องค์กร Access ของแอล.เอ. นั้น มีสาขาด้วยกันทั้งหมดอยู่ 6 เขตคือ...
เขต 1 Eastern Regionเวลาจะโทรเข้าไปจองรถบริการ ต้องรู้ว่าจุดหมายปลายทางที่จะไปอยู่ในเส้นทางดูแลของเขตใด และต้องโทรจองล่วงหน้าหนึ่งวัน (ภายใน 24 ช.ม.) จากประสบการณ์ของฉัน เคยได้ใช้บริการ Access อยู่ 3 เขตเท่านั้น คือ เขต 1 (Eastern) เขต 2 (West Central) และเขต 4 (San Fernando) หากที่พักของคุณอยู่ในละแวกของนอร์ทฮอลลีวูด...ซันแวลเล่ย์...พาโนรามาซิตี้...หรือแวนนายย์ละก้อ...
ขอแนะนำให้ใช้บริการ Access ของเขต 4 (San Fernando) สาขานี้จะใช้พาหนะเป็นรถแวนสีขาวเป็นส่วนใหญ่ แม้ว่าบางครั้งจะเป็นรถยนต์เล็ก...ก็สะอาดสะอ้านใหม่หมดจด สีขาวมีโลโก้ Access คาดข้างรถทุกคัน...ซ้ำโชเฟ่อร์ที่มีทั้งหญิงและชาย ส่วนใหญ่มาในยูนิฟอร์มขาว-ดำ สุภาพมารยาทดีเกือบทุกคน...ไม่ว่าจะเป็นชนชาติอะไร
ต่างกับเขต 1 (Eastern) และเขต 2 (West Central) ราวฟ้ากับดิน ที่ส่วนใหญ่จะส่งแท็กซี่ที่มีโชเฟ่อร์ชาวอามีเนียนมาบริการ....80% มารยาททราม...รถสกปรก...บริการห่วย...ขับรถเร็ว...และเหม็นบุหรี่ เข้าใจว่าเวลาไม่มีผู้โดยสารหรือเวลาไปรอรับคงฆ่าเวลาด้วยการรมควันกันนั่นเอง...
ฉันก็เพิ่งผ่านการผจญภัยเฉียดหัวใจวายมาหมาดๆ จากโชเฟ่อร์แท็กซี่ของเขต 1 เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมานี่เองหละ...ที่จองรถให้มารับไปทำธุระที่บ้านเพื่อนเมืองโพโมน่าเวลา 10.00 เช้า คิดเอาเองว่าวันสุดสัปดาห์คงไม่มีผู้โดยสารร่วมทางด้วยหลายคนนักหรอก...ถึงจุดหมายก็คงได้ทันอาหารกลางวันพอดี ปรากฎว่าได้โชเฟ่อร์ชาติอามีเนียนอย่างที่แอบระแวงไว้ไม่ผิด เขาว่า...ต้องไปรับและส่งผู้โดยสารอีก 2 ราย คนหนึ่งรับที่เบอร์แบงค์ไปส่งที่พาสดีน่า แล้วไปรับอีกคนในฮอลลีวูดตรงดิ่งไปส่งที่อาร์คาเดีย...ก็โอเคคิดว่านั่งชมทิวทัศน์ไปอย่างสบายใจ...ยังไงๆ ก็ถึงปลายทางไม่เกินเที่ยงวัน...ปัญหาเรื่องถ่ายน้ำออกจากร่าง...พอทนได้อยู่หร็อก....
เปล่า...ฉันคิดผิดค่ะ...
โชเฟ่อร์ส่งคุณลงที่อาร์คาเดียแล้ว...ไอ้คุณโชเฟ่อร์มันหันมาบอกฉันว่า...ขอแวะเข้าออฟฟิศที่เมืองอัลมอนเต้หน่อย ฉันเห็นว่าเป็นทางผ่านไปโพโมน่าอยู่แล้วนี่ ไม่เป็นไร...ช้านิดหน่อยอะลุ่มอล่วยกันได้ จะบ่นให้อารมณ์บูดไปทำไมล่ะ เราไม่ได้ถือกุญแจรถเองนี่นะ...อย่างดีก็แค่สบถอยู่ในใจ !
แหม...ไอ้คุณโชเฟ่อร์มันให้ฉันนั่งรอในรถคนเดียว...ตั้ง 15 นาทีเชียวนะ...มันเข้าไปทำอะไรของมัน (วะ) ? ฉันเริ่มรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมารำไรๆ แต่ก็...เฮ้อ...ไม่เป็นไรอดทนอีกนิดละกัน จากตรงนี้...ขึ้นฟรีเวย์ไปอีกไม่นาน ก็ถึงโพโมน่าบ้านเพื่อนแล้ว...คิดปลอดใจตัวเองตอนที่แวบหนึ่งคิด...เอ...รึว่าน่าลงไปขอเข้าห้องสุขา...ฮึ...ไม่ดีกว่า ใครจะชอบ “ฉี่” แปลกที่แปลกทางบ้างล่ะ
แล้ว...ฉันก็คิดผิดรอบ 2
พอมันเสร็จธุระออกมาสตาร์ทรถได้ ก็บึ่งขึ้นฟรีเวย์...ลิ่วโลดไปเลย...อ้าว...เฮ้ย...นั่นมันไม่ใช่เส้นทางไปโพโมน่านี่หว่า...ก็ไหนว่าเป็นคิวส่งฉันแล้วงัย เมื่อแน่ใจว่าไอ้คุณโชเฟ่อร์มันบึ่งมาเข้าฟรีเวย์ไปวิทเทียร์ - นอร์วอล์ค เท่านั้นแหละ ความอดทนที่หดเหลือจี๊ด..ดเดียว พ่นพลังเสียงออกไป...
“จะไปไหนเนี่ย...ทำไมยูไม่เข้าสายโพโมน่า มาเข้า 605 ทำไม...ไหนว่าส่งผู้โดยสาร 2 คนแล้วถึงคิวส่งฉันงัยล่ะ ?” หน็อย...คงคิดว่าเราเป็นเอเชียเฒ่าโง่เง่าไม่รู้เส้นทางรึไง..กะมั่วนิ่มเต็มที่เลยละซี มันยังมีหน้าตอบเสียงขุ่นกลับมาอีกแน่ะ...
“ไอต้องไปทำธุระด่วนที่นอร์วอล์คก่อน”
โหย..ดู๊..ดูมัน..มันสมควรถูกด่าไหมเนี่ย..เฮ้อ..สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ใจเย็นเข้าไว้...ใจเย็นไว้...ควบคุมสติไม่ให้มือไวคิดอยากยกไม้เท้าขึ้นฟาดกบาลมันสักที เส้นทางไปนอร์วอล์คไม่ใช่ใกล้...ไม่มีทางเลือกอื่นด้วย นอกจากปลอบใจตัวเองคิดเสียว่า...ได้มาเที่ยวถิ่นเก่าสมัยปี 69 ที่อยู่กับอเมริกันแฟมิลี่ที่เมืองดาวนี่ก่อนถึงเมืองนอร์วอล์คนี่ซะก็แล้วกัน
พอถึงจุดหมายของไอ้คุณโชเฟ่อร์...เป็นบ้านหลังหนึ่งในเมืองนี้ ระหว่างนั่งรอมันอยู่ในรถราว 10 นาที ฉันฉวยโอกาสโทรศัพท์เข้าไปรายงานเพื่อนว่า...เกิดอะไรขึ้น เพราะตอนนี้นาฬิกาบอกเวลาเกือบบ่ายโมงแล้ว ยังไปไม่ถึงโพโมน่า...ไม่รู้ว่ามันถูกกิ๊กบ้าน 2 เรียกตัวให้มาหารึป่าว...เดาเอานะ ถึงยังไงมันก็ไม่ควรเอาเวลาทำงาน มาแนมมั่วกับเรื่องส่วนตัว ในเวลาร่วม 3 ช.ม. เนี่ยมันยุติธรรมอยู่หรือ ?...
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...ผู้โดยสารอย่างฉันที่มีเบาหวานเป็นคู่ซี้ ที่จำเป็นต้องปล่อยน้ำออกทุกๆ ช.ม. โหย...ไม่ไหวแล้วค๊า...ถึงตอนนี้...รู้สึกว่าอดกลั้น...หนีบต่อไปไม่ไหวแล้ว..ว..ว
พอไอ้คุณโชเฟ่อร์ (ชื่ออะไรไม่รู้...ไม่มีป้ายรูปถ่ายติดอยู่ในรถเสียด้วย ไม่งั้นจะแจ้งฟ้องคอมเพลนให้เข็ด) กลับออกมาขึ้นรถ ฉันเลยส่งเสียงขุ่นออกไปบ้างว่าจำเป็นต้องเข้าห้องน้ำ เพราะนั่งมานานเกินกำหนด...ขอเข้าไปใช้ห้องน้ำได้ไหม...แหม...มันสวนกลับเสียงขุ่นกว่าทันทีเลยว่า
“ไม่ได้...ที่นี่บ้านคนไม่ใช่ที่สาธารณะ ทนไหวไหมล่ะอีก 20 นาที ไอจะรีบบิ่งให้ถึงโพโมน่า”
“ไม่ไหว..ยูต้องแวะปั๊มน้ำมัน...แม็คโดนัล...หรืออะไรก็ได้ที่ใกล้ที่สุด...เข้าใจไหม ?”
ประมาณว่าน้ำเสียงข่มเข้มโต้กลับของฉัน...คงมีพลังขลังพอควร บ่งบอกให้ได้รู้ว่า...ถ้าคุณมึงไม่หยุดหาห้องสุขาละก้อ ได้ดมกลิ่นน้ำเบาหวานฟุ้งกรุ่นอยู่ในรถแน่ !!
ได้ผล...มันจำเป็นต้องพุ่งรถเข้าไปจอดให้ฉัน ได้ลงไปใช้ห้องสุขาแม็คโดนัลมุมถนนใกล้ที่สุด...จากนั้นการผจญภัยของฉันคราวนี้ ได้สิ้นสุดถึงจุดหมายเมื่อเวลาบ่ายโมง 28 นาที รวมเวลาเดินทางทั้งหมด 3 ชั่วโมง 28 นาที ซึ่งถ้าขับรถไปเองจากบ้านแชโดว์ฮิลล์...ตรงดิ่งไปโพโมน่าอย่างสบายไม่รีบร้อนคงใช้เวลาไม่เกิน 40 นาทีเท่านั้น...
นั่นเป็นการผจญภัยตอนขาไปนะคะ ยังค่ะ...ยังไม่หมดแค่นั้น...เพราะตอนขากลับวันรุ่งขึ้นก็ต้องใช้บริการของเขตนี้อีกนั่นแหละ... ภาวนาขออย่าให้โชคร้าย...ได้เจอกับไอ้โชเฟ่อร์มั่วนิ่มคันเดิมก็แล้วกัน
วันรุ่นขึ้น...ถึงเวลานัด Access มารับเที่ยงครึ่ง...คุณโชเฟ่อร์นำรถแท็กซี่สีแดงดำมาจอดเทียบฟุตบาทหน้าบ้านคุณวันดี...ขณะที่เปิดกระโปรงรถด้านหลังให้ฉันได้เอาสัมภาระเข้าไปเก็บไว้...ก็ยังเหลือบเห็นนิ้วที่คีบบุหรี่ของเขาจนได้...เฮ้อ...หนีไม่พ้นโชเฟ่อร์อามีเนียนตามเคย...เอ...หรือไม่ใช่...หน้าตาหนุ่มใหญ่คนนี้ ดูมีเค้าว่าน่าจะเป็นอิตาเลี่ยนมากกว่านะ ดูท่าว่าไม่น่าอุบาทว์...อย่างตัวเมื่อวาน !
อดถามไม่ได้ว่า...มีฉันเดินทางไปคนเดียวรึเปล่า ?
คำตอบที่ได้คือ...ต้องไปรับ - ส่งอีก 3 ราย ก่อนถึงคิวส่งฉันเป็นคนสุดท้าย...สุดท้ายอีกแล้วเหรอ แล้ววันนี้กรู...จะได้ถึงบ้านก่อนพระอาทิตย์ตกดินไหมเนี่ย... คุณโชเฟ่อร์เธอจัดให้นั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถคู่กับเธอ...เพราะลงเป็นคนสุดท้าย จากนั้น...ออกรถแล่นถนนธรรมดามาตลอด จนถึงสถานที่พักฟื้นเนิร์สซิ่งโฮมเมืองโควีน่า ที่ไม่ขึ้นฟรีเวย์ตอนนี้เพราะเมืองโพโมน่ากับโควีน่าอยู่ติดเชื่อมกันละมัง...
แล้ว...ปัญหามันก็มีอีกจนได้...หาตัวผู้โดยสารที่นัดให้มารับไม่เจอ
คุณโชเฟ่อร์ต้องลงไปตามหาตัวข้างในตึกอยู่เป็นนาน... กลับขึ้นรถแล้วก็ยังวนหารอบๆ บริเวณจนเลยเวลานัด แน่ใจว่าไม่ปรากฎตัวจริงแล้ว จึงโทรศัพท์เข้าไปรายงานศูนย์...เป็นอันว่าจะต้องไปรับรายต่อไป...ที่เอ็กโคพาร์ค - อัลราวาโด กลางใจเมือง แอล.เอ. โน่นแน่ะ...เฮ้อ...ได้เที่ยวไกลอีกแล้วสิเรา...
พอรถขึ้นฟรีเวย์ได้เท่านั้นละ...หายหงอยเลย... โหย...คุณขา ไอ้หมอนี่ต้องเคยเป็นนักแข่งรถมาก่อนหรือไม่...ก็เคยเป็นโจรชำนาญการขับรถหนีตำรวจ... มันขับเร็ว..ว..แล้วยังย้ายซิคแซคไปมา...ให้เสียวเล่นอีก ว๊าย...หัวใจจะวายเสียให้ได้ ดันให้มานั่งข้างหน้าซะอีก เสี่ยงตายนะเนี่ย...แต่ยังตายไม่ได้...ได้ยังไง ตายในแท็กซี่...เสียศักดิ์ศรีหมดสิ !
ฉันมีวิธีแก้ไข...รีบหยิบแว่นตาดำกันแดดขึ้นมาสวมใส่ทำให้เหมือนกิ๊บเก๋เต็มประดา แต่หลับตาไปซะ ไม่ต้องมองเห็นอะไรให้มันหวาดเสียว...แค่รู้สึกแรกเหวี่ยงกระชากย้ายเลนไปมา ก็เกร็งเท้าแบบเหยียบเบรคจะแย่อยู่แล้ว
เฮ้อ...ชีวิตหนอชีวิต...เป็นของเราก็จริง แต่โมเม้นท์ในสภาวะจำยอมแบบนี้ ชีวิตเราขึ้นอยู่กับมือและเท้าของคุณโชเฟ่อร์ไป...อย่างไม่มีทางเลือก
สรุปว่า...การใช้บริการพาหนะรับ-ส่งขององค์กร Access นั้น ประหยัดค่าใช้จ่ายให้ได้เดินทางไปถึงจุดหมาย โดยมิต้องพึ่งพาเป็นภาระกับใคร...แต่ต้องทำใจและอดทน คิดให้ลึกซึ้ง...ยังได้โบนัสแถมมาอีกหลายสิ่ง...เป็นต้นว่า...
• ได้สัมผัสกับผู้โดยสาร หลากหลายรูปแบบ
• ได้ชมทิวทัศน์ของบ้านเมืองใกล้เคียงไปในตัว...ไม่ต้องจ้างทัวร์ไกด์
• ได้ตื่นเต้นกับการผจญภัยไปในตัว...เพิ่มรสชาติให้กับชีวิตจืดชืดที่จำเจ
และ...ไม่ว่าจะเจอผู้ร่วมโดยสารชนิดไหน...หรือโชเฟ่อร์ประเภทใด ยังงั๊ย...ยังงัยคุณก็ได้ไปถึงจุดหมายปลายทาง....อย่างแน่นอน !!