ขณะที่เขียนคอลัมน์นี้เป็นวันอังคารที่ ๓ ธันวาคม ประมาณตี ๔ ทางเมืองไทยเป็นวันพุธที่ ๔ เกือบจะทุ่มตรง ประชาชนชาวไทยเตรียมตัวเตรียมใจที่จะถวายพระพรในวันรุ่งขึ้นวันศุภมงคล เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์พระประมุขของประเทศไทย พวกเราชาวไทยในแอล.เอ.มีงานเฉลิมพระเกียรติแสดงความจงรักภักดีต่อองค์พระมหากษัตริย์ของเรา พร้อมใจกันจุดเทียนชัยน้อมเกล้าฯ ถวายพระพรและร้องเพลงสดุดีมหาราชา ที่วัดไทยเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑ ธันวาคม ที่ผ่านมา
คุณผู้อ่านคงสงสัยว่า น.ส.พ. วางแผงวันเสาร์ ทำไมเขียนตั้งแต่วันอังคาร ที่จริงแล้วก็อยากจะรอเขียนให้ใกล้ๆ วันปิดเล่มจะได้ไม่ตกข่าว บางครั้งเขียนเสร็จเรียบร้อย มีเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นและอยากจะเขียนคุยให้คุณๆ ผู้อ่านทราบเรื่องก็หมดสิทธิ์ ครั้นจะรอไปเขียนอาทิตย์หน้าก็จะกลายเป็นข่าวเก่า ใครๆ เขียนถึงกันแล้ว หรือบางทีสายไปที่จะเขียนถึง
อีกประการหนึ่งทางกองบรรณาธิการ งานจะยุ่งมากในวันพฤหัสฯ และวันศุกร์ซึ่งเป็นวันปิดเล่มของ น.ส.พ.ไทยแอล.เอ. ประการสุดท้าย ส.ท่าเกษมมีภาระกิจต้องออกหัวเมือง สรุปแล้วเป็นผลดีของทั้ง ๒ ฝ่ายระหว่างคนเขียนและคนพิมพ์ เลยขอเว้นวรรคงานเขียนในอาทิตย์หน้า ไปพบกันอีกทีในวันที่ ๒๑ อาทิตย์ไหนที่ไม่สามารถทำการบ้านส่ง WEBMASTER เพราะมีเหตุผลนาๆ ประการ ถ้าไม่ติดตาม BIG BOSS ไปต่างจังหวัด ก็ต้องไปดูแลสมาชิกตัวเล็กตัวน้อย ยิ่งอายุมากขึ้นงานก็มากขึ้นตามอายุ อย่างไรก็ตามที่เขียนอยู่ทุกวันนี้ ต้องเรียกว่าโชคดีคือได้ทีมงานที่รู้ใจกัน เคยเขียนถึงหลายครั้งว่า ไม่ว่าทำงานอะไร ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ เราต้องช่วยกันดูเพื่อให้ผลงานออกมาเป็นที่พอใจของคนอ่าน สมัยทำงานที่ธนาคารเช่นกัน เราเป็น TEAM WORK ทุกครั้งที่มีประชุมจะถูกเตือนห้ามพูดคำว่า “IT’S NOT MY JOB !” ต้องเป็น TEAM PLAYER
หยุดเขียนคอลัมน์ทีไรจะรู้สึกมีความผิดทุกครั้ง เพราะถูกอบรมมาจากผู้ใหญ่ในวงการขีดๆ เขียนๆ ว่า ต้องรับผิดชอบต่องานที่ทำ ไม่ว่าจะหนาวหรือร้อน ? มืดหรือสว่าง ? ต้องทำให้ได้ ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ ทั้งสิ้น !
พี่ฉวีวรรณ อดีตพยาบาลพูดอยู่เสมอว่าเวลาได้ น.ส.พ.ไทยแอล.เอ. จะเปิดหาคอลัมน์ของ ส.ท่าเกษม ถ้าไม่มีจะรู้สึกผิดหวังมาก ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่รักและนับถือคนหนึ่ง ไม่อยากให้ผิดหวัง เพราะท่านมีน้ำใจให้ ส.ท่าเกษม มาตลอด พี่ฉวีวรรณจะจำได้ว่าอาทิตย์นี้เขียน อาทิตย์นั้นไม่ได้เขียน
คุณประพันธ์ เมฆประเสริฐรัศมี คอลัมนิสต์อาวุโสของเมืองแอล.เอ. เขียนถึง “บันทึกรักจากใจ” ว่า “....ตัวหนังสือหนาประมาณเกือบ ๒๐๐ หน้ากระดาษ จึงอ่านจุใจ จะอิ่มทั้งความรู้ ได้ทั้งความบันเทิง พร้อมความสุขที่บอกผ่านเนื้อเรื่องของบทเพลงต่างๆ จากฝีมือนักแต่งเพลงระดับครูบาอาจารย์ผ่านเสียงร้องของนักร้องรุ่นแรกๆ ที่ผู้เขียนได้บอกเล่าไว้อย่างมีอรรถรสยิ่งจริงๆ ครับ เพราะผมอ่านหนังสือเล่มที่ได้รับมาจบแล้ว จึงได้มานั่งเขียนคอลัมน์นี้ด้วยความสดชื่นเบิกบาน.....” ดีใจที่ “บันทึกรักจากใจ” มีส่วนทำให้คุณประพันธ์ สดชื่นเบิกบานเพราะปกติท่านเป็นคนอารมณ์ดีมีความสุขอยู่แล้ว คุณประพันธ์ รักเสียงเพลงและเต้นรำ !
ที่จริงแล้วตั้งใจจะเขียนโพรโมทผลงานของตัวเองเพราะระยะนี้อยู่ในเทศกาลต่างๆ เหมาะที่จะเป็นของขวัญสำหรับผู้ชอบอ่านหนังสือ และชอบบทเพลง แต่ถ้าเขียนถึง “บันทึกรักจากใจ” ด้วยข้อเขียนของตัวเอง อาจจะขัดตาขัดใจผู้ที่ไม่ใช่แฟนคอลัมน์ เลยคิดว่าควรจะนำข้อความเล็กๆ น้อยๆ ของผู้ที่ ส.ท่าเกษม รัก เคารพ นับถือ ชื่นชม มาลงเเทนจะดีกว่า !
“.....เปิดดูข้างในได้อ่านคำนำจากผู้ที่เป็นคนที่คุณสุนับถือและสนิทสนม ให้กันด้วยวาจายกย่องน่าภูมิใจแทน โดยเฉพาะของคุณถวัลย์ (ดร.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ) ซึ่งเท่าที่เคยอ่านประวัติ ท่านไม่เคยเขียนให้ใครง่ายๆ นะคะ เขียนให้ดีมากทั้งคำกลอนด้วย....หนังสือคุณสุเล่มนี้จะวางอยู่บนหิ้งหนังสือของแมวด้วยความระลึกถึงอีกเล่มหนึ่ง ด้วยความยินดีกับเพื่อนที่รู้จักกันมานาน แม้จะไม่ได้เห็นตัวจริงๆ.....” ข้อความของคุณแมว เพ็ญวิภา คุณแมวนับว่าเป็นแฟนคอลัมน์ที่แท้จริง พ็อคเก็ตบุ๊คเล่มแรกออกมา เธอส่งเช็คมาซื้อทันทีและเมื่อ ส.ท่าเกษมส่งเช็คกลับ เธอตกใจมากนึกว่าเช็คเด้ง (ฮา!)
รูปภาพต่างๆ ที่นำมาลงในคอลัมน์เสาร์นี้ ล้วนแต่เป็นแฟนคอลัมน์คุยกันวันเสาร์ เพิ่งได้รับอีเมลจากคุณสมพร ที่เขียนว่า “....อ่าน FROZEN (ฉบับเสาร์ที่ ๓๐ พ.ย.) แล้วค่ะ ได้เกร็ดต่างๆ ของ DISNEY เยอะและชอบ youtube ด้วยค่ะ และย้อนกลับไปอ่านเรื่อง G.I. เปิดฟังเพลง G.I. BLUES.....”
ข้อความต่อไปนี้เป็นคำนำของนักเขียนในดวงใจของ ส.ท่าเกษม คุณรำไพพรรณ ศรีโสภาค (โสภาค สุวรรณ) ใน “บันทึกรักจากใจ” “.....ข้าพเจ้าเป็นนักอ่านอีกรายหนึ่งที่ติดตามผลงานของคอลัมนิสต์ดังมีชื่อ ผู้ใช้นามปากกาว่า ส.ท่าเกษม ด้วยความรู้สึกสนุกสนาน พึงใจเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับประสบการณ์ ปูมหลังของชีวิตผู้เขียน ซึ่งนานๆ ครั้งจะสอดแทรกเข้ามาให้ผู้อ่านได้ปิติยินดีกับชีวิตในอดีตอันมีคุณภาพ คุณค่า น่าถ่ายทอดให้ได้รับความบันเทิง สาระ เป็นความรู้น่าศึกษา....”
คุณสุรศักดิ์ พบสุข กล่าวกับ ส.ท่าเกษมว่า อ่าน "คอลัมน์คุยกันฯ" ชอบที่ข้อมูลแน่นและถูกต้อง !
คุณชนะ โมราวงศ์ นักเรียนเก่าบพิตรฯ เช่นเดียวกับคุณสุรศักดิ์ ไม่เคยพลาดคอลัมน์นี้ นับว่าเป็นกำลังใจที่ชื่นใจทำให้เขียนต่อไป ฝากขอบคุณมาด้วยอย่างปลื้มปิติ โดยเฉพาะ อ.เอื้ออารี ผู้สอนภาษาไทยและวิชาอื่นๆ อ่านเช่นกันเพราะท่านรู้จักบิดาของส.ท่าเกษมและครอบครัว ที่หมดแล้วยังเขียนไม่ครบทุกคนที่อยากจะเขียนถึง กราบขอบคุณศ.ประภาศรี สีหอำไพ (เพิ่งได้รับรางวัลโล่เกียรติยศดีเด่นแห่งชาติ ในฐานะปูชนียบุคคลทางด้านภาษาไทย พ.ศ.๒๕๕๖) พี่อู๊ด กรุณาสนับสนุนให้กำลังใจมาตั้งแต่เริ่มเขียนเมื่อ ๑๕ ปีที่แล้วจนทุกวันนี้ และขอขอบคุณผู้อ่านทุกๆ ท่านจากก้นบึ้งของหัวใจ...
คุณผู้อ่านที่สนใจใน “บันทึกรักจากใจ” กรุณาติดต่อสั่งซื้อหนังสือได้ที่ (๘๑๘) ๘๔๓-๒๑๗๗ หรือ E-mail ถึง ส.ท่าเกษม s_takasem@yahoo.com