เสาร์ที่แล้วนำเรื่อง "ทุ่งสวรรค์" ที่เมือง CARLSBAD มาคุยแทนเพราะกลัวว่าดอกไม้จะร่วงโรยเสียก่อน "คุณยายเฟสบุ๊ค" ตอนจบเลยนำมาเขียนคุยเสาร์นี้ จากที่เขียนถึงคุณยายที่เล่นเฟสบุ๊ค เลยได้ทราบว่ามีอีกหลายรายทีเดียวทั้งคุณย่าคุณยาย รวมทั้งผู้สูงอายุที่เกษียณกันแล้วอยู่บ้านเฉยๆ
บางรายใช้เป็นเพื่อนแก้เหงา ในเวลาเดียวกันก็ได้เปิดหูเปิดตาว่าอีกมุมหนึ่งของโลก โดยเฉพาะบ้านเกิดเมืองนอนของเรามีเหตุการณ์อะไรที่เป็น "TALK OF THE TOWN"
บางรายใช้เป็นแหล่งข่าวติดตามว่าสมาชิกครอบครัว มีความเป็นอยู่อย่างไร ไปเที่ยวไหนกันบ้าง ได้เห็นรูปลูกๆ หลานๆ ทางเฟสบุ๊คทุ่นเวลาโทรศัพท์หรืออีเมลถามข่าวคราว
ที่ ส.ท่าเกษม ชอบที่สุดเห็นจะเป็นรายการอาหารอร่อย กลุ่มชาวเฟสบุ๊คที่โยงกันไปโยงกันมานี้ เวลาไปรับประทานตามร้านอาหารหรือแม้แต่ทำอาหารรับประทานที่บ้าน จะถ่ายรูปอาหาร ของหวาน ฯลฯ แล้วนำมาโพสท์ในเฟสบุ๊ค วันก่อนเห็นรูปของสมาชิกครอบครัวคนกลางนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารขนาดกะทัดรัด มีกุ้งตัวโตๆ น่ารับประทานใส่จานวางอยู่บนโต๊ะ ดูไม่ออกว่าเป็นอาหารชนิดไหน เห็นแต่ตัวกุ้ง ! ดูไปดูมา...เอ๊ะ ! ทำไมหน้าต่างห้องอาหารนี้เล็กจัง ที่แท้กำลังอยู่บนไพรเวทเจ็ท (PRIVATE JET) ของ PIXAR STUDIO ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ ซานฟรานซิสโก ที่จริงแล้ว DISNEY STUDIO และ PIXAR ก็เครือข่ายเดียวกัน เพราะมีนายใหญ่ JOHN LASSETER ผู้ผลิตระดับบริหาร (EXECUTIVE PRODUCER) ดูแลทั้ง 2 สตูดิโอ ดิสนี่ย์ อยู่ที่เมือง BURBANK ส่วน พิกซ่าร์ อยู่ที่เมืองซานฟรานฯ บินไปบินมาระหว่าง 2 เมือง คืนนี้เพิ่งไปดูหนัง 3-ดี ที่ต้องใส่แว่นชื่อ JOHN CARTER ที่โรงภาพยนตร์ในดิสนี่ย์ สตูดิโอ เมืองเบอร์แบงค์ เลยได้เห็นห้องทำงานที่ทันสมัยไฮเทคของคุณจอห์น แลสเสเทอร์
เมื่อนายใหญ่มี 2 ออฟฟิศอยู่ต่างเมืองกัน วันไหนไม่บินก็ส่งไพทเวทเจ็ทมารับลูกน้องไปประชุมที่ซานฟรานฯ พิกซ่าร์ สตูดิโอ ผลิตภาพยนตร์การ์ตูน (ANIMATION) เรื่อง TOY STORY, CARS ฯลฯ ส่วน ดิสนีย์ สตูดิโอ นั้นคงไม่ต้องกล่าวถึง หนังการ์ตูนเรื่องไหนสวยๆ งามๆ ที่เราดูกันจะเป็นของดิสนี่ย์ทั้งนั้น
ส.ท่าเกษมชอบเข้าเฟสบุ๊คดูคลิปของหนังที่พวกทำงานในสตูดิโอนำมาโพสท์และอ่านข่าวต่างๆ เวลาไปงานสังสรรค์จะได้ไม่ตกข่าว อะไรๆ ทุกอย่างเมื่อมีด้านบวก ก็มักจะมีด้านลบตามมา ต้องคอยเตือนสมาชิกในครอบครัวอยู่เสมอว่า เวลาไปเที่ยวไหนไกลๆ ต้องค้างคืนตามที่ต่างๆ อย่าโพสท์เข้าเฟสบุ๊ค เพราะมีบางรายกลับบ้านมาพบกับความว่างเปล่า ถูกยกเค้าไปเลย การที่เฟสบุ๊คโยงไปโยงมาเมื่อรู้กันหลายคนว่าเราไม่อยู่บ้าน บางทีใครบางคนอาจจะเผลอพูดไป โชคไม่ดีข่าวเข้าไปถึงหูคนร้ายก็เคราะห์ร้ายไป บ้านของแต่ละคนจะมีเครื่องสื่อสารหรือเครื่องให้ความบันเทิงที่ทันสมัยกันทั้งนั้น ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย หลังกลับจากเดินทางแล้วค่อยโพสท์รูปต่างๆ และข่าวคราวให้พรรคพวกได้ชมกัน !
ความดีความชอบทั้งหลายของ FB คงต้องยกให้กับ MARK ELLIOT ZUCKERBERG (เกิดพฤษภาคม 14 ค.ศ. 1984) เป็นชาวอเมริกันเชื้อสาย JEWISH เขาเป็นผู้ก่อตั้ง SOCIAL NETWORKING SITE ที่มีชื่อว่า FACEBOOK ร่วมกับเพื่อนร่วมชั้นอีก 3 คน ชื่อ DUSTIN MOSKOVITZ, EDUARDO SEVERIN และ CHRIS HUGHES ขณะที่ยังเป็นนักศึกษาอยู่ที่ HARVARD UNIVERSITY หรือมหาวิทยาลัย ฮาร์เวิร์ดอันโด่งดัง
ในปี 2010 ไทม์แมกกาซีนยกย่องให้ ZUCKERBERG เป็น "PERSON OF THE YEAR" และในปี 2011 เขามีทรัพย์สินส่วนบุคคลมูลค่า $17.5 BILLION ทำให้เขาเป็น BILLIONAIRE ที่อายุน้อยที่สุดในโลก ไม่ใช่ MILLIONAIRE หรือมหาเศรษฐีเฉยๆ แต่เป็นถึงอภิมหาเศรษฐีเพราะมีเงินเป็นพันๆ ล้านเหรียญ ยู.เอส.เอ.
ทำไม MARK ZUCKERBERG หรือ "ZUCK ONE" จะไม่ปราดเปรื่องถึงเพียงนี้ในเมื่อคุณแม่ KAREN เป็นจิตแพทย์ และคุณพ่อ EDWARD เป็นทันตแพทย์ เขามีพี่น้องสาวๆ 3 คน RANDI, DONNA และ ARIELLE เติบโตกันมาจาก DOBBS FERRY, NEW YORK
ถ้าจะไม่พูดถึงเรื่องหัวใจของมาร์ค FB ก็คงจะขาดอะไรไปสักอย่าง เพราะเขียนคุยมาครบแล้วตั้งแต่ครอบครัว การศึกษา การงาน อย่างละนิดอย่างละหน่อย เอาซะให้ครบวงจรกันเลย..... มาร์คพบกับแฟนสาวชาวอเมริกันเชื้อสายจีนที่งานสังสรรค์ของกลุ่มนักศึกษา มีชื่อที่ไพเราะว่า PRISCILLA CHAN มาจากชานเมืองบอสตัน เริ่มเดทกันในปี 2003 ดูใจกันนานหลายปี จนเดือนกันยายนของปี 2010 พระเอกของเราจึกชักชวนพาแฟนคนสวย รูปงามนามเพราะ พริสซิลล่า ซึ่งตอนนั้นเป็นนักเรียนแพทย์อยู่ที่ UNIVERSITY OF CALIFORNIA SAN FRANCISCO มาอยู่ด้วยกันที่บ้านเช่าในเมือง PALO ALTO และมาร์คได้เรียนภาษาจีนแมนดารินเตรียมตัวเดินทางไปเยี่ยมเยียนประเทศจีนกับแฟนเมื่อเดือนธันวาคม 2010
เริ่มแรกมาร์ค FB ย้ายไปที่ PALO ALTO กับ DAVID MOSKOVITZ เพื่อนจากฮาร์เวิร์ดและเพื่อนบางคน เช่าบ้านหลังเล็กๆ ระยะยาวใช้เป็นที่ทำงานต่อมาได้พบกับ PETER THIEL เดือนกันยายนปี 2004 เข้ามาเป็น CEO (CHIEF EXECUTIVE OFFICER) ลงทุน $500,000 ตอนที่เริ่มทำ FB EDUARDO ลงทุนเพียง $15,000 สมัยทำจากห้องพักในฮาร์เวิร์ด ตกลงกันว่าเขาจะได้ 30% จากบริษัท จากเพื่อนร่วมชั้น 3 คนที่เริ่มธุรกิจด้วยกันตอนนี้เหลือเพียงมาร์คคนเดียว พีเทอร์ได้แยกตัวออกไปทำธุรกิจของตัวเองประสบผลสำเร็จรวยเละเช่นกัน !
ในปี 2010 ฟอร์บส (FORBES) รวบรวม 400 รายชื่อ พีเทอร์ มาเป็นอันดับที่ 365 ของมหาเศรษฐี ธุรกิจของเขามีมูลค่า 1.7 BILLIONS (พันล้าน) เขาเกิดวันที่ 11 ต.ค. 1967 รู้สึกจะอายุมากที่สุดในกลุ่มบริหารของ FB ตอนนี้พักพิงอยู่ที่เมืองซานฟรานฯ เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายเยอรมัน
ก่อนจะจบขอกล่าวถึงบุคคลสำคัญของชาว FB ที่เป็นจิตรกร GRAFFITI ชื่อ DAVID CHOE จากจิตรกรฝาผนังกลายเป็นผู้ถือหุ้นส่วนรายใหญ่มีสต็อคมูลค่า 200 ล้านเหรียญ ตอนที่ SEAN PARKER เป็นประธานของบริษัท FB ได้จ้างให้เดวิดเขียนรูปฝาผนัง (MURALS) ที่สำนักงานใหญ่เมือง PALO ALTO เขาถามเดวิดว่าจะเอาเงินสดหรือสต็อค (หุ้น) เขาสละสิทธิ์เงิน $6,000 U.S. ขอเป็นถือหุ้นแทน ทั้งๆ ที่ตอนนั้นเดวิดก็ไม่ได้คิดว่า FB จะประสบผลสำเร็จทะลุฟ้าแบบนี้ ปัจจุบันเขาเป็น 1 ในศิลปินที่รวยที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่ และเป็นศิลปินที่รวยที่สุดในประเภทกราฟีททิ (GRAFFITI) คือการใช้สีกระป๋องพ่นสีต่างๆ ไปบนผนังกำแพงที่ใหญ่โต บางครั้งเขานั่งรถสเปรย์พ่นสีวาดรูปในขณะที่รถแล่น เพราะสถานที่กว้างและยาว ถ้าใช้วิธีเดินคงต้องใช้เวลานานมากทีเดียว เขาชอบอยู่แบบใช้ชีวิตส่วนตัวปฏิเสธไม่ยอมให้สัมภาษณ์