ตอน จักรพายุหะ ภาคหนึ่ง

สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่รัก ท่านใดสนใจการเข้าอบรมสมถกรรมฐานเพื่อเปิดประตูบารมีในชาติที่ก่อนให้แปลงเป็นเงินในชาตินี้และอบรมการจัดฮวงจุ้ยเบื้องต้นด้วยตนเอง เชิญครับที่อาคารของผม มีหลายสถานที่ รับแค่ 12 ท่านต่อหนึ่งชั้นเรียนเท่านั้นครับ ฟรีไม่มีเงื่อนไขใดๆ

ติดต่อมาได้ครับ หากแอดไลน์ไม่ได้ก็เซฟเบอร์ผม ไลน์จะขึ้นเองหรือโทรหรืออีเมล์มาได้ รีบหน่อยครับ มีโควต้าจำกัดจริง (818)399-5757, Line: stevefengshui Email: stevefengshui@gmail.com

มาคุยเรื่องโหราศาสตร์กันต่อครับ


รู้ชีวิต…ด้วยดวงดาว

จักรพยุหะ คือดาวเคราะห์ที่เข้ามาร่วมราศีกัน และดาวนั้นต่างก็เป็น “กาลกิณี” ต่อกันตามตำรา “ทักษาคู่ธาตุ” นั่นเอง ซึ่งจะมีอยู่ 4 คู่คือ– ๑-๒, ๓-๔, ๕-๗, ๖-๘.

ความจริง ดาวที่เป็นกาลกิณีต่อกันนั้นยังมีมากกว่านี้อีก เช่น ๒-๓, ๗-๔, ๘-๕, ๑-๖. เป็นต้น แต่โบราณาจารย์ท่านไม่ได้นับเข้าเป็น ตัวหลัก ในที่นี้ และถือว่ามีความหมายรองลงไปจากตัวหลัก เหตุผลที่ไม่นำมาเป็นตัวหลักนี้คงจะเป็นเพราะว่า ดาวบางคู่นั้นเป็น คู่สมพล ต่อกันนั่นเอง ท่านจึงถือเอาเพียง 4 คู่ที่ว่านี่เท่านั้น

แล้วใช้ยังไงล่ะ มันให้โทษหรือให้คุณ?

ใจเย็นๆ ครับ ใจเย็นๆ ไว้ ผมไม่ปิดบังหรอกน่า ยังไงๆ ก็ต้องเปิดพุงขยายให้ฟังกันอยู่แล้วละ รออีกซักแป๊บนึงไม่ได้หรือไงนะ

“จักรพยุหะ” นี่เป็นคู่ดาวที่แสดงโทษมากกว่าคุณ และแต่ละคู่ก็จะแสดงโทษผิดแผกกันไปตามความหมายของดาวหรือชาติเวร ซึ่งโบราณท่านกำหนดเอาไว้คร่าวๆ ได้ยังงี้ครับ

๑-๒ ถ้าดาวดวงใดดวงหนึ่งเป็นดาว อายุ จะทำให้เป็นคนที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง มักจะชอบเล่นชู้ ครอบครัวไม่ราบรื่น

๓-๔ หลักฐานมักคลอนแคลน ในชีวิตมีสิทธิ์ที่จะต้องขายบ้านขายที่ดินหรือทรัพย์สมบัติของดั้งเดิมที่ตัวเองมีอยู่ จะมีศัตรูเพราะปาก (คำพูด) ของตัวเอง

๕-๗ ถ้าอยู่ในภพ อริ ระวังจะเป็นโรคประสาท ดาวคู่นี้ถ้าอยู่ในภพไหน จะมีอิทธิพลที่จะ เปลี่ยนแปลง หรือบ่อนทำลายภพนั้น เช่น อยู่ในภพ ศุภะ ก็มักจะทำลายความเจริญ คือพอเจริญขึ้นมาแล้วก็จะต้องพบกับความวินาศอย่างน้อยก็ครั้งหนึ่งในชีวิต (เช่น ดวงเมือง เป็นต้น) คำนี้ที่ในคัมภีร์โบราณใช้ว่า “จะเข็ญใจ” และมักจะทำให้เจ้าชาตาที่มีดาวคู่นี้อยู่ในดวง จะเป็นคนที่ชอบสร้างวิมานในอากาศมาก

๖-๘ ดาวคู่นี้อยู่ในดวงใคร โดยเฉพาะอยู่ในภพ “ปัตนิ” หรือ “ปุตตะ” ด้วยแล้ว ท่านว่าผู้นั้นมักจะมากไปด้วยกามตัณหา และจะเป็นคนที่เรียกกันว่า “ตัณหากลับ” คือถึงจะแก่เฒ่าเหลาชราแล้ว ก็ยังชอบเรื่องของกามคุณอยู่มาก จนผู้อื่นอาจมองเห็นได้เลยว่าตาเฒ่าคนนี้หมกมุ่นในเรื่องเพศ เพราะชอบมองเด็กสาวๆ ตาเป็นมันไปทุกคน และโทษที่เจ้าของดวงมักจะได้รับก็คือ ความไม่สมใจในด้านความรัก และจะมีทุกข์เพราะความรัก หรือมักจะสูญเสียเงินทองในเรื่องอย่างนี้ได้เสมอๆ อย่างชนิดที่เรียกกันว่า “ถูกต้ม” น่ะแหละ

ว่ากันว่า ถ้าดาวนี้เข้าไปเกี่ยวข้องกับภพวินาสน์ด้วย จะมีโอกาสที่จะได้เข้าไปกินข้าวแดงในคุกหรือต้องสูญเสียเกียรติยศชื่อเสียงเพราะมีคดีความในเรื่องที่เกี่ยวกับกามตัณหานี่แหละ

เป็นไงครับ ฟังดูแล้วก็พอจะเห็นได้นะครับว่า เพียงแค่ดาวที่ปรากฏอยู่ในดวงชาตาในแบบนี้ ก็ทำให้เราได้รู้หรือได้มองเห็นจุดเสียของดวงชาตาอยู่อย่างไม่ยากเย็นนักเลย เพื่อความเข้าใจ ลองดูดวงตัวอย่างที่ผมยกมาให้ดูนี่ซีครับ

ดวงนี้เป็นของใครอย่าให้ผมเอ่ยชื่อเลยครับ มันจะกระเทือนซางเจ้าของดวงเขา แล้วผมก็ไม่ได้ขออนุญาตเขาด้วย ขืนบอกไปเดี๋ยวเขาเล่นงานผมฐานหมิ่นประมาทก็จะยุ่งกันอีก บอกแต่เพียงว่า เจ้าของดวงนี้แหละครับที่ตกเป็นข่าวเรื่องไปยุ่งกับเด็กสาวที่อายุยังไม่ครบกำหนดที่กฎหมายอนุญาตให้ใครอื่นไปร่วมเพศกับเธอได้

แต่เจ้าของดวงนี้ก็อดไม่ไหว ทั้งๆ ที่ตัวเองมีชื่อเสียงอยู่และก็มีอายุเข้าเขต “ไม้ใกล้ฝั่ง” แล้วละ ไหงถึงอดไม่ไหวก็ไม่รู้ เลยต้องมาสู้คดีกับตำรวจเสียชื่อเสียงป่นปี้ไปเพราะไอ้ดาว ๖-๘ นี่เอง

จากดวงนี้ คุณคงมองเห็นแล้วซีนะครับว่า ในดวงมีดาว ๖-๘ ซึ่งเป็นจักรพยุหะสถิตที่ราศีพิจิก ซึ่งก็คือภพ ศุภะ ของดวงชาตานี้

ถ้าคุณอ่านดวงนี้ให้ดีๆ คุณจะเห็นได้ว่า ดวงชาตาอย่างนี้เป็นดวงชาตาที่มีคุณภาพ เป็นดวงที่เด่นมากดวงหนึ่ง

เห็นไหมครับว่ามีดาวมาตรฐานอุจจ์อยู่ถึงสองดวง คือ ราหู, จันทร์ แถมพฤหัสฯ ยังโยคหลังลัคน์และโยคหน้าดาวจักรพยุหะอีก

ซึ่งหมายถึงกระแสของจักรพยุหะจะต้องมาถึงลัคนาอย่างแน่นอน เพราะดาวพฤหัสฯ นั้นก็คือตนุลัคน์อยู่แล้ว จึงเป็นตัวเชื่อมโยงให้อิทธิพลของจักรพยุหะถึงลัคนาอย่างสบายอีกด้วย

นอกจากนั้น ดวงนี้ยังมีดาวเรียงติดต่อกันถึงเจ็ดราศี เข้าเกณฑ์พระจันทร์ตรีอีก มีพระเกตุเล็งภพวินาสน์อยู่ดวงเดียวเท่านั้นที่อยู่ข้างนอก ลงแบบนี้ก็น่าจะมองเห็นแล้วว่า ดวงนี้ไม่ใช่ดวงธรรมดาแน่ๆ

แล้วก็จริงด้วยครับ เอ่ยชื่อออกมา พวกคุณร้องอ๋อกันเป็นแถวๆ เลย

แต่เห็นจะเป็นเพราะอิทธิพลของดาว ๖-๘ ซึ่งเป็นจักรพยุหะนี่กระมัง แถมยังมีราหูได้อุจจ์ในราศีพิจิกอันเป็นราศีแห่งเพศด้วย ซึ่งผมเคยบอกไว้หลายหนแล้วว่า ดวงนักโทษข่มขืนในเรือนจำมีราหูได้อุจจ์อยู่หลายคน

ยิ่งกว่านั้นราหูยังเป็นดาววินาสน์ของลัคน์ด้วย เมื่อดาวพฤหัสฯ ตนุลัคน์โยคมาถึง ก็เรียกได้ว่ามีมุมสัมพันธ์ที่สนิทแน่นต่อกัน ดังนั้น การเกิดคดีความอันน่ารังเกียจแก่เจ้าชาตานี้จึงไม่ใช่ของแปลกอะไรสำหรับนักโหราศาสตร์ที่มีความรู้ในเรื่องของ “จักรพยุหะ” แต่อย่างใดเลย จริงไหมครับ?

เรื่องยังไม่จบ แต่เนื้อที่ไม่มีเหลือแล้ว ก็ต้องขออนุญาตยกยอดไปว่ากันต่อในฉบับหน้าตามเคยครับ พบกันอีกในสัปดาห์หน้า อย่าพลาดนะครับ

อ่านอนาคตของคุณไม่ยากหรอก…แค่รู้จักดาว 10 ดวงเท่านั้น! เรื่องลึกในโหราศาสตร์ไทยชุด “คลังโหร” เรื่องของ “จักรพยุหะ”

ในตอนนี้ ผมจะได้นำเอา “เกร็ดโหร” อีกอย่าง มาให้คุณได้รู้จักกันอีกสักเกร็ดหนึ่ง

แต่คุณอย่านึกเชียวนะว่าเรื่องนี้ไม่สำคัญอะไรนัก เพราะว่ามันเป็นแค่เกร็ด ทั้งนี้ ในความเป็นจริงแล้ว มันเป็นเคล็ดลับวิชาหนึ่งในโหราศาสตร์ทีเดียว เพียงแต่ผมถือเอาว่ามันเป็นเกร็ดโหรอย่างหนึ่งเท่านั้น ซึ่งก็หมายความว่า คุณจะใช้มันก็ได้ หรือจะไม่ใช้ก็ได้นั่นเอง ใช้เพราะรู้ในคุณค่าของมัน นั่นคือความฉลาด ไม่ใช้เพราะไม่รู้คุณค่าของมัน นั่นเรียกว่าเป็นความโง่

แต่ถ้าไม่ใช่เพราะไม่รู้ว่ามีสิ่งนี้อยู่ อันนี้ไม่ใช่โง่นะครับ แต่ถือว่าเป็นความอาภัพของคุณตะหากที่ไม่ได้รู้เรื่องนี้ ทั้งๆ ที่มันมีอยู่กับโหราศาสตร์ไทยนี้ตั้งนมนานมาแล้ว

คำว่า “จักรพยุหะ” นี้เป็นคำโบราณคำหนึ่งที่ใช้เรียกดาวในโหราศาสตร์ไทย (โหราศาสตร์ของประเทศอื่นไม่เกี่ยว) และเป็นเคล็ดลับอย่างหนึ่งที่ใช้กันมาในสมัยโบราณด้วย

นักศึกษาโหราศาสตร์รุ่นใหม่นี้ไม่ค่อยมีใครรู้จักคำนี้นัก อย่าว่าแต่นักศึกษาเลย แม้แต่ผู้ที่ได้ร่ำเรียนวิชาโหรมาจนกระทั่งออกทำมาหากินกันเป็นอาชีพแล้ว ก็ยังไม่รู้จัก “จักรพยุหะ” นี้เลย

หรือบางคนอาจไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่า มีจักรพยุหะอยู่ในโลกนี้ด้วย

ฉะนั้น ผู้ที่มีโอกาสได้รู้ จึงนับว่าเป็นผู้ที่มีโชคดีพอสมควรเชียวละ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วจักรพยุหะนี้ไม่ใช่วิชาที่เร้นลับอะไรเลย เป็นของที่เรียกกันว่า “หญ้าปากคอก” เสียด้วยซ้ำไป

แต่ก็เป็นเส้นผมบังภูเขาอะไรเทือกนั้นแหละ ทำให้คนซึ่งไม่ได้รับการบอกเล่าก็จะไม่รู้ เมื่อไม่รู้ก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ ทำให้ขาดประโยชน์ในการพยากรณ์ไปอย่างมหาศาล

เพราะจักรพยุหะนี้จะช่วยในการพยากรณ์ดวงชาตาได้อย่างดีมาก

สิ่งใดที่เราไม่รู้ สิ่งนั้นย่อมมีค่า ยิ่งเป็นสิ่งที่ผู้ที่มีอยู่ไม่ยอมให้ใคร สิ่งนั้นก็ต้องมีค่าสูงขึ้นไปอีก

แต่พอรู้แล้วเข้าใจแล้ว สิ่งนั้นก็เป็นของง่าย และกลายเป็นสิ่งที่มีค่าน้อยลงไปทันที เช่นเดียวกับ “จักรพยุหะ” นี้ (หรือเคล็ดลับอื่นๆ ทั้งหลายนั่นแหละ) ถ้าเรารู้แล้วก็เป็นของง่าย

แต่สำหรับคนที่รู้คุณ แม้จะเป็นของง่ายแต่ก็จะรักษาไว้ และนำมาใช้ในโอกาสที่สมควร ก็จะสำเร็จประโยชน์สมกับความมุ่งหมาย

ยิ่งถ้าผู้ที่นำมาใช้มีความรอบคอบ รู้จักพิจารณาสภาพของดวงชาตา รู้ว่าควรจะนำมาใช้ในช่วงไหน เกี่ยวกับเรื่องอะไร ก็จะเห็นได้ทันทีว่า “จักรพยุหะ” นี้แม่นฉมังนัก และให้ประโยชน์กับตัวเราอย่างคาดไม่ถึงทีเดียว

อะไรคือ “จักรพยุหะ”?

จักรพยุหะ คือดาวเคราะห์ที่เข้ามาร่วมราศีกัน และดาวนั้นต่างก็เป็น “กาลกิณี” ต่อกันตามตำรา “ทักษาคู่ธาตุ” นั่นเอง ซึ่งจะมีอยู่ 4 คู่คือ–๑-๒, ๓-๔, ๕-๗, ๖-๘. ความจริง ดาวที่เป็นกาลกิณีต่อกันนั้นยังมีมากกว่านี้อีก เช่น ๒-๓, ๗-๔, ๘-๕, ๑-๖. เป็นต้น แต่โบราณาจารย์ท่านไม่ได้นับเข้าเป็น ตัวหลัก ในที่นี้ และถือว่ามีความหมายรองลงไปจากตัวหลัก เหตุผลที่ไม่นำมาเป็นตัวหลักนี้คงจะเป็นเพราะว่า ดาวบางคู่นั้นเป็น คู่สมพล ต่อกันนั่นเอง ท่านจึงถือเอาเพียง 4 คู่ที่ว่านี่เท่านั้น

แล้วใช้ยังไงล่ะ มันให้โทษหรือให้คุณ?

ใจเย็นๆ ครับ ใจเย็นๆ ไว้ ผมไม่ปิดบังหรอกน่า ยังไงๆ ก็ต้องเปิดพุงขยายให้ฟังกันอยู่แล้วละ รออีกซักแป๊บนึงไม่ได้หรือไงนะ

“จักรพยุหะ” นี่เป็นคู่ดาวที่แสดงโทษมากกว่าคุณ และแต่ละคู่ก็จะแสดงโทษผิดแผกกันไปตามความหมายของดาวหรือชาติเวร ซึ่งโบราณท่านกำหนดเอาไว้คร่าวๆ ได้ยังงี้ครับ

๑-๒ ถ้าดาวดวงใดดวงหนึ่งเป็นดาว อายุ จะทำให้เป็นคนที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง มักจะชอบเล่นชู้ ครอบครัวไม่ราบรื่น

๓-๔ หลักฐานมักคลอนแคลน ในชีวิตมีสิทธิ์ที่จะต้องขายบ้านขายที่ดินหรือทรัพย์สมบัติของดั้งเดิมที่ตัวเองมีอยู่ จะมีศัตรูเพราะปาก (คำพูด) ของตัวเอง

๕-๗ ถ้าอยู่ในภพ อริ ระวังจะเป็นโรคประสาท ดาวคู่นี้ถ้าอยู่ในภพไหน จะมีอิทธิพลที่จะ เปลี่ยนแปลง หรือบ่อนทำลายภพนั้น เช่น อยู่ในภพ ศุภะ ก็มักจะทำลายความเจริญ คือพอเจริญขึ้นมาแล้วก็จะต้องพบกับความวินาศอย่างน้อยก็ครั้งหนึ่งในชีวิต (เช่น ดวงเมือง เป็นต้น) คำนี้ที่ในคัมภีร์โบราณใช้ว่า “จะเข็ญใจ” และมักจะทำให้เจ้าชาตาที่มีดาวคู่นี้อยู่ในดวง จะเป็นคนที่ชอบสร้างวิมานในอากาศมาก

๖-๘ ดาวคู่นี้อยู่ในดวงใคร โดยเฉพาะอยู่ในภพ “ปัตนิ” หรือ “ปุตตะ” ด้วยแล้ว ท่านว่าผู้นั้นมักจะมากไปด้วยกามตัณหา และจะเป็นคนที่เรียกกันว่า “ตัณหากลับ” คือถึงจะแก่เฒ่าเหลาชราแล้ว ก็ยังชอบเรื่องของกามคุณอยู่มาก จนผู้อื่นอาจมองเห็นได้เลยว่าตาเฒ่าคนนี้หมกมุ่นในเรื่องเพศ เพราะชอบมองเด็กสาวๆ ตาเป็นมันไปทุกคน และโทษที่เจ้าของดวงมักจะได้รับก็คือ ความไม่สมใจในด้านความรัก และจะมีทุกข์เพราะความรัก หรือมักจะสูญเสียเงินทองในเรื่องอย่างนี้ได้เสมอๆ อย่างชนิดที่เรียกกันว่า “ถูกต้ม” น่ะแหละ

ว่ากันว่า ถ้าดาวนี้เข้าไปเกี่ยวข้องกับภพวินาสน์ด้วย จะมีโอกาสที่จะได้เข้าไปกินข้าวแดงในคุกหรือต้องสูญเสียเกียรติยศชื่อเสียงเพราะมีคดีความในเรื่องที่เกี่ยวกับกามตัณหานี่แหละ

เป็นไงครับ ฟังดูแล้วก็พอจะเห็นได้นะครับว่า เพียงแค่ดาวที่ปรากฏอยู่ในดวงชาตาในแบบนี้ ก็ทำให้เราได้รู้หรือได้มองเห็นจุดเสียของดวงชาตาอยู่อย่างไม่ยากเย็นนักเลย เพื่อความเข้าใจ ลองดูดวงตัวอย่างที่ผมยกมาให้ดูนี่ซีครับ

ดวงนี้เป็นของใครอย่าให้ผมเอ่ยชื่อเลยครับ มันจะกระเทือนซางเจ้าของดวงเขา แล้วผมก็ไม่ได้ขออนุญาตเขาด้วย ขืนบอกไปเดี๋ยวเขาเล่นงานผมฐานหมิ่นประมาทก็จะยุ่งกันอีก บอกแต่เพียงว่า เจ้าของดวงนี้แหละครับที่ตกเป็นข่าวเรื่องไปยุ่งกับเด็กสาวที่อายุยังไม่ครบกำหนดที่กฎหมายอนุญาตให้ใครอื่นไปร่วมเพศกับเธอได้

แต่เจ้าของดวงนี้ก็อดไม่ไหว ทั้งๆ ที่ตัวเองมีชื่อเสียงอยู่และก็มีอายุเข้าเขต “ไม้ใกล้ฝั่ง” แล้วละ ไหงถึงอดไม่ไหวก็ไม่รู้ เลยต้องมาสู้คดีกับตำรวจเสียชื่อเสียงป่นปี้ไปเพราะไอ้ดาว ๖-๘ นี่เอง

จากดวงนี้ คุณคงมองเห็นแล้วซีนะครับว่า ในดวงมีดาว ๖-๘ ซึ่งเป็นจักรพยุหะสถิตที่ราศีพิจิก ซึ่งก็คือภพ ศุภะ ของดวงชาตานี้

ถ้าคุณอ่านดวงนี้ให้ดีๆ คุณจะเห็นได้ว่า ดวงชาตาอย่างนี้เป็นดวงชาตาที่มีคุณภาพ เป็นดวงที่เด่นมากดวงหนึ่ง

เห็นไหมครับว่ามีดาวมาตรฐานอุจจ์อยู่ถึงสองดวง คือ ราหู, จันทร์ แถมพฤหัสฯ ยังโยคหลังลัคน์และโยคหน้าดาวจักรพยุหะอีก

ซึ่งหมายถึงกระแสของจักรพยุหะจะต้องมาถึงลัคนาอย่างแน่นอน เพราะดาวพฤหัสฯ นั้นก็คือตนุลัคน์อยู่แล้ว จึงเป็นตัวเชื่อมโยงให้อิทธิพลของจักรพยุหะถึงลัคนาอย่างสบายอีกด้วย

นอกจากนั้น ดวงนี้ยังมีดาวเรียงติดต่อกันถึงเจ็ดราศี เข้าเกณฑ์พระจันทร์ตรีอีก มีพระเกตุเล็งภพวินาสน์อยู่ดวงเดียวเท่านั้นที่อยู่ข้างนอก ลงแบบนี้ก็น่าจะมองเห็นแล้วว่า ดวงนี้ไม่ใช่ดวงธรรมดาแน่ๆ

แล้วก็จริงด้วยครับ เอ่ยชื่อออกมา พวกคุณร้องอ๋อกันเป็นแถวๆ เลย

แต่เห็นจะเป็นเพราะอิทธิพลของดาว ๖-๘ ซึ่งเป็นจักรพยุหะนี่กระมัง แถมยังมีราหูได้อุจจ์ในราศีพิจิกอันเป็นราศีแห่งเพศด้วย ซึ่งผมเคยบอกไว้หลายหนแล้วว่า ดวงนักโทษข่มขืนในเรือนจำมีราหูได้อุจจ์อยู่หลายคน

ยิ่งกว่านั้นราหูยังเป็นดาววินาสน์ของลัคน์ด้วย เมื่อดาวพฤหัสฯ ตนุลัคน์โยคมาถึง ก็เรียกได้ว่ามีมุมสัมพันธ์ที่สนิทแน่นต่อกัน ดังนั้น การเกิดคดีความอันน่ารังเกียจแก่เจ้าชาตานี้จึงไม่ใช่ของแปลกอะไรสำหรับนักโหราศาสตร์ที่มีความรู้ในเรื่องของ “จักรพยุหะ” แต่อย่างใดเลย จริงไหมครับ?

เรื่องยังไม่จบ แต่เนื้อที่ไม่มีเหลือแล้ว ก็ต้องขออนุญาตยกยอดไปว่ากันต่อในฉบับหน้าตามเคยครับ พบกันอีกในสัปดาห์หน้า อย่าพลาดนะครับ


อ.เดช ญาณทิพย์