เชื่อว่าหลายๆท่านก็คงอยากหาสิ่งที่เป็นมงคลมาประดับชีวิตเพื่อที่จะก้าวเข้าสู่ 2563 อันเป็นปีมหามงคลนี้ด้วยความมั่นใจ จึงใคร่ขอยุติเรื่องความหมายเลขศาสตร์ไว้ชั่วคราว และนำสิ่งที่น่าจะเป็นมงคลต่อชีวิตของทุกๆท่านมาไว้เป็นตัวเลือก บางท่านอาจจะไม่เชื่อว่าต้นไม้สามารถนำมงคลชีวิต ให้โชคลาภ ให้วาสนาได้ แต่การปลูกต้นไม้ไว้ก็ทำให้เห็นถึงความสวยงามเบิกบานใจได้ไม่มากก็น้อย
ส่วนท่านใดจะซื้อบ้านใหม่หรือมีบ้านอยู่แล้ว แต่อยู่แล้วไม่มีความสุข เก็บเงินไม่อยู่หรือธุรกิจกำลังประสบปัญหาทั้งที่เคยดีมาก่อน ปรึกษาฟรีครับ รวมถึงท่านที่เจ็บป่วยด้านสุขภาพโดยเฉพาะเส้นเอ็นหรือกระดูก เดินไม่สะดวก และพี่น้องชาวไทยและชาวลาวที่ตกระกำลำบากต้องนอนข้างถนน ป้ายรถเมล์หรือไม่มีใครช่วยพาไปโรงพยาบาลเพราะสื่อสารภาษาอังกฤษไม่ได้ ติดยาเสพติดหรือเหล้า เชิญติดต่อมาครับ ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
อีกหนึ่งข่าวดี อ.เดช ญาณทิพย์ เปิดโอกาสให้ท่านดูดวงส่วนตัวหรือผ่านไลน์ด้วยค่าบูชาครูเพียง 39เหรียญเท่านั้น อยู่ ใกล้วัดไทย หากแอดไลน์ไม่ได้ก็เซฟเบอร์ผม ไลน์จะขึ้นเองหรือโทรหรืออีเมล์มาได้ ที่ (818)399-5757, Line: stevefengshui ชมfacebook live เดช ญาณทิพย
จากตอนที่แล้วที่พูดถึง timeline ของเหตุการณ์ที่คาดว่าและทำนายว่าจะเกิดขึ้นในประเทศไทยของเราซึ่งจากเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม จะเป็นเดือนที่อาจจะมีการนองเลือดเกิดขึ้น ขออนุญาตย้อนกลับไปที่เดือนพฤษภาคมว่าทำไมเหตุการณ์นองเลือดจึงไม่เกิดขึ้นเพราะหลายๆคนที่เป็นฝ่ายต่อต้านรัฐบาลหรือฝ่ายที่ล้มล้างรัฐบาลหรือฝ่ายที่ต้องการจะยึดอำนาจกลับมาเป็นของตนต้องการให้มีประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเช่นเดียวกับพฤษภาทมิฬ ซึ่งเหตุการณ์ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นอาจจะมาจากโรคระบาดCOVID-19 ซึ่งเชื่อว่าคงจะเบาบางลงในเดือนพฤษภาคม 2563 เช่นกัน
แฟนคอลัมน์นี้หลายท่านได้lineเข้ามาถามว่าทำไมถึงไม่ทำนายเรื่องของไวรัสที่แพร่เชื้อไปทั่วโลกและเป็นศัตรูที่มองไม่เห็นทำให้หลายคนหวั่นวิตกและเครียด ถึงขนาดต้องแย่งกันซื้ออาหารต้องแย่งกันซื้อสินค้าที่จำเป็นเพื่อมากักตุนเอาไว้เกรงว่ารัฐบาลอาจจะประกาศเคอร์ฟิวทั้งในประเทศไทยและประเทศสหรัฐอเมริกา ในขณะที่มีคนติดเชื้อเพิ่มยิ่งขึ้นและมีข่าวคนเสียชีวิตมากยิ่งขึ้น มีหลายรัฐที่ประกาศภาวะฉุกเฉินแล้วและจำกัดเรื่องของการออกจากบ้านสำหรับผู้สูงอายุรวมไปถึงการปิดสถานบริการตอนกลางคืน ปิดสถานที่ออกกำลังกายและสถานที่สาธารณะต่างๆ รวมไปถึงการสั่งปิดร้านอาหารคือห้ามคนเข้าไปนั่งทานแต่สั่งToGoกลับไปทานที่บ้านได้ จุดประกายสำคัญที่ทำให้คนตื่นตระหนกเริ่มจากการปิดโรงเรียน 2 สัปดาห์ จึงทำให้มีการพูดกันปากต่อปากว่าอีกไม่นานคงจะมีคำสั่ง ห้ามออกจากบ้าน ซึ่ง ณ ขณะที่เขียนคอลัมน์อยู่นี้ก็มีการห้ามบุคคลที่มีอายุตั้งแต่อายุ 65 ปีขึ้นไปให้อยู่แต่ภายในบ้านแต่เป็นการขอความร่วมมือเท่านั้น จึงกังวลกันไปใหญ่เลยว่าอีกไม่นานคงจำกัดบริเวณผู้ใหญ่และเด็กด้วย กระดาษชำระ ของกินหายากมากโดยเฉพาะกระดาษชำระกลายเป็นของที่มีค่าขึ้นมา ส่วนที่เมืองไทยหน้ากากอนามัยกลับเป็นของที่มีค่าแย่งกันและหาได้ยากมาก ข่าวที่น่ายินดีที่เพิ่งได้รับมาก็คือว่าทางโรงงานที่เมืองไทยสามารถผลิตหน้ากากอนามัยพอที่จะป้อนตลาดได้บ้างแล้ว ดังนั้นเมื่อสังเกตองค์ประกอบต่างๆของเรื่องไวรัสระบาดนี้ก็คงจะมีผลอย่างสูงต่อการชุมนุมของนิสิตนักศึกษานักเรียนรวมไปถึงผู้หลักผู้ใหญ่ที่คิดว่าจะลงถนนเพื่อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก จากการที่ผมนั่งสมาธิและถามเบื้องบนนั้นได้คำตอบว่าโรคระบาดของไวรัสนี้จะจางหายไปในเดือนพฤษภาคมทั่วโลก ดังนั้นการต่อต้านรัฐบาลหรือเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกของประเทศไทยนั้นก็คงเหมือนกับว่าต้องสตาร์ทให้ติดใหม่อีกครั้งหนึ่งก็คงจะคาบเกี่ยวเดือนมิถุนายนจนเข้าเดือนกรกฎาคมประมาณนั้น
ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นองเลือดในเดือนกรกฎาคม ทางนายกรัฐมนตรีจะลาออกจากตำแหน่งและนำหุ่นเชิดที่สามารถสั่งซ้ายหันขวาหันได้ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีซึ่งจะเป็นบุคคลที่ไม่ได้อยู่ในเครื่องแบบกล่าวคือไม่ได้เป็นทหารแต่อาจจะเป็นข้าราชการในองค์กรใดองค์กรหนึ่ง อันนี้เพื่อจะลดแรงกดดันที่ประชาชนเรียกร้อง อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่ของคณะรัฐมนตรีก็ยังเป็นคนเดิม ซึ่งประชาชนก็ไม่เอาด้วยแน่นอน จึงมาสู่จุดปะทะในเดือนกรกฎาคมหรืออาจจะข้ามไปถึงต้นเดือนสิงหาคม
เหตุการณ์นองเลือดนี้เกิดจากการแทรกแซงของฝ่ายข้าราชการที่สร้างสถานการณ์ขึ้นมาเช่นอาวุธเข้ามาในที่ชุมนุมหรือระเบิดแล้วหาความชอบธรรมในการปราบปรามว่าเป็นขบวนการนักศึกษาที่ต้องการความรุนแรงและพยายามล้มล้างสถาบัน ซึ่งเป็นข้ออ้างที่ใช้ได้สถานการณ์ในอดีตที่ผ่านมา สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเรื่องที่ sensitive เหตุการณ์นองเลือดที่จะเกิดขึ้นนี้ใช้เวลาหลายวันกว่าที่จะจบลงได้ ไม่มีใครแพ้ใครชนะแต่จะจบลงด้วยผู้ใหญ่ของบ้านเมืองเรียกทั้งสองฝ่ายเข้าไปพูดคุยหาทางออกร่วมกัน สถานการณ์มาถึงจุดที่เป็นทางตัน แต่จะจบลงด้วยผู้ใหญ่ของบ้านเมืองเรียกทั้งสองฝ่ายมาเจรจาหาทางออก ในที่สุดก็จะตัดสินใจที่จะนำคนนอกที่เป็นคนกลางที่สุดเท่าที่จะหาได้ในปัจจุบันนี้มาเป็นนายกรัฐมนตรีชั่วคราวเพื่อจะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ถูกใจคนส่วนใหญ่และเป็นไปตามสถานการณ์บ้านเมือง โดยนายกรัฐมนตรีคนกลางที่จะลงมาควบคุมคณะรัฐบาลต่อนั้นมีอักษรขึ้นต้นด้วย อ อ่าง ซึ่งหน้าที่ของท่านคือปรับแก้ไขรัฐธรรมนูญเสียใหม่ อาจจะยกฉบับเก่าขึ้นมาแล้วมาพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น จัดการเลือกตั้งใหม่ให้เป็นไปด้วยหลักคุณธรรมและความยุติธรรม เพื่อให้ได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่จากประชาชน เพื่อประชาชน โดยประชาชน อย่างแท้จริง ถ้าเป็นไปตามไทม์ไลน์นี้คงจะสามารถเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่งได้ราวไตรมาสแรกของปี 2564 หลังจากนั้นการบริหารงานก็จะเป็นไปตามครรลอง เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศก็จะดีขึ้น คนระดับรากหญ้าก็จะสามารถมีรายได้และผลิตเกษตรกรรมได้ดีกว่าที่เป็นอยู่
น่าเสียดายนะครับที่คนไทยจะต้องเสียเลือดเสียเนื้อเสียก่อนที่จะทะยานไปข้างหน้า เหลียวไปมองประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาแล้วก็เป็นเช่นนี้อยู่ทุกครั้งเหมือนเป็นการต้องคำสาป เอาเถอะอะไรมันจะเกิดก็ให้มันเกิด แต่ถ้าขอเทพเทวาได้อะไรมันจะเกิดก็อย่าให้เกิดตามที่อาจารย์เดช ญาณทิพย์เขียนมาข้างต้นนี้เลยขอให้ประเทศไทยเข้าสู่ความสงบสุขและความเจริญก้าวหน้าอย่างฉุดรั้งไม่อยู่โดยไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อและขอให้ สถานการณ์โรคระบาดไวรัสนี้เป็นอุทาหรณ์สอนใจผู้มีอำนาจทุกๆคนว่าชีวิตมนุษย์นั้นไม่แน่นอนและปล่อยวาง เรายืนอยู่บนเส้นด้ายไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ความตายจะเข้ามารออยู่หน้าธรณีประตู ดังนั้น การโลภในอำนาจ การโลภในบารมี การรับการสรรเสริญเยินยอ การได้รับเกียรติต่างๆนั้นเป็นเหมือนอากาศ เพราะสิ่งเหล่านั้นไม่แน่นอนเท่ากับความตายและความตายก็ไม่มีวันเวลาที่แน่นอน
ผมคงจบคำทำนายผ่าดวงเมือง 2563 ไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ ท่านใดที่สนใจเรื่องราวอย่างนี้หรือสนใจเรื่องดวงชะตาชีวิตของท่านในแต่ละเดือน แนะนำให้ติดตามชม facebook live เดช ญาณทิพย์ และ YouTube channel เดช ญาณทิพย์ ซึ่งจะออกอากาศภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ หากไม่สามารถจะเข้าถึง 2 ช่องทางนี้ก็ LINE มาบอกผมหรือโทรมาตามหมายเลขที่ให้ไว้ข้างต้นนะครับ
ขอให้ทุกท่านโชคดี ขอให้ทุกท่านปลอดภัย ขอให้พระเจ้าคุ้มครองทุกท่านให้ผ่านวิกฤตCOVID-19 นี้ไปได้อย่างปลอดภัย อะไรมันจะเกิดมันก็ต้องเกิด โชคร้ายจะต้องติดไวรัสก็ต้องติด ขอเพียงให้ตั้งมั่นอยู่บนความไม่ประมาทและดูแลสุขภาพ ความสะอาดให้ดีเสมอ พบกันใหม่ฉบับหน้าครับ