เทวดาประจำตัว มีจริงหรือ ?

สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่รัก ท่านใดสนใจการเข้าอบรมสมถกรรมฐานเพื่อเปิดประตูบารมีในชาติที่ก่อนให้แปลงเป็นเงินในชาตินี้และอบรมการจัดฮวงจุ้ยเบื้องต้นด้วยตนเอง เชิญครับที่อาคารของผม มีหลายสถานที่ รับแค่ 12 ท่านต่อหนึ่งชั้นเรียนเท่านั้นครับ ฟรีไม่มีเงื่อนไขใดๆ

ติดต่อมาได้ครับ หากแอดไลน์ไม่ได้ก็เซฟเบอร์ผม ไลน์จะขึ้นเองหรือโทรหรืออีเมล์มาได้ รีบหน่อยครับ มีโควต้าจำกัดจริง (818)399-5757, Line: stevefengshui

Email: stevefengshui@gmail.com

เนื่องจากชีวิตมุนษย์ทุกคน ต้องเวียนว่ายตายเกิด หลายภพหลายชาติไม่มีที่สิ้นสุด บางภพที่ได้เกิดก็อาจไม่ได้อยู่ในภพของมนุษย์ แต่ไปเกิดอยู่ในเดรัจฉานภพ ไม่สามารถที่จะบำเพ็ญบารมีเหมือนมนุษย์ได้

บางชาติของการเกิดเป็นมนุษย์ ก็อาจได้เป็นหญิงบ้าง ชายบ้าง สลับสับเปลี่ยนกันไป อยู่ที่วิบากกรรมของแต่ละคน อาจมีอยู่บ้างที่บางภพได้เกิดเป็นเทวดา เป็นเทพ เพราะบุญบารมีที่มีส่งผลให้มาเกิด เมื่อได้เกิดเป็นเทวดาก็อาจมีติดโลภ โกรธ หลง อยู่ในนิสัยบ้าง เมื่อหมดอายุขัยของเทวดา ก็อาจจะได้เกิดมาในภพของมนุษย์โลกบ้าง และเมื่อได้เกิดจึงมีเทวดาที่ตามลงมาเป็น เทวดาประจำตัว อาจเป็นด้วยภพที่เคยอยู่ก่อนที่จะมาเกิดในโลกมนุษย์ มีเทวดาเป็นบริวารอยู่แล้ว เมื่อเทวดาตามลงมารักษาดูแลตั้งแต่ตอนที่มาเกิดใหม่ๆ เพราะต้องมาคอยระวังปกป้องไม่ให้เจ้ากรรมนายเวรมาทำร้ายรบกวน จนกว่าคนคนนั้นจะเติบโตขึ้น เทวดาประจำตัวก็ยังคงทำหน้าที่ต่อไป จนกว่าจะหมดวาระของเทวดาองค์นั้น จึงเป็นที่มาของเทวดาประจำตัว ที่ส่วนใหญ่จะมีอยู่ทุกคน การดูแลมนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งเทวดาต้องรับหน้าที่นี้


อาจมีบางคนที่เทวดาดูแลอยู่หลายองค์ เพราะบุพกรรมที่สั่งสมกันมาแต่ชาติปางก่อน ไม่รู้กี่ภพกี่ชาติ และเมื่อมีบุญมาเพิ่ม ทำให้เทวดาประจำตัวยิ่งมีความศักดิ์สิทธิ์มากขึ้น มีความเป็นทิพย์สูง เทวดาจะอยู่ได้นานและไม่หนีไปไหน ด้วยบุญบารมีที่มนุษย์คนนั้นมี เทวดาจะอยู่ได้นานและไม่หนีไปไหน ด้วยบุญบารมีของมนุษย์คนนั้น ประกอบกับคำอธิษฐานที่ขอให้เทพเทวดาประจำตัวดูแลรักษา จึงเป็นพันธะสัญญาที่มนุษย์มีให้กับเทวดา ซึ่งในความเชื่อเทวดาประจำตัวนั้นอาจมาจากพี่น้อง เพื่อนฝูงที่เคยช่วยเหลืบอเกื้อกูลกันมาในยามที่ยังมีชีวิตอยู่ เมื่อละจากโลกนี้ไปจึงมีบุญที่สัมพันธ์กันอยู่ และแม้ว่าญาติคนนั้นจะได้ไปเกิดบนสวรรค์แล้วก็ตาม ยังได้ตามลงมาช่วยเหลือ เนื่องจากความผูกพันเป็นสายใยที่ทิ้งกันไม่ได้

บางคนเมื่อรู้สึกว่าอะไรบางอย่างคอยช่วยเหลืออยู่ จนคิดเองว่าเป็น “องค์ใน” หรือมีคนมาทักว่า “มีองค์” ก็เชื่อว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ จนบางครั้งหลงไปรับขันธ์ตามความเชื่อนั้น ซึ่งอันที่จริงทุกคนมีองค์คอยคุ้มครองดูแลทั้งสิ้น ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดแต่อย่างไร เทพประจำตัวก็มีหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติตามวาระ หากหมดวาระเมื่อไหร่ ก็หมายถึงคนคนนั้นอาจหมดบุญ หรือหมดอายุขัยตามเทวดาองค์นั้นๆ ก็เป็นได้แต่บางครั้งเป็นเพราะว่าเทวดาประจำตัว มีวาระที่จะต้องไปสถิตบนวิมานชั้นที่สูงขึ้น ไม่อาจมาอยู่ดูแล แต่มีองค์ใหม่มาดูแลแทน

บางคนชีวิตเปลี่ยนแปลงกะทันหัน เช่น เกิดป่วยด้วยโรคประหลาด ไม่หายสักที แต่พอไปรับขันธ์กลับหายป่วยเป็นปลิดทิ้ง จึงคิดว่าเป็นพราะตนเองมีองค์จริงตามที่ร่างทรงบอก แต่ที่จริงแล้วเป็นเรื่องที่ เทวดาประจำตัว ของเขาหมดวาระที่จะดูแลและเปลี่ยนองค์ใหม่มาแทนที่ ในช่วงที่เปลี่ยนแปลงสถานะนั้น เทวดาที่คุ้มครองเรา อาจทำให้เกิดความรู้สึกบางอย่าง ที่แปลกไป แต่ที่จริงแล้วเป็นการปรับตัวของขันธ์ในร่างกายมากกว่า มิได้หมายความว่ามีองค์มาขอให้เข้าทรงหรือขอมาอยู่ด้วยแต่อย่างใด

คนทั่วไปมักจะคำนึงถึงเทวดา หรือเทพ ชั้นผู้ใหญ่ ทีมีชื่อเสียงโด่งดัง เช่น พระอินทร์ ท้าวเวสสุวัณ พระอิศวร พระพิฆเนศวร พระอุมา พระพรหม โดยลืมว่า ยังมีเทพ เทวา อีกบางส่วนที่อาศัย อยู่กับเราตลอด อีกทั้งคอยช่วยเหลือเราแทบทุกเวลา

ศาสตร์เหล่านี้คนโบราณ จะไม่ละเลย จะใส่ใจมาก อย่างการปฏิบัติของผู้เฒ่าผู้แก่ มักจะเก็บดอกไม้สีขาว จำพวกดอกพุด ทำเป็นขันห้า บูชาที่หัวเตียง เสมอไม่เคยขาดทุกวันพระความเชื่อโบราณของพวกเขาที่ว่า บูชาของรักษา ของรักษาก็หมายถึงเทวดาที่รักษาเรานั่นเอง มีอะไรท่านจะคอยดูแล เตือนภัยต่างๆให้

มนุษย์มีกรรม ก็จริง อาศัยอยู่ด้วยกรรม และผลของมัน ไม่ควรไปงมงายเรื่องอื่นก็จริง แต่เรื่องเทวดา เป็นเรื่องมีจริงแน่นอน ไม่ควรละเลย ตราบใดที่เรายังไม่หลุดพ้น เรายังต้องพึ่งทุกๆสิ่งที่มีคุณ เทวดาก็มีคุณ มีโทษ เราจึงต้องทำให้ถูก

เทวดาที่เกี่ยวเนื่องกับคนมากที่สุด คือ

1.เทวดาประจำตัว ซึ่งมีทุกคนอาจจะมากน้อย แล้วแต่บุญบารมี ของบุคคลนั้นๆบำเพ็ญมา ถ้าเป็นคนทำบุญบ่อย สวดมนต์ภาวนาบ่อย เทวดา จะมารักษาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

2.เทวดารักษาวัตถุ สิ่งของ เช่น รักษาพระเครื่อง วัตถุมงคล ที่เราใช้ รักษาวัตถุมีค่าโบราณ เทวดารักษาสัตว์ที่มีคุณ ยกตัวอย่างเช่น ช้าง ม้า ที่มีลักษณะพิเศษ

3.เทวดารักษาสถานที่ เช่น รักษาบ้านเรือน หรือเรียกว่าผีบ้านผีเรือนนั่นเอง พระภูมิเจ้าที่ เทวดารักษาห้องพระ เทวดารักษาตามวัดพระธาตุเจดีย์

4.รุกขเทพเทวดา ที่อาศัยอยู่ในต้นไม้ใหญ่ ต้นไม้ที่มีกลิ่นหอม จำพวก ไม้กฤษณา พิกุล หรือไม้ที่มีอายุยืน มีแก่น

เทวดาจะมาอาศัยอยู่ ซึ่งมีบ้าน หรือวิมานซ้อนอยู่ในต้นไม้นั้นๆ

จึงเห็นได้ว่า เวลาคนไปทำลายต้นไม้ มักเกิดโทษ หรือบางที มีเรื่องเล่าในเขตนั้นๆว่า วันพระ วันโกน มักได้ยิน เสียงดนตรีไทยบ้าง เสียงคนพูดคุยกันบ้าง ชาวบ้านที่ไม่รู้จึงพาลพากันกลัว แล้วลือว่าผีดุ ต่างนานา จริงๆแล้วเป็นเทวดา

ทั้ง สี่ข้อที่กล่าวมานั้น นี่คือเทวดาที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์มากที่สุด ให้คุณและโทษเราได้มากที่สุด ใครปฏิบัติถูกต้องมักจะร่มเย็นเป็นสุข ใครลบหลู่ ทำไม่ถูกต้องมักจะพบกับความเดือดร้อน


วิธีการปฏิบัติ ดูแล หรือเพิ่มอิทธิฤทธิ์ให้เทวดา

1.อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เราควรไหว้เทวดาประจำตัวด้วยบายศรีปากชามในวันเกิดของเรา เพราะอะไร เพราะว่า เทวดาจะเปลี่ยนการรักษาคนทุกรอบปี ท่านจะเปลี่ยนใหม่ หรือตัดสินใจที่จะไม่ดูแลเราต่อไป ดังนั้นควร มีสักการะ เพื่อขอขมาหากได้ล่วงเกิน และเป็นการขอให้ท่านช่วยดูแลเราต่อไป ไม่ให้ทิ้งอาลัยในเรา ไหว้ท่านไว้ที่หัวเตียงที่เรานอน ประมาณสามคืนจึงเก็บไปจำเริญ บายศรีหมายถึงเครื่องสูงที่ใช้สักการะแต่โบราณ เทวดาชอบมากที่สุด ในบรรดาของไหว้ หากไม่นับของที่กินได้

2.ถ้าจะให้เกิดความขลังมากหน่อย ซื้อพวงมาลัย ไหว้หัวเตียงที่เรานอน ทุกวันพระ หรือเก็บดอกไม้ ห้าคู่ ใส่พานไว้หัวเตียง เพื่อเป็นการสักการะเทวดาที่รักษาเวลาเรานอน และบูชาเทวดาประจำตัวเรา วิธีการนี้คนโบราณ จะนิยมทำมากที่สุด เวลามีเรื่องอะไร เทวดาจะมานิมิตบอกทันที และจะฝันแม่นมาก จากนิมิตเทวดา แต่ห้ามคือคนที่ไม่ใช่คู่ครองเรา ห้ามขึ้นเหยียบหรือนอนบนเตียงเด็ดขาด ลูกหลานก็ไม่ได้

3.หาโอกาสทำบุญสังฆทาน ผ้าป่า กฐิน บุญใหญ่ๆ เช่น หล่อพระพุทธรูป บุญสร้างสะพาน สร้างสาธารณะกุศลที่คนได้ใช้มากๆ แล้วอุทิศกุศลให้เทวดา แล้วเทวดาเหล่านี้จะมีฤทธิ์มากขึ้นเรื่อยๆ จะช่วยดูแลเราได้มากขึ้น

4.การบวงสรวงเทวดา ด้วยของกินต่างๆ เวลาทำก็ไม่ยาก เอาช่วงเราสะดวก เทวดาในสี่ข้อที่กล่าวมานั้น ส่วนใหญ่ ท่านกินได้ทุกเวลา ยกเว้น วันพระ บางองค์ท่านอาจจะถือศีลแปด งดกินอาหารในเวลาวิกาล

เราจึงไหว้ท่านได้ทุกเวลา การไหว้ด้วยของหยาบ จะเชื่อมระหว่างหยาบกับละเอียด ทำให้เทวดาช่วยงานเราในโลกหยาบได้มากขึ้น เพราะเทวดานั้นอยู่ในโลกทิพย์ ถ้าขาดตัวเชื่อม เขาจะทำงานยาก

นอกจากครูบาอาจารย์ของเราที่เรานับถือแล้ว ขาดเสียไม่ได้ก็คือเทวดาที่ประจำตัวเรา เวลาเรากระทำสิ่งใดก็ดีที่เกิดกุศลก็ขอให้นึกถึงท่านเหล่านี้ จะทราบก้ดี ไม่ทราบก็ดี ก็ขอให้ตั้งจิตอุทิศบุญให้ท่าน ไม่ต้องกรวดน้ำนะครับ เพราะการกรวดน้ำใช้กับภพภูมิที่ต่ำกว่า ท่านอยู่ภพภูมิที่สูงก็ขอให้อุทิศได้เลย บอกกล่าวว่า เทพเทวดาผู้มีฤทธิ์ที่คอยปกปักรักษาคุ้มครองกายสังขารนี้ จงมีส่วนได้รับในบุญของข้าพเจ้านี้ด้วยเถิด และอย่าลืมเชิญท่านมาอนุโมทนาบุญด้วยทุกครั้ง หากไม่เชิญท่านมาไม่ได้นะครับ

อย่างที่บอกว่าคนเรานึกถึงแต่สิ่งที่อยู่ใหญ่ๆที่ไกลตัวเกินไป จนมักลืมสิ่งใกล้ๆตัวที่สำคัญไม่แพ้กันไปได้ ลองทำลองปฏิบัติกันดูนะครับ สุดท้ายแล้วก็ทำอย่างเต็มที่และอย่างถูกต้องแต่อย่าไปยึดติดนะครับ โอกาสต่อไปจะได้มาแนะนำเรื่องการไหว้เจ้าที่ พระภูมิ และผีบ้านผีเรือน ไม่เหมือนกันนะครับ ขอขอบพระคุณสำหรับการติดตามนะครับผม