ไลฟ์สไตล์
จอมพล
คนไทยรักในหลวง

ผู้เขียนนั่งเขียนต้นฉบับไลฟ์สไตล์ในฉบับนี้ในวันที่ ๕ ธันวาคม วันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยหัวใจเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกสับสนทั้งความปลื้มปิติใจที่เห็นความจงรักภักดีของพี่น้องชาวไทยที่มีต่อพระองค์ และความเศร้าหมองปนไปด้วยความไม่เข้าใจที่ได้เห็นผู้คนจำนวนมากที่หลงผิดและลบหลู่พระผู้ทรงเป็นศูนย์รวมหัวใจของปวงชนชาวไทย

คงจะเป็นที่ทราบกันอยู่ดีแล้วว่าในขณะนี้มีประชาชนคนไทยแบ่งแยกออกเป็นสองฝ่ายด้วยกัน ฝ่ายหนึ่งคือฝ่ายที่สนับสนุนรัฐบาล และกล่าวอ้างว่าเป็นประชาชนกลุ่มใหญ่ที่สนับสนุนรัฐบาลอันมาจากการเลือกตั้งที่ได้รับคะแนนเสียงกว่า ๑๕ ล้านเสียงที่เลือกพรรคเพื่อไทยเข้ามาเป็นรัฐบาล กับอีกฝ่ายที่ออกมาต่อต้านรัฐบาลและกล่าวหาว่ารัฐบาลไม่มีความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศอีกต่อไป ด้วยเงื่อนไขความล้มเหลวทางการบริหารประเทศ มีผู้บริหารที่ไม่มีศักยภาพ มีการคอรับชั่นอย่างมโหฬาร และฟางเส้นสุดท้ายคือการเสนอกฏหมายนิรโทษกรรม

ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลได้รวบรวมกำลังพี่น้องประชาชนออกมาชุมนุมต่อต้านรัฐบาล และได้อ้างว่าประเด็นสำคัญที่ผู้ประท้วงรัฐบาลหยิบยกขึ้นมาคือการที่รัฐบาลภายใต้การนำของคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ถวายความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และอยู่เบื้องหลังขบวนการล้มเจ้า ซึ่งหมายถึงต้องการเปลี่ยนระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นประมุข ไปเป็นการปกครองแบบไม่มีพระมหากษัตริย์

ประเด็นสำคัญอยู่ที่ตรงนี้ว่า ประชาชนต้องตัดสินใจว่า รัฐบาลของคุณยิ่งลักษณ์นั้นอยู่เบื้องหลังขบวนการล้มเจ้าจริงหรือไม่

ผู้เขียนเขียนบทความนี้ด้วยการใช้วิจารณญานไตร่ตรองอยู่ด้วยการพยายามหาหลักฐานต่างๆมาทบทวนด้วยใจที่เป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่าย อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้ทบทวนอยู่นานก็พบว่า รัฐบาลนี้อยู่เบื้องหลังของขบวนการล้มเจ้าจริง ถึงแม้ปากจะบอกว่ายังคงจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่ก็ตาม

ใครๆก็ทราบว่าพรรคเพื่อไทยคือพรรคการเมืองของคุณทักษิณ ชินวัตร ฉะนั้นผู้ที่สนับสนุนรัฐบาลก็คือผู้ที่สนับสนุนคุณทักษิณ ชินวัตร อันนี้เป็นตรรกะที่มีเหตุและผล ตรงนี้จึงต้องมาดูที่จุดยืนของคุณทักษิณ ว่ามีท่าทีต่อระบอบการปกครองโดยมีพระมหากษัตริย์อย่างไร

ผู้เขียนได้พบหลักฐานมากมายที่ยืนยันจุดยืนของคุณทักษิณอันมีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่าคุณทักษิณไม่ต้องการให้มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขที่เผยแพร่ทางสื่อโซเชียลเน็ทเวิร์ค ตัวอย่างอันเห็นได้อย่างชัดเจนมาจากเสียงโทรศัพท์โฟนอินที่คุณทักษิณปราศัยกับประชาชนเสื้อแดงในคราวที่ออกมาต่อต้านรัฐบาลที่นำโดยคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และมีการเผาบ้านเผาเมืองกัน โดยกล่าวหาว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ อยู่เบื้องหลังของการรัฐประหาร ที่ทำให้เขาต้องโทษและหนีออกนอกประเทศ ถอดความคำต่อคำดังนี้

“ผมก็ไม่รู้ว่า เจ้านายทั้งสองพระองค์ มัน เพราะอะไรทำไมพระองค์ท่านถึงเข้ามายุ่งการเมืองขนาดนี้ ผมขอยืนยันว่า การปฏิวัติเบื้องหลังในการสั่งการทั้งหมดเป็นพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”

หลักฐานชิ้นสำคัญอีกชิ้นหนึ่งได้แก่การที่คุณทักษิณให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศที่ประเทศดูไบ เรียกร้องให้มีเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข โดยอ้างถึง “ยุคฟ้าใหม่” หลังจากสิ้นแผ่นดินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล อดุลยเดชแล้ว ดังนี้

Richard Lloyd Parry in Dubai

Last updated at 12:00AM, November 9 2009

Thaksin Shinawatra, the ousted Prime Minister of Thailand and opposition leader in exile, has called for reform of the country’s revered monarchy and spoken of a “shining” new age after the era of the ailing King, Bhumibol Adulyadej.

Mr Thaksin’s remarks, which touch on taboo areas of Thai politics, come as he prepares to return to South-East Asia from exile in a move which has caused turmoil in Bangkok.

หลักฐานอีกมากมายที่เฉียดฉิวไปมากับการที่คุณทักษิณก้าวล่วงหรือทำตัวเสมอ หรือบังอาจต่อรองกับพระราชอำนาจ ถึงแม้จะไม่กระจ่างและตรงตัวว่ามีการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความฮีกเหิมและหลงในอำนาจของตน

หากท่านผู้อ่านต้องการอ่านหลักฐานทั้งหมดที่กล่าวมาตั้งแต่เบื้องต้นที่คุณทักษิณได้เข้ามาในวงการการเมืองและมองเห็นจุดยืนของเขาต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ท่านจะหาอ่านได้จากเวปไซด์ดังต่อไปนี้ http://www.photoontour.com/events_html/26feb2010/news1/120.htm ผู้เขียนก็จะไม่ขอนำมาลงทั้งหมดเพราะมีความยาวค่อนข้างมาก

อย่างไรก็ตามถึงแม้จะมีหลักฐานเด่นชัด ก็ยังคงมีผู้ที่คัดค้านว่า “เสื้อแดง” ยังคงจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และไม่ควรนำมาเป็นข้อกังขาในการกล่าวอ้างว่ารัฐบาลไม่มีความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศต่อไป

พรรคเพื่อไทยและมวลชนคนเสื้อแดง นำโดยแกนนำไม่ว่าจะเป็น จักรภพ เพ็ญแข, โชติศักดิ์ อ่อนสูง, ชุติมา เพ็ญภาค, ใจ อึ้งภากรณ์, เพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล, บุญยืน ประเสริฐยิ่ง, วีระ มุสิกพงศ์, สุรชัย แซ่ด่าน, อเนก ชนะชัย, ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล, ไม่เว้นแม้แต่ตัวการใหญ่ที่มีหลักฐานชัดเจน เป็นคลิปวิดีโอ เผยแพร่ให้เห็นทางสื่อต่างๆ อย่างเช่น ก่อแก้ว พิกุลทอง, ชูพงศ์ ถี่ถ้วน, พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย, รวมถึง จตุพร พรหมพันธุ์ เจ้าของวาทะกระสุนพระราชทาน

คนทั้งหมดที่ออกมาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผู้ทรงเป็นพระอยู่เหนือเศียรเกล้าชาวไทย ได้ออกมากล่าวคำหยามหมิ่นอย่างไม่เกรงใจประชาชนที่รักและเทิดทูลพระองค์ โดยมีมวลชนคนเสื้อแดงจำนวนมากโห่ร้องสนับสนุน และตะโกนย้ำคำพูดบาดหูต่างๆอย่างไม่ลดละ

คุณทักษิณ หากไม่ได้สนับสนุนกลุ่มแกนนำของตนเช่นนี้ ไฉนเลยจึงปล่อยให้มีการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพภายใต้การชุมนุมของกลุ่มคนที่สนับสนุนตน

เมื่อการณ์เป็นเช่นนี้ เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า คุณทักษิณ ต้องการล้มระบอบการปกครองอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

อย่างไรก็ตามในประเทศประชาธิปไตย การเคารพเสียงของพี่น้องประชาชนชาวไทยด้วยกันเอง เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องอดทน ผู้เขียนถือว่าผู้ที่ออกมาแสดงตนไม่ต้องการระบอบกษัตริย์ ก็มีความชัดเจนและมีสิทธิ์ที่จะออกมาเรียกร้องภายใต้ตัวบทกฏหมาย

เราจะไม่พูดถึงคนกลุ่มนี้ เพราะพวกเขาได้แสดงเจตนารมย์อย่างชัดเจน

เราจะไม่เสียใจที่คนที่เรียกตัวเองว่าคนไทย กลับเนรคุณแผ่นดิน เนรคุณพระผู้เป็นพ่อในดวงใจของคนจำนวนมากทั้งชาติ เพราะคนเหล่านี้มีอุดมการณ์ทางการเมืองที่อยู่ตรงข้ามกับเรา

สิ่งที่ผู้เขียนเสียใจเป็นที่สุด ก็คือกลุ่มคนอีกจำนวนมากที่ปากบอกว่า “รักในหลวง” ออกมาลงข้อความถวายพระพร ทำงานรับใช้เบื้องพระยุคลบาท เป็นข้าราชการของพระองค์ แต่สนับสนุนรัฐบาลของคุณทักษิณ

คนกลุ่มนี้ต้องการอะไร จุดยืนของตนอยู่ตรงไหน ทำตัวเป็นปลาสองน้ำ ข้าสองแผ่นดิน ที่น่าเสียใจเป็นที่สุดคือคนกลุ่มนี้มีคนที่ผู้เขียนเอง เคารพนับถือ ให้ความเกรงใจที่เป็นผู้ใหญ่ มีความรู้ความสามารถ

คนอีกกลุ่มคือกลุ่มที่ปากพร่ำร้องถวายพระพร รักในหลวงต่างๆนาๆ แต่เมื่อมีผู้หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ กล่าวข้อความอันเป็นเท็จ ให้เป็นที่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท กลับไม่ทำอะไร ไม่กล้าแสดงออก ถือว่าธุระไม่ใช่ ย่ำแย่ไปกว่านั้น ยังแสดงความเห็นเป็นพวก “โลกสวย” อย่าทะเลาะกันเลย ไม่อยากเห็นคนไทยต้องมาสู้กันเอง หรือ การชุมนุมอารยขัดขืนของประชาชนที่ต่อต้านรัฐบาลเป็นการทำลายประเทศ ทำให้เศรษฐกิจล่มจม กลุ่มโลกสวยนี้เอง ที่สร้างความน้อยใจจนน้ำตาไหลย้อนเป็นเลือดให้กับคนที่รักพ่อหลวงอย่างเราหลายคนช้ำใจ

ในวาระดิถีอันเป็นมงคล ต่อพระผู้เป็นศูนย์รวมดวงใจไทยทั้งชาติ การทำงานของพระองค์ตลอดระยะเวลาการครองราชย์อันยาวนาน ทรงทำงานหนักเพื่อคนไทยทั้งประเทศ

แต่คนไทยพวกนี้ยังคงมีจิตใจมืดมัว ทำตัวเป็นไทยเฉย ไม่ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อพระองค์

ถ้าใจไม่มืดบอด และเทิดทูลพระเจ้าอยู่หัว ยังอยากให้ธงไตรรงค์ของไทยมีสามสี อันได้แก่ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ก็สมควรที่จะเลือกข้างและลุกขึ้นมาต่อต้านพวกที่ต้องการล้มล้างระบอบกษัตริย์เสียที

มาจนถึงบัดนี้ การณ์ก็กระจ่างแจ้งแล้วว่า ใครทำเพื่อประเทศชาติ และใครทำเพื่อตัวเอง จึงควรเลิกเป็นไทยเฉย หรือไม่อย่างนั้น ก็เข้าพวกเป็นแดงล้มเจ้าไปเสียเลย ให้รู้แล้วรู้รอด อย่าทำตัวเป็นเหยียบเรือสองแคมอยู่ต่อไป

ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า เลือดไทย ใจไทย จะไม่ยอมให้มันผู้ใดมาบังอาจหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ อีกต่อไป ขอถวายการต่อต้านจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ให้มันรู้กันไปว่าแผ่นดินนี้ที่พระองค์ทรงสร้าง มันต้องไม่มีที่ยืนให้พวกต่ำช้านี้อีกต่อไป

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ