เหตุที่ฉันเป็นชู้กับตัวหนังสือมาเนิ่นนานนี่เอง จึงมีโอกาสได้สัมผัสกับหนังสือหลากหลายประเภท แล้วแต่ว่า...อารมณ์ในโมเม้นท์นั้น...มีใจให้รสชาติใด
ตั้งแต่อายุเข้าสู่วัยทอง รสนิยมในการอ่านของฉันหันเหลำเอียงเข้าหาหนังสือประเภทแนวแฝงคติธรรมะ...ให้กำลังใจ (Self Help / Inspiration) มากหน่อย...วัยนี้แล้วนี่นะ ใครก็ไม่กล้าสอน...เลิกตักเตือนกันแล้วละ ให้ธรรมะ...ให้ธรรมชาติ...ให้ประสบการณ์ของตัวเอง...ของคนรอบข้าง และหนังสือดีมีคุณธรรม คอยสะกิดกระทุ้งใจ...ไม่ไปรบกวนใครดีกว่า !
ดังนั้น...หนังสือตัวอักษรสีม่วงทุกเล่มของ “ขวัญ เพียงหทัย” เจ้าของ ส.น.พ.เรือนขวัญ...ตั้งแต่ ธรรมะรอบกองไฟ...ธรรมะระเบียงแก้ว...ธรรมะเอกเขนก ช็อปปิ้งบุญ มาจนถึง 2 เล่มล่า...ดั่งสายน้ำไหล และรอยยิ้มดอกไม้ จีงเป็นเล่มโปรดที่ฉันหยิบขึ้นอ่านได้ทุกเวลา...โดยไม่ต้องเลือกบทตอน...บทต่อเนื่อง เพราะทุกแผ่นทุกหน้า ให้ข้อคิดธรรมะได้เตือนสติตัวเอง....ให้ความสว่างกับสมอง และใจที่กำลังว้าวุ่นขุ่นมัว...ได้อย่างอัตโนมัติ โดยไม่ต้องเข้าวัดหรือพกพาปัญหาไปพึ่งพาใคร...
ไม่น่าเชื่อว่า...ตัวอักษรเหล่านั้นสามารถสงบจิตใจ ไล่ความฟุ้งซ่านสับสน...ให้ได้คิดทะลุถึงการแก้ไข
วันนี้...ขอฉวยโอกาสนำบางวรรค...บางตอนของตัวอักษรสวยๆ จากมุมมองโปร่งใสแฝงคติธรรมะสอนใจของ “ขวัญ เพียงหทัย” จากหนังสือ 2 เล่มล่า “ดั่งสายน้ำไหล” และ “รอยยิ้มดอกไม้” มาฝาก...เป็นการอุ่นเครื่องให้เพื่อนๆ กระหายอยากได้ไว้เป็นเพื่อนข้างเตียง...เหมือนฉันบ้าง !!
- การฝึกธรรมะไม่ใช่เพื่อให้หลุดพ้นจากความทุกข์ เพราะนั่นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ โลกนี้มีความทุกข์อยู่เสมอ หากแต่เราฝึกธรรมะเพื่อให้อยู่ท่ามกลางความทุกข์ได้...โดยไม่ทุกข์ต่างหาก
- บางทีเราไขว่คว้ามากเกินไป...ทำให้คว้าผิดที่ อย่างเช่นที่บอกว่าอยากมีความสุข ก็มองหาว่าทำอย่างไรจึงจะมีความสุข...ลอยผ่านเข้ามาในใจ จึงไม่พบความสุข พบแต่หัวใจว่างเปล่าที่รอความสุขพลิ้วลงมาจากสายรุ้ง ความจริง...ความสุขนั้นอยู่ในใจอยู่แล้ว แต่มีผ้าคลุมสีดำของความทุกข์บังไว้ เมื่อเรารู้ทุกข์...เข้าใจเหตุแห่งทุกข์แล้ว ปล่อยไป...ทิ้งไปอย่างไม่ต้องมีเหตุผล...ทุกข์ก็จะหายไป เมื่อผ้าคลุมหายไปก็มองเห็นความสุขอยู่ตรงนั้นเอง...
- เราไม่รู้หรอกว่า...ใครมีเหตุผลอะไร มีเงื่อนไขอันใด มีความจำเป็นแค่ไหนที่ส่งผลให้ การกระทำของเขาออกมาในแบบที่เห็น บางทีเราเพียงแต่เห็นผลที่ออกมาซึ่งไม่เหมาะสม แต่เราไม่รู้เงื่อนไขอะไรเลย...เบื้องหลังการกระทำนั้น บางทีถ้าเราไปยืนอยู่ในจุดของเขา เราอาจต้องตัดสินใจอย่างเดียวกัน
- ความสุขของคนที่อยู่ด้วยกัน...อยู่ที่การยอมรับกันได้ เราเพียงยอมรับรูปแบบความสุขของกันและกัน เราก็จะมีความสุขได้ทั้งสองฝ่าย แต่ก็คงหมายถึงปริมาณที่พอเหมาะด้วย เหมือนการชงเครื่องดื่มให้พอเหมาะจึงจะอร่อยนั่นเอง
- ชีวิตคือ...การเลือกอยู่ตลอดเวลา เลือกที่จะกลับไปแก้ไขอดีตหรือไม่ไป...เลือกที่จะแก้ไขหรือไม่แก้ไข อยู่ในปัจจุบันก็เลือกที่จะทำหรือไม่ทำ มันเป็นการตัดสินใจ จนบางทีเราก็ไม่ได้สังเกตว่า...นี่คือการเลือก บางครั้งการไม่เลือกทำให้มีปัญหา...
- คนส่วนใหญ่ยินดีมั่นคงอยู่กับความทุกข์ยาก อยู่กับความเคยชินของตัวเอง แม้จะเป็นสาเหตุให้เกิดทุกข์ แต่ไม่อยากจะเสี่ยง...ไม่อยากจะฝึก ไม่อยากฝืนเพื่อจะมีความสุข ทั้งๆ ที่เราเองคือผู้เดียวที่จะสามารถสร้างความสุขให้ตัวเราเองได้ - แต่การเป็นผู้ให้ ก็ให้เมื่อสามารถให้ได้ อยู่ในกำลัง หากเรื่องใดเกินกำลังไปมากก็ไร้ผล เพราะถ้าคุณตายไป คุณจะให้อะไรได้เหมือนช่วยคนตกน้ำ ตัวเองต้องว่ายน้ำเป็นก่อน อย่างไรก็ตาม สิ่งเล็กน้อย ในชีวิตประจำวัน ย่อมมีโอกาสให้เราแบ่งปันได้เสมอ และเมื่อได้ให้...ใจก็เป็นสุข
- คนเรา “อยาก” เพราะมีความเห็นแก่ตัวเป็นที่ตั้ง ที่อยากโน่นอยากนี่ก็เพื่อเสิร์ฟความสุขให้ตัวเองทั้งนั้น แต่...ในขณะเดียวกันตัวเองก็เป็นถังความสุขรั่ว ความสุขส่งเข้ามาเท่าไหร่ก็ไม่พอ และยังเกเรว่าความสุขนั้นต้องได้มาจากผู้อื่น.... ผู้อื่นต้องคอยสนองตามความอยากของตัวเอง โดยตัวเองก็ไม่สนใจว่า คนอื่นเขาก็มีความอยากเหมือนกัน
- บางทีเราไม่เห็นความสำคัญของต้นไม้ เพราะเราไม่เห็นความสัมพันธ์ของต้นไม้กับตัวเรา เราลืมไปเลยว่า...เราหายใจอยู่ทุกวินาที ถ้าเราไม่ได้หายใจเราจะตาย ถ้าอากาศที่เราหายใจไม่มีออกซิเจนเราจะตาย แต่เราก็ไม่ได้ตระหนักว่าออกซิเจนมาจากต้นไม้...ต้นไม้คือโรงงานผลิตออกซิเจนให้เรา
- คนที่พึ่งตัวเองได้...มีใจมั่นคง เกิดแผลใจก็รักษาเองไปเงียบๆ ไม่ต้องโวยวายไม่คร่ำครวญ...ไม่ร้องขอความเห็นใจจากใคร...ไม่เพ้อคลั่งกล่าวหาว่าคนอื่นทอดทิ้ง ไม่หวั่นหาคนให้มาเฝ้าปลอบ...ไม่แค้นเคืองคนที่ไม่มาปลอบ...เขาไม่ต้องการใคร สำหรับกรณีนี้...ความเงียบและเวลาคือยาที่เขาต้องการ เขาเป็นต้นไม้ใหญ่ที่ใจมีแก่น เขารักษาตัวเองได้
- แต่ถ้าเราสามารถพอใจจริงๆ ในสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว โดยไม่เสแสร้งแกล้งพูดไม่ใช่การยอมจำนน แต่เป็นการพิจารณาและยอมรับจริงๆ ว่า... สิ่งที่มีอยู่แล้วก็ทำให้ชีวิตอยู่ได้...ความกังวล...ความลุกลี้ลุกลน...ความเศร้าสร้อยโหยหา...ความโกรธเคืองโชคชะตา...ความน้อยใจชีวิตเหล่านี้ก็จะค่อยจางคลายไป ความสุขก็จะเข้ามาแทนที่ แล้วความสงบก็จะเกิดขึ้น
- เหมือนคนที่อบอุ่นเป็นที่พึ่งแก่คนรอบข้าง มีคำแนะนำที่ดีๆ ให้ช่วยแก้ปัญหา มีคำปลอบใจดีๆ ที่ช่วยเยียวยาอารมณ์ เพียงบีบมือเบาๆ เพื่อให้กำลังใจในการก้าวใหม่ไปให้ไกล...
- เราใส่สิ่งดีๆ ลงในชีวิตของเราได้ด้วยตัวเราเอง มีคนบอกว่าให้เด็ดดอกไม้เสียตั้งแต่ยังมีโอกาส เราอยากทำอะไรดีๆ ให้ตัวเองก็รีบทำ...เราอยากทำอะไรดีๆ ให้คนอื่นก็รีบทำ ใช้ชีวิตให้เหมือนเป็นวันสุดท้าย ชีวิตที่ดีมีประโยชน์ มีคุณค่าสมกับที่ได้เกิดมา และให้เป็นชีวิตที่มีหัวใจเป็นสุขด้วย
- การจะอยู่กับโลกต้องอดทน ดังนั้น อดทนจึงเป็นคำสอนข้อแรกของธรรมะ ฝึกอดทนเข้าไว้ จะเป็นประโยชน์กับตัวเอง อดทนกับการร้องขอของคนอื่น และอดทนที่จะไม่ร้องขอใคร ถ้าไม่จำเป็นสุดๆ ก็ต้องพึ่งตัวเองให้ได้
ข้อความบางตอนที่เลือกมาจากหนังสือทั้ง 2 เล่มของ “ขวัญ เพียงหทัย” นี้คงให้ข้อคิดและจุดประกายสว่างไสวในหัวใจเพื่อนพ้องน้องพี่ ที่ติดตามคอลัมน์นี้บ้างนะคะ งานของ ส.น.พ. เรือนขวัญ นอกจากนำเสนอความรู้สาระบันเทิงไปกับธรรมชาติแล้ว...ยังได้ซึมซับภาพสวยในมุมมองของความคิด....แฝงหลักธรรมะไปโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย...อยากได้เป็นเจ้าของลองติดต่อสั่งที่คลังหนังสือ “ดอกหญ้า” สาขาฮอลลีวูด หรือจะติดต่อโดยตรงที่ gm@gmgroup.in.th ก็ได้ค่ะ รับประกันคุณภาพ...ได้ความสุขใจกันชัวร์...ชัวร์