คุยกันวันเสาร์
ส.ท่าเกษม



ศาสตราจารย์ ประภาศรี สีหอำไพ ปูชนียบุคคลทางด้านภาษาไทย พ.ศ. ๒๕๕๖

“เพลงเพชรชมพูไพเราะมาก ชาวจุฬาฯ ควรร้องได้ทุกคนนะคะ ดีใจที่ได้เห็นน้ำใจน้องพี่สีชมพูสืบทอดมารุ่นแล้วรุ่นเล่า ที่แอล.เอ.เข็มแข็งตามเคย”

ศ.ประภาศรี สีหอำไพ ได้รับรางวัลโล่เกียรติยศดีเด่นแห่งชาติในฐานะปูชนียบุคคลทางด้านภาษาไทย โดยมีพิธีรับรางวัลจากนายกรัฐมนตรี ในวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๖ เวลา ๐๘.๓๐ น. ณ โรงละครแห่งชาติ

อาจารย์ประภาศรี สีหอำไพ จากคณะครุศาสตร์ จุฬาฯ อดีตครูอาสาฯ วัดไทย ลอสแองเจลิสรุ่นแรก ปีพ.ศ. ๒๕๒๗ รุ่นเดียวกับครูสุมน อมรวิวัฒน์ ครูไขสิริ ปราโมช ณ อยุธยา ครูสาหร่าย แตงนาวา และ ครูวรรณ ทวีศิลป์

ศาสตราจารย์ ประภาศรี สีหอำไพ เป็นภรรยาของ ศาสตราจารย์ บำรุงสุข สีหอำไพ ผู้ก่อตั้งแผนกอิสระ สื่อสารมวลชนและการประชาสัมพันธ์ ซึ่งต่อมากลายเป็นคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ในปัจจุบัน


วันคืนรื่นรมย์ร่มจามจุรี ยังจำได้ดีพระคุณจุฬาฯ เป็นแรงให้เราก้าวไปข้างหน้า รับใช้ประชาแห่งดินแดนไทย ประกายสุกใสในใจแห่งเพชรชมพูจุฬาฯ

เพลงเพชรชมพูไพเราะมาก ชาวจุฬาฯควรร้องได้ทุกคนนะคะ ดีใจที่ได้เห็นน้ำใจน้องพี่สีชมพูสืบทอดมารุ่นแล้วรุ่นเล่า ที่แอลเอเข้มแข็งตามเคย

เพลงเพชรชมพู ซึ้งมาก เป็นเพลงที่มีผู้ประพันธ์เมื่อครั้ง สมเด็จพระเทพฯ ทรงสำเร็จการศึกษา เพชรชมพู จึงมีหมายความถึงพระองค์ท่าน ทรงเป็นเพขรของชาวจุฬาฯและพสกนิกรไทยทั้งมวล

ฝากขอบคุณพี่ๆที่ดูแลน้องครูอาสาด้วยเมตตาจิต ขอส่งพรแทนเพชรชมพูไปประดับใจพี่ๆทั้งหลาย ขอให้มีชีวิตที่สดใส สมปรารถนาในสิ่งที่ชอบ ประกอบด้วยธรรม ทั่วกันนะคะ


ประภาศรี สีหอำไพ

วิสัยทัศน์จากเวทีสตรีอุดมศึกษาโลก

Griselda Kenyon ประธานสหพันธ์สตรีอุดมศึกษานานาชาติ (The International Federation of University Woman) เรียกชื่อย่อว่า IFUW เป็นชาวอังกฤษ จัดประชุมใหญ่ประจำวาระ ๓ ปี สมัชชาสตรีอุดมศึกษานานาชาติ ครั้งที่ ๒๙ นับเป็นการประชุมสมัชชาสมาชิก (Council Members) รวมนายกสมาคม ๘๐ ภาคีประเทศสมาชิก ซึ่ง IFUW จะรับรองสมาคมเดียวแต่ละชาติมาประชุมครั้งที่ ๘๘ เพื่อสรุปผลงาน วางแผนอนาคตและลงมติเลือกประธาน IFUW คนใหม่จัดประชุมครั้งที่ ๘๙ ในช่วงท้ายของการประชุมใหญ่นี้ สถานที่เปิดเวทีคือมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ วันที่ ๑๐-๑๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๐

ขอแนะนำ IFUW องค์กร NGO ภาคเอกชน มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จุดเริ่มต้นสืบเนื่องจากการตั้งสมาคมสตรีอุดมศึกษาอเมริกัน (The American Association of Collegiate Alumnae) เมื่อปี ค.ศ.๑๘๘๒ (พ.ศ. ๒๔๒๕) รวมบัณฑิตสตรีทุกสาขาวิชาชีพ ต่อมาปี ค.ศ. ๑๙๐๗ (พ.ศ.๒๔๕๐) ประกาศตั้ง The British Federation of Woman Graduates (BFWG) ที่เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ

ปี ค.ศ.๑๙๑๙ (พ.ศ.๒๔๖๒) Dean Virginia Gildersleeves ได้ปรึกษากับอาจารย์มหาวิทยาลัยประเทศอังกฤษ คือ Caroline Spurgeon และ Rose Sidgwick ที่มาศึกษาดูงานในโครงการแลกเปลี่ยนในสหรัฐอเมริกา ร่วมประกาศแนวคิดก่อตั้งสหพันธ์สตรีอุดมศึกษานานาชาติขึ้น จัดประชุมใหญ่ครั้งแรกที่กรุงลอนดอนโดย Dean Virginia เป็นประธานเปิดการประชุมมีประเทศในยุโรป แอฟริกา ออสเตรเลีย แคนาดา ฯลฯ สามารถจัดประชุมใหญ่เลือกประธานคนแรกจัดในปี ค.ศ. ๑๙๒๒ (พ.ศ.๒๔๖๕) ผู้ได้รับเลือกตั้งคือ ดร.แคโรไลน์ สเปอร์เจียน (Coroline Spurgeon) จากสมาชิกสมัชชาที่กรุงปารีส

สมาคมสตรีอุดมศึกษาแห่งประเทศไทยในพระอุปถัมภ์ของ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เรียกชื่อย่อว่า ส.ส.อ.ท. ก่อตั้งโดยศาสตราจารย์ ท่านผู้หญิงพูนทรัพย์ นพวงศ์ ณ อยุธยา เป็นประธานกลุ่ม เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๑ และเข้าเป็นภาคีสมาคมแห่งประเทศไทยของ IFUW ในปีเดียวกัน ปี พ.ศ. ๒๕๕๑ ครบรอบ ๖๐ ปี

ศาสตราจารย์ ประภาศรี สีหอำไพได้รับเลือกตั้งเป็นนายกสมาคม ส.ส.อ.ท. เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ ต่อจาก รองศาสตราจารย์ ดร.ชุมพร ยงกิตติกุล ในสมัยที่ ดร.รัตนา ตุงคสวัสดิ์ เป็นนายก ส.ส.อ.ท. ศ.ประภาศรี เคยเป็นเลขาธิการ ๑ วาระ (๓ ปี) และเป็นกรรมการอำนวยการต่อมาอีก ๑ วาระ พบว่าเป็นสมาคมที่รวมสตรีทุกสาขาวิชาชีพทั้งจากมหาวิทยาลัย สถาบันภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไปที่สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาทำงานใน ๓ มิติ คือเป็นองค์กรสตรีที่พัฒนาสังคม ส่วนรวมอย่างเป็นกลาง ไม่จำกัดเพศ (Neutral Gender) เป็นองค์กรส่งเสริมความเสมอภาค (Equality) ดุลยภาพ(Equity) ในสถานภาพสตรีกับบุรุษ (Gender-Based) และมิติเพ่งเฉพาะส่งเสริมการศึกษาสตรีและเด็กแบบส่องแว่นขยาย (Specific Lens)

ศาสตราจารย์ประภาศรี สีหอำไพ ที่ปรึกษาศูนย์ส่งเสริมการสอนภาษาไทยและวัฒนธรรมไทยในต่างประเทศ คณะครุศาสตร์ จุฬาฯเป็นประธานพิธีมอบเกียรติบัตรโครงการอบรมครูอาสาสมัครไปสอนในสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. ๒๐๑๓ ภาคฤดูร้อน ๓ เดือนและครูประจำการ ๑ ปี รวม ๗๖ คน โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์พงษ์ลดา ธรรมพิทักษ์กุล เป็นผู้อำนวยการศูนย์ พร้อมด้วยคณะวิทยากร อาทิ รองศาสตราจารย์พูนสุข บุณยสวัสดิ์ อาจารย์อัชรา สมบูรณ์สิน ที่โรงเรียนสาธิตจุฬาฯฝ่ายประถมฯ

บทความข้างบนนี้เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของผลงานที่ ศ.ประภาศรี ทุ่มทั้งกำลังกายและกำลังใจบุกทางให้ลูกศิษย์ เยาวชนรุ่นหลังได้มีโอกาสเคียงบ่าเคียงไหล่กับชาวโลก พูดก็พูดเถอะขนาดของประเทศไทยเล็กมากถ้าเทียบกับประเทศสหรัฐอเมริกา เห็นว่าประเทศไทยมีขนาดเท่ารัฐเท็กซัสเพียงรัฐเดียว เชื่อว่าท่านไม่เพียงแต่ทุ่มเพียงกำลังกายและกำลังใจเท่านั้น ฟันธงได้เลย “กำลังทรัพย์” ด้วย เวลามีการเรี่ยราย งานกุศล ทำบุญตามวัดต่างๆ ทราบว่านอกจากเดินทางไปทำบุญ ทำงานตามต่างจังหวัดหลังเกษียณแล้ว ยังเดินทางไปประชุมตามประเทศต่างๆ นับว่า ศ.ประภาศรี เป็นนักวิชาการระดับโลก ถ้าจะเขียนถึงผลงานและประวัติชีวิตของท่านแล้วคงเป็นเล่มหนาปึก อ่านกันเป็นตอนๆ

จุดประสงค์ที่ ส.ท่าเกษม เขียนถึงท่านในเสาร์นี้เพื่อจะขอกราบคารวะ

แสดงความยินดีในนามของ ชมรมสุเทพแฟนคลับยู เอส เอ กับตำแหน่ง ปูชนียบุคคลทางด้านภาษาไทย ที่ท่านได้รับเมื่อวันที่ ๒๙ กรกฎาคมของปีนี้

เมื่อปี ค.ศ.๒๐๐๖ ขณะนั้นท่านเกษียณแล้ว เลี้ยงหลานอยู่ที่รัฐเมรี่แลนด์ และทำงานอาสาช่วยสังคมไทยทั้งทางศาสนาและการศึกษา ศ.ประภาศรีฯ ได้กรุณาตั้งชมรมขึ้นเพื่ออนุรักษ์ภาษาไทยที่มีความไพเราะ มีความหมาย การออกเสียงตัว ร ตัว ล ตัวกล้ำ การเขียนคำร้องที่สัมผัส ผสมผสานกันอย่างกลมกลืน จากศิลปินแห่งชาติหลายๆ ท่าน แม้นแต่ทำนองก็เป็นไทยๆ บางเพลงมาจากเพลงไทยเดิม คำร้องและทำนองเข้ากันอย่างเป็นปี่เป็นขลุ่ย ท่านสนับสนุนศิลปินนักร้องรุ่นอภิมหาอมตะ รวมไปถึงเพลงของสุนทราภรณ์ ปัจจุบันท่านยังติดตามนักร้องคลื่นลูกใหม่ของสุนทราภรณ์ ขอกระซิบเบาๆ มายังคุณผู้อ่านคอลัมน์นี้ว่า ศ.ประภาศรี เป็นแฟนเอลวิส เพรสลี่ย์ ด้วยนะ คงจะเป็นเพราะท่านอ่านคอลัมน์ “คุยกันวันเสาร์” ชอบเพลง ชอบนักร้อง และบุคคลที่เขียนถึง เลยรับ “ส.ท่าเกษม” เป็น “น้อง” อนุญาตให้เรียก “พี่อู๊ด” มา ๑๔ ปีแล้ว ปกติจะเอ่ยถึงท่านว่า “อาจารย์” ไม่เคยเป็นลูกศิษย์สายตรง แต่เป็นลูกศิษย์จากการอ่านคอลัมน์ “สารพันวรรณา” จาก น.ส.พ. ไทยแอล.เอ. ฉบับนี้ล่ะ !

แปลกที่ว่าใครก็ตามที่ ส.ท่าเกษม เขียนถึง ท่านจะรู้จักหมด รู้จักดีเสียด้วย เช่น หลวงสุขุมนัยประดิษฐ์ คุณครูฉลบชลัยย์ พลางกูร เจ้าของโรงเรียนอนุบาลดรุโณทยาน ราชเทวี (สะพานหัวช้าง) คุณสะอ้าน (นิสิตเก่าจุฬาฯ เกษตรศาสตร์ และอดีตนักศึกษาธรรมศาสตร์ เสียชีวิตแล้ว) ที่ท่านรู้จักหลวงสุขุมฯ (ประดิษฐ์ สุขุม) เพราะเกี่ยวโยงกับเขยทางตระกูลสุขุม นี่เป็นเพียง ๒-๓ ชื่อเท่านั้น อย่างไรก็ตามไม่ทราบว่า พี่อู๊ด แบ่งเวลาได้อย่างไร? นอกจากงานเขียนหนังสือ เขียนตำราเรียน งานกุศล ฯลฯ เลี้ยงหลานทั้งที่ประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา บินไปประชุมตามประเทศต่างๆ เดินสายทำบุญทั้งเมืองไทยเมืองนอก เพียงแค่นี้ก็เหนื่อยแทนแล้ว

ทั้งนี้และทั้งนั้นคงจะเป็นเพราะมีสุขภาพที่แข็งแรง จึงสามารถประสบผลสำเร็จในงานสำคัญชิ้นต่างๆ ทั้งงานราษฎร์-งานหลวง นับว่าเป็นบุญของท่าน ประกอบกับมีครอบครัวที่สมบูรณ์และสนับสนุน ซึ่งช่วยได้มาก !

ก่อนจบขอกราบขอบคุณที่ พี่อู๊ด กรุณาให้กำลังใจและสนับสนุนงานเขียนของ น้อง คนนี้มาตลอด และขออนุญาตนำจดหมายพี่อู๊ด มาลงเพื่อคุณผู้อ่านจะได้เห็นอุปนิสัย การนอบน้อมถ่อมตัว การใช้ภาษาที่ไพเราะ ความเมตตา และอะไรๆ อีกหลายอย่างที่เราสามารถจะนำมาเป็นตัวอย่างในการใช้ชีวิตประจำวันได้

- ขอขอบคุณเพื่อนพ้องน้องพี่และศิษย์ทั้งหลายที่แสดงมุทิตาจิต อันเป็นจิตที่เป็นกุศลของทั้งผู้ให้และผู้รับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อนร่วมรุ่นครุฯจุฬาฯที่มอบฉันทานุมัติให้คุณสุขุมาลย์ส่งเสียงตามสายมาเชิญไปร่วมฉลองกับผองเพื่อน คงต้องขอให้ร้องเพลงรอไปก่อน กลับจากอเมริกาค่อยว่ากันอีกที (กลัวแต่จะเปลี่ยนใจเท่านั้น )ความจริงเกียรติที่กระทรวงวัฒนธรรมมอบให้ครั้งนี้เป็นผลงานของอาชีพ "ครู" ล้วนๆ เริ่มตั้งแต่ฝึกสอนที่สวนกุหลาบ เวลาผ่านไปจากปี ๒๕๐๖ เวลานี้ก็ยังมีการพบปะสังสรรค์ประจำปีกันอยู่ไม่ขาด บางคนมาหาที่บ้านด้วย ลูกศิษย์สาธิตจุฬาฯก็เหมือนกัน ลูกศิษย์ครุศาสตร์ เกษตรศาสตร์ สุโขทัยธรรมาธิราช (ศิษย์ทางตำราเรียน) และเด็กเชื้อชาติไทยในต่างแดนที่จบการศึกษาภาษาไทยและวัฒนธรรมไทยในหน่วยจัดการศึกษาของคณะครุศาสตร์ จุฬาฯที่ร้องเพลง"ฉันเป็นคนไทย" มาถึงเมืองไทยเมื่อเร็วนี้ ไม่มีโอกาสพบกลุ่มจากอเมริกา พบแต่กลุ่มออสเตรเลีย ก็ร้องให้ครูฟัง เคยไปนิเทศการสอนนานมาแล้ว เด็กเป็นหนุ่มสาว ก็ร้องเพลงนี้ให้คนแต่งฟังแถมเพลงประจำวัดที่ครูเคยนั่งเรือขมอ่าวแล้วนึกเนื้อร้องเล่นเอง ว่า โรงเรียนวัดพุทธรังษี นครซิดนีย์รัศมีดุจดาว สุขสมนั่งเรือชมอ่าว จิงโจ้ยั่วเย้าลูกเคล้าคลอเคลีย ฉันใดลูกไทยยึดมั่น ผูกสายสัมพันธ์ อย่าให้สูญเสีย เด็กไทยในออสเตรเลีย อย่าทำให้เสียชื่อชาวสยาม ภาษาประเพณีดีงาม ศึกษาเพื่อความเป็นไทยเถิดเอย จบ ขอกราบขอบพระคุณผู้ร่วมงานทุกท่าน ขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ และขอบใจน้องๆผู้ร่วมงานทุกภาคส่วน ทุกคนโดยทั่วกัน

"ครูอู๊ด" ประภาศรี (สุดบรรทัด) สีหอำไพ

- ขอบคุณในน้ำใจของมิตรคนสวย รางวัลชีวิตที่ได้รับเป็นรางวัลของชุมชนไทยด้วย เพราะตอนที่กระทรวงวัฒนธรรมให้ส่งประวัติ ชีวิตนี้เป็น"ครู""อย่างเดียว ตั้งแต่ครูฝึกสอนที่สวนกุหลาบเด็กน้อยที่เติบโตกับครูฝึกสอนของเขา ยังอีเมลกันอยู่ อ่านเมลของหมอซื่อตรง หมอกฤษณ์ หมอเจริญ สารพัดหมอและนานาอาชีพ รุ่นนี้ทั้งระดับ นัยว่าเป็นหมอ ๑๘ คน ลูกศิษย์สาธิตจุฬาฯยังสังสรรค์ครูเป็นวาระประจำ บางคนเป็นทหารทีไม่กล้วใครเลย ตามอัตลักษณ์ของเด็กสาธิต จุฬาฯ แต่มาถึงวาระพบครูเขาคุกเข่ามาหาทีละคน แน่ใจได้ว่าปากกับใจเขาตรงกัน ศิษย์ปริญญาโทเกษตรฯ สุโขทัยธรรมาธิราช (ศิษย์ทางตำราหลายหน่วยทั้งป.ตรี-โท )และศิษย์ครุศาสตร์ทั้งตรีโทเอกที่สอนและเป็นผู้สอบวิทยานิพนธ์ ยังแถมศิษย์วัดไทยอย่างที่คุณแม่ชนิต สายประดิษฐ์เขียนจดหมายมาเมื่อท่านยังมีชีวิตอยู่จำนวนไม่น้อย อีกทั้งศิษย์ครูอาสาที่วัดไทยขณะนี้เป็นต้น ผู้ปกครองกับครูเป็นบุคคลคู่กัน รางวัลทั้งปวงครึ่งหนึ่งเป็นของผู้ปกครองและชุมชนไทยโดยแท้ โดยความสำเร็จทั้งหมดมีพลังนำธรรมจักรคือคณะสงฆ์เป็นแกนนำ

ข่าวและรูปลงในนสพ.มติชนรายวัน เมื่อวานนี้ คงพอแล้วค่ะ มีบุคคลอีกมากมายที่ทำอย่างเงียบๆ

และในประวัติที่ส่งไป มีทั้งศ.กิตติคุณอำไพ สุจริตกุล ศ.กิตติคุณสุมน อมรวิวัฒน์ รศ.ไขสิริ ปราโมช ณอยุธยา เขาบอกให้เนื้อที่จำกัด คณะสงฆ์ที่สำคัญจึงได้แต่"หลวงเตี่ย.พระธรรมราชานุวัตรผู้ริเริ่มโครงการ ณ วัดไทยลอสแองเจลิส และพระพรหมวชิรญาณผู้ริเริ่มจัดประชุมปฏิบัติการอบรมครูอาสา

ภาพที่เขาจะให้ลงโปสการ์ดเต็มตัว ก็ต่อรองขอเอาภาพกิจกรรมของคณะสงฆ์วัดไทยดีซีของหลวงตาชีกับเด็กๆ ครูอาสาและผู้ปกครอง เป็นส่วนใหญ่ในกระดาษหน้าเดียวที่เขากำหนดมา หนังสือจะเสร็จสัปดาห์หน้า จึงยังไม่เห็น ว่าเขาลงอะไร ตัดอะไร

ขอบคุณในมุทิตาจิตที่มอบให้ ชอมอบต่อเป็นกำลังใจให้เพื่อนครูอาสาสมัครทุกรุ่นทุกคน โลกจะสวยด้วยมือครู เชื่อครูนะคะ ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่ไปกว่าอาชีพครู ขึ้นอยู่กับว่าหัวใจครูมี"ศรัทธา"ต่ออาชีพของเรามากพอแล้วหรือยัง ขออย่ายอมแพ้...ร้องเพลงนี้ไว้ อย่าอ่อนแอท้อถอย อย่าเอาตนเป็นที่ตั้งของจุดศูนย์กลางของโลก โลกยังหมุนได้แม้ไม่มีเรา แต่จะเป็นโลกที่ร่มเย็นเป็นสุขเพราะมีเราได้ไม่มากก็น้อยสำหรับครอบครัว ญาติมิตรและสรรพสัตว์ทั้งหลาย ก่อนนอนอย่าลืมสวดมนต์แผ่เมตตาเข้าไว้

ขอบคุณคุณสุที่จะเขียนข่าวให้ เลยขอเขียนถึงลูกศิษย์แทนนะคะ

ประภาศรี สีหอำไพ

ลาก่อนสำหรับเสาร์นี้
ส.ท่าเกษม
๑๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๖