Oh, honey
Picture me upon your knee
With tea for two and two for tea
Just me for you and you for me alone

Nobody near us to see us or hear us
No friends or relations on weekend vacations
We won't have it known, dear
That we own a telephone, dear

Day will break and I'll awake
And start to bake a sugar cake
For you to take, for all the boys to see
(Oh, darling)

We will raise a family
A boy for you and a girl for me
Can't you see how happy we will be?

Picture you upon my knee
Tea for two and two for tea
Me for you and you for me alone

Nobody near us to see us or hear us
No friends or relations on weekend vacations
We won't have it known, dear
That we own a telephone, dear

Day will break and I'm gonna wake
And start to bake a sugar cake
For you to take, for all the boys to see

We will raise a family
A girl for you and a boy for me
Oh, can't you see how happy we will be?
(How happy we will be?)

เพลง “ TEA FOR TWO” โดย ดอริส เดย์

จากการที่เกิดเติบโตและได้รับการอบรมเลี้ยงดูมาจากครอบครัวที่คุ้นเคยกับการดื่มน้ำชาพร้อมของว่างในยามบ่ายแบบชาวอังกฤษ ทำให้เคยชินกับประเพณีนี้มาตั้งแต่จำความได้ ประโยคที่ว่า “ได้เวลาน้ำชาท่าน...” ยังฝังอยู่ในความทรงจำ มองเห็นบิดานั่งไขว่ห้างที่โต็ะข้างหน้าต่างบานกระจกในเรือน “ทับแก้ว” ยกถ้วยน้ำชาขึ้นดื่ม เป็นถ้วยน้ำชาเนื้อดีที่ทำด้วยเซรามิคผสมผงกระดูกก่อนเผาด้วยความร้อนสูงกลายเป็นเซรามิคคุณภาพดี ดูบอบบางแต่เนื้อแน่นแข็งทน ที่เราเรียกกันว่า “Bone China”! มีลวดลายงดงามจากประเทศอังกฤษ ส.ท่าเกษม ชอบสะสมเป็นงานอดิเรก

เนื่องจากบิดาของพวกเราไปศึกษาและดูงานที่ประเทศอังกฤษเป็นเวลาเกือบ ๑๐ ปี ก่อนหน้านั้นท่านได้ถวายตัวอยู่ในวังตั้งแต่อายุ ๑๓ ปี จึงซึมซับต่อการที่เห็นเจ้านายทรงดื่มพระสุธารสชาทุกวัน และหนึ่งในหลายหน้าที่คือถวายงานที่โต๊ะเสวย เมื่อเด็กๆ ส.ท่าเกษม ชอบที่จะคอยรับประทานของว่างอร่อยๆ ในเวลาที่บิดาดื่มน้ำชาที่บ้าน “ท่าเกษม” พวกเราไปโรงเรียนจึงไม่มีของว่างเสิร์ฟเป็นประจำ แต่ถ้าวันไหนอยู่บ้านเป็นวันหยุดจึงไปร่วมรับประทานกับท่าน แต่ถ้าไปพักร้อนต่างจังหวัด เช่น ประจวบคีรีขันธ์ (เกาะหลัก) หรือ นนทบุรี (ท่าอิฐ) จะมีสำรับสำหรับเด็กๆ ด้วย

และนี่คือความเคยชินความผูกพันกับ “น้ำชายามบ่าย” เพิ่งจะกลับมาดื่มน้ำชากับของว่างเมื่อประมาณ ๗ ปีหลังนี่เอง คงจะเป็นเพราะถูกเชิญไปงาน BRIDAL SHOWER (เมื่อเพื่อนสาวจะสละโสด) ที่ห้องน้ำชาใน OLD TOWN เมือง PASADENA ตั้งแต่นั้นมาพอมีวาระโอกาสพิเศษอะไร จะต้องสืบเสาะหาที่แปลกๆ ใหม่ๆ ไปนั่งดื่มน้ำชา รับประทานแซนวิช ขนมปังไร้กรอบชิ้นเล็กๆที่มีไส้ชนิดต่างๆ (Finger Sandwiches) และของว่างขนมอีกมากมายหลายชนิด ไปเป็นประจำทุกวันไม่ได้กระเป๋าฉีกแน่ !!! ยกตัวอย่าง ค่าเข้าไปใน HUNTINGTON LIBRARY คนละ ๒๕ เหรียญ (ผู้ใหญ่) และค่าน้ำชาอีก ๓๑ เหรียญ (ผู้ใหญ่) ของเด็ก (๔-๕ ขวบ) คนละ ๑๘.๙๙ เหรียญ (๒-๓ คน) คนละ ๗.๕๐ เหรียญรวมภาษี ที่เขาคิดแยกเพราะส่วนใหญ่ผู้คนจะเข้าไปชมต้นไม้ ดอกไม้ ภาพเขียน ห้องสมุดที่มีหนังสือเก่าๆ หาอ่านที่อื่นไม่ได้ งานศิลปะ ฯลฯ ภาพเขียนที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกคือ “THE BLUE BOY” โดย THOMAS GAINSBOROUGH ประมาณ ค.ศ. ๑๗๗๐ และ “PINKIE” โดย THOMAS LAWRENCE ) ประมาณ ค.ศ. ๑๗๙๔

ที่เขาเรียก ROSE GARDEN-TEA ROOM เพราะจากที่เรานั่งจิบน้ำชานั้นระหว่างปลายเดือนมีนาคมและต้นเดือนเมษายน เป็นเวลาที่ดอกกุหลาบบานสพรั่งสวยที่สุดในรอบปี มองไปรอบๆ จะเห็นกุหลาบเต็มสวน ๓ เอเค่อร์ ตอนที่พวกเรา ๔ คนไปรับประทานน้ำชาใน”วันแห่งความรัก” นั้น กอกุหลาบถูกริดรอนกิ่งก้านเพื่อให้ได้กุหลาบดอกใหญ่ที่ทนและมีคุณภาพเตรียมต้อนรับ “คนรักกุหลาบ” ในต้นเดือนหน้านี้ ขอเตือนว่าควรให้เวลาตัวเอง ๓๐นาทีก่อนเวลาจองที่ เพราะระยะเวลาที่เดินจากสถานที่จอดรถไปยังตึกห้องน้ำชาไกลพอควร ของว่างหัวใจของการดื่มน้ำชาตอนบ่ายที่ขาดไม่ได้ดังที่เห็นในรูป มีกาและถ้วยน้ำชา ในถาดยาวบรรจุ เนยเหลว แยมผลไม้ (Jam ออกเสียง แจม) แยมผิวส้ม และ CLOTTED CREAM รับประทานกับสโคนที่เพิ่งทำออกมาจากเตาอบร้อนๆ ส่วนแซนวิช ผลไม้ ขนม เนยแข็ง จะแตกต่างกันไปตามห้องน้ำชาแต่ละแห่ง ไปมาแล้วหลายแห่ง “TEA ROOM” ในเมือง MONTROSE, “ROSE TREE COTTAGE TEA” เมือง PASADENA, RITZ CARTON ที่ DANA POINT, FOUR SEASONS ที่ CARLSBAD ทุกสถานที่ต่างมีเสน่ห์ของตัวเอง แต่ถ้าให้เลือกคงไปนั่งจิบน้ำชาแถวทะเลเพราะความผูกพันกับทะเลที่บ้าน “เกษียรสมุทร” จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ยามปิดเทอมในฤดูร้อนของทุกปี บิดาและครอบครัวของท่านจะร่วมจิบน้ำชารับประทานของว่างที่บ้าน “เกษียรสมุทร” ริมหาดอ่าวไทยด้วยความรักและความอบอุ่น!

ลาก่อนสำหรับเสาร์นี้
ส.ท่าเกษม
๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙