะจะส่งเสียงร้องเรียก...มันช่างยากลำบาก คุณพยาบาลแสนดีปรี่เข้ามาหาทันที...คงคิดว่า ฉันจะฉี่อีกละซี...คนไข้หญิงโดนอัคคีภัยรายนี้กระเพาะปัสสาวะรั่วแน่ๆ เธอร้องถามว่า ต้องการอะไร ? ขณะที่เข้ามายืนชิดติดขอบเตียง

“แม่..แม่ของฉันอยู่ไหน...แม่เป็นยังไงบ้าง ?” ฉันขยันปากพองบวมเจ่อ ส่งเสียงแหบพร่าออกไป

“แม่ของคุณไม่ได้ถูกส่งมาฉุกเฉิน ร.พ. นี้หรอกนะ อายุมากและอาการหนักกว่า...เลยต้องเข้าฉุกเฉิน ร.พ. ที่ใกล้ที่สุด ดูเหมือนจะเป็น Pacifica นะ เดี๋ยวจะโทรเช็คถามอาการให้นะคะไม่ต้องห่วง...ทำใจให้สบาย เพราะความดันคุณสูงมาก...”

“Please....please....Thank you...”

ฉันส่งเสียงตอบรับอย่างแหบแห้ง ฤทธิ์ของน้ำเกลือที่ถูกกดซึมเข้าเส้นเลือด อาจมีส่วนทำให้ฉันเกิดความรู้สึกตื้อ...งงๆ และงัวเงีย คล้ายกับครึ่งหลับครึ่งตื่น กล้ามเนื้อทุกส่วนอ่อนล้าเหลือเกินแล้ว...จิตใต้สำนึกยังดึงรั้งไม่ยอมให้หลับ... ยัง..ยังหลับไม่ได้นะ...หากยังไม่รู้ข่าวคราวของแม่ ครู่ต่อมาคุณพยาบาลสาวก็เปิดม่านกลับเข้ามารายงานฉันว่า...

“แม่ของคุณพ้นขีดอันตรายแล้วนะ...ไม่ต้องห่วง อีกประเดี๋ยวหนึ่ง คุณกับน้องชายก็จะถูกย้ายไปรับช่วงการรักษาต่อที่ Burn Station (West Hills Hospital) เพราะที่นั่นเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ...กรณีคนไข้ถูกควันไฟลวก...”

หูฉันแว่วประโยคยาวของคุณพยาบาลก็จริง...แต่ใจไพล่ไปนึกถึงแม่ ยกมือซ้ายข้างที่เจ็บน้อยขึ้น เป็นสัญญาณให้เธอคนนั้นเข้ามาใกล้ๆ เพราะฉันไม่สามารถเปล่งพลังเสียงดังๆ ออกไปได้...

“ช่วยกรุณาติดต่อย้ายแม่ของฉัน ไปอยู่ที่เดียวกับฉันได้ไหมคะ...แม่ฉันอายุมากแล้ว พูดภาษาไม่ได้สื่อสารไมได้ ยิ่งถ้าไม่เห็นฉันกับน้อง...ก็ยิ่งเป็นกังวล ขอความกรุณาเถอค่ะ please...”

คุณพยาบาลเชื้อชาติลาตินแสนใจเย็นคนนี้ รับคำอ้อนวอนของฉันด้วยความเข้าใจและเห็นใจเป็นอย่างดี...ก่อนที่จะกลับออกไป เพี้ยง...เพี้ยง...เพี้ยง...ขอให้ได้เห็นหน้าแม่ที่ Burn Station หน่อยเถอะ ฤทธิ์น้ำเกลือและยาแก้ปวดผสมผสานกันยิ่งทำให้หนังตาหนักขึ้นเป็นลำดับ...แต่ฉันพยายามฝืน...ฝืนไม่ให้หลับ...ยังหลับไม่ได้เพราะกลัวจะฝันร้าย ขอให้รู้ว่าแม่ได้ย้ายไปอยู่ ร.พ. เดียวกันกับฉันเสียก่อนแล้วฉันคงได้หลับสนิทซะทีละ...

อึดใจต่อมามีบุรษพยาบาลกับพนักงานรถแอมบูแลนซ์เข้ามาเตรียมการ เปลี่ยนเตียงเพื่อที่จะย้ายฉันกับน้องชาย ไปยัง West Hills Hospital แต่ก่อนเคลื่อนย้ายร่างของฉัน...ก็ต้องขอ...ปล่อยน้ำออกจากตัวอีกสักทีละ...

โหย...ต้องฉี่อีกแล้ว..ว.ว สมควรให้พยาบาลมัดกระโถนไว้กับบั้นท้ายซะเลยดีไหมเนี่ย เฮ้อ...เซ็งกับความถี่ฉี่ของตัวเองซะจริงๆ

ขอชื่นชมคุณพยาบาลผู้มีความอดทนคนนี้ ที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลเป็นอย่างดี...ไม่ได้ตีสีหน้าหงุดหงิดหรือมีอารมณ์เบื่อหน่ายเลย...ดึงม่านกั้นให้ฉันได้รับไพรเวทซี่ แล้วสอดถาด Bed Pan ใต้บั้นท้ายให้ฉันได้ทำธุระปลดปล่อยน้ำเสียออกจากร่างโดยลำพัง...พอเธอกลับเข้ามาทำความสะอาดเก็บถาดคราวนี้ มีข่าวดีมาบอกฉันว่า

“ไม่ต้องห่วงแล้วนะคะทางโรงพยาบาล Pacifica ได้ย้ายแม่ของคุณไปที่ Burn Station ร.พ. เดียวกับที่คุณและน้องกำลังจะไปแล้ว เพราะเป็นแห่งเดียวที่มีความช่ำชองในกรณีแบบนี้...”

พอได้ยินรายงานว่า...แม่ได้ถูกย้ายไปที่ ร.พ. เดียวกับฉันแล้วเท่านั้นแหละ...เสียงรายงานต่อไปของคุณพยาบาลดูเหมือนว่า...จะค่อยๆ เบา...จางห่างออกไปทุกที...ทุกที ฉันสูดหายใจเฮือกต่อมา แล้วก็หลุด...ร่วงผล็อย...วูบดับหลับไปเลย !!

ตื่นขึ้นมาอีกที่...ก็อยู่บนเตียงห้อง ICU ของ West Hills Hospital แล้วราวกับปาฏิหาริย์ ไม่ได้รู้สึกตัวเอาเลยว่า...เขาหามฉันขึ้นรถเอามาส่งถึงที่นี่เมื่อไหร่...ด้วยวิธีได กี่โมงกี่ยามเข้าไปแล้วก็ไม่รู้...รู้แต่ว่าหิวน้ำที่สุด ลำคอแสบและแห้งผากทีเดียวละ.... พอขอน้ำดื่มพยาบาลที่นี่เข้มงวดจริงๆ ไม่ยอมบริการให้ ด้วยเหตุผลว่า... คิวเข้าห้อง Surgery ของฉันใกล้เข้ามาแล้วซึ่งจะดื่มน้ำไม่ได้จริงๆ...... ต่อมาก็ได้รับรู้ว่าเราทั้ง 3 คน แม่..ฉัน..และน้องได้มานอนเรียงอยู่ห้องติดๆ กันในยูนิตนี้ และกำลังเรียงคิวกันเข้าห้อง Surgery แม่ที่ฉันห่วงได้ผ่านการ Surgery ผิวที่ถูกลวก...ถูกกำจัดพิษของเขม่าที่ทำลายเซลของผิวออกไปแล้ว...ก่อนใครเพื่อน เพราะด้วยอายุขัยและ...มือและแขนขวาเสียหายบาดเจ็บลึกมากกว่าใคร...ฉันอยู่ในคิวของรายต่อไป แต่ก่อนที่จะได้เข้าห้อง Surgery ก็ต้องผ่านขั้นตอนของการบันทึกภาพส่วนที่บาดเจ็บ...มีปัญหา ทำประวัติหลักฐาน ด้วยช่างภาพประจำของโรงพยาบาล...ที่เขาเข้ามาแนะนำตัวทำการถ่ายรูป...ใบหน้าของฉัน...ด้านหน้า...ด้านข้าง...หน้าผาก...ปาก...คอ...จมูก ไปจนถึงมือไม้ทั้ง 2 ข้าง... ที่กำลังปวดแสบปวดร้อน...พองได้ที่โดยเฉพาะผิวหน้า...สงสัยว่าจะถูกลอกทิ้งไปเลยละมั้ง....

แหม...ช่างภาพบรรจงเก็บภาพอย่างละเอียด...ทำยังกับว่า...จะเข้าห้องผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งยังงั้นแหละ อดนึกสนุกไม่ได้ว่า...เออ...นี่ถ้าเข้าไปแล้ว...ตอนออกมาหน้าตาเปลี่ยนลุ๊คสไป...สวยเหมือนดาราดังบางคน จนคนบางคนจำไม่ได้เลยก็ดีน่ะซี้...โดยเฉพาะเจ้าหนี้ ! หลังจากถูกบันทึกภาพใบหน้า และส่วนที่ถูกลวกครบทุกจุดหมดแล้ว ก็ถูกเยี่ยมด้วย...ญาติสนิทมิตรสหายที่ส่งข่าวบอกกันเป็นทอดๆ ช่วงเช้าของวันเสาร์ที่ 28 นั้น ห้อง ICU ฉุกเฉินของโรงพยาบาล West Hills จึงพลุกพล่านไปด้วยผู้คนที่ทยอยกันเข้ามาเยี่ยมคนป่วย จนพยาบาลและผู้รักษาการณ์ในห้องนั้นรู้สึกหงุดหงิดอยู่รำไร อยากรู้ว่า...ผู้ประสบอัคคีภัยทั้ง 3 คนนี้เป็นใคร ? มีความสำคัญอย่างไร...ถึงได้มีญาติเยอะขนาดนี้ ครั้นจะไม่ให้เข้าเยี่ยม...ก็ดูกระไรอยู่ ต่างอ้างตัวว่าเป็นญาติสนิทกันทั้งนั้น....

หลานสาวก้านยาว Stephanie อุตส่าห์ขับรถจาก San Dimas มาเฝ้าอยู่ข้างเตียงฉันเป็นคนแรก... ซ้ำบอกให้กำลังใจว่า...ออกจากห้อง Surgery แล้วจะได้พบหน้ากับ ลูกชายที่ไม่ค่อยจะได้เจอกัน หลังจากที่เขาได้สละโสดไปกับสาวฝรั่งเศส...เมื่อ 3 ปีก่อน เพราะเขากำลังเดินทางมาเยี่ยม....

โห...ดีใจเป็นที่สุด คนเป็นแม่ก็หัวใจพองโตนะซี้...ที่จะได้เจอลูก ! ใครโทรไปบอกเขานะ...รวดเร็วทันใจดีเหลือเกิน...ใครนะใคร ?

หลาน Stephanie รายงานว่า...เขาได้เห็นข่าวไฟไหม้จากจอทีวี สะดุดใจกับเลขที่บ้านและสถานที่บ้านเพลิงไหม้ จำได้ว่าเป็นบ้านที่เขาเติบโตมาตั้งแต่เยาว์วัย...แล้วยังได้เห็นภาพฉันกับน้องชายถูกหาม ขึ้นรถแอมบูแลนซ์ซะอีกแน่ะ...ตอนแรกก็ช็อคตกใจจนทำอะไรไม่ถูก จนภรรยาสาวต้องให้สติ...จากนั้นเขาจึงติดต่อเข้ามาที่ ร.พ. และได้คุยกับหลาน Stephanie ที่ยืนยันไปว่า...ทุกคนปลอดภัยแล้วกำลังรอคิวเข้าห้อง Surgery อยู่...ให้เขามาเยี่ยมได้เลย...

ให้ตายสิ...โมเม้นท์นั้น...รู้สึกดีใจจนลืมเจ็บไปเลย..คุณขา...เพราะนอกจากจะได้เจอลูกชาย...ที่กลายเป็นคนมีเจ้าของแล้ว อยู่อเมริกามาเกือบ 44 ปี...ก็เพิ่งจะได้ออก TV ที่นี่กะเขาบ้างคราวนี้เองหละ !!!!!

(อ่านต่อเสาร์หน้านะคะ..การันตี)