ไลฟ์สไตล์
จอมพล
10 สัญญาณเตือน…ที่อย่ามองข้าม

สวัสดีปีใหม่ท่านผู้อ่านไลฟ์สไตล์ที่รักทุกๆท่าน ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยดลบันดาลให้ท่านประสบแต่ความสุข ความเจริญ มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์

สุขภาพดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ ยิ่งไปเสียกว่าเงินทองชื่อเสียงหรือการงาน เพราะปราศจากสุขภาพที่ดีแล้ว อย่างอื่นก็หมดความหมายไปโดยปริยาย

ผู้เขียนได้ไปพบบทความเกี่ยวกับสัญญานเตือนภัยที่ร่างกายของเรานั้นส่งสัญญานเตือนมา เห็นว่ามีประโยชน์จึงคัดลอกมาให้ได้อ่านกันดังนี้ครับ


"สิ่งผิดปกติเล็กๆ น้อยๆ ที่เราไม่ควรจะชะล่าใจว่าเป็นเรื่องธรรมดาตามวัย เพราะไม่ว่าจะเป็นอาการผมร่วง เล็บเหลือง จุดด่างดำหรือกระ ฝ้า นั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกโรคร้ายที่กำลังจะมาเยือน เราลองมาไล่เรียงกันตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้ากันเลยดีกว่านะคะว่ามีอะไรที่จะเป็นสัญญาณเตือนให้กับเราได้บ้าง


1.เส้นผม-ขนคิ้ว เริ่มร่วง ระวังต่อมไทรอยด์กำลังทำงานผิดปกติ

ถ้าคุณมีอาการผมร่วงมากผิดปกติจนแทบกลายเป็นคนผมบางแล้วละก็ นั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า ต่อมไทรอยด์ของเราอาจจะกำลังทำงานผิดปกติ และโรคต่อมไทรอยด์ผิดปกติก็ไม่ได้ส่งสัญญาณผ่านเส้นผมบนศีรษะเท่านั้น หากแสดงอาการผ่านขนคิ้วด้วย

ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ มีหน้าที่ในการเผาผลาญอาหาร เพื่อให้พลังงานแก่ร่างกายเสริมสร้างและซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอในร่างกาย ถ้าต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ เซลล์ในร่างกายก็จะเสื่อมโทรม ส่งผลให้เกิดอาการขนคิ้วโดยเฉพาะบริเวณหางคิ้วหลุดร่วง เส้นผมแห้งและหลุดร่วงง่าย น้ำหนักเพิ่มขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ รู้สึกเหนื่อยง่ายและท้องผูกอีกด้วย

เมื่อสังเกตเห็นอาการเหล่านี้ ต้องรีบไปพบแพทย์อย่างด่วนจี๋ เพื่อตรวจเลือด วัดระดับฮอร์โมนไทรอยด์ หากพบว่าฮอร์โมนดังกล่าวต่ำลงหรือสูงเกินไป จะได้รีบเยียวยารักษาให้ระดับไทรอยด์ฮอร์โมนกลับมาอยู่ในระดับปกติตามที่ควรจะเป็น


2.ริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้า ระวังโรคกระดูกพรุน

จริงอยู่ที่ว่าริ้วรอยแห่งวัยเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และเกิดขึ้นตามวัยก็ตามที แต่บางครั้งริ้วรอยก็บ่งบอกถึงสัญญาณของโรคกระดูกพรุนได้มีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเยล ของประเทศสหรัฐอเมริกา รายงานว่าริ้วรอยบนใบหน้าของคุณผู้หญิงบ่งบอกได้ว่า เธอมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคกระดูกพรุนมากน้อยแค่ไหนเนื่องจากระดับโปรตีนในผิวหนังมีความเชื่อมโยงกับกระดูก และริ้วรอยลึกและรอยหยาบกร้านบนผิวหนังสัมพันธ์กับความหนาแน่นของกระดูกที่ลดลง จึงมีความหมายว่ายิ่งใบหน้าและลำคอมีริ้วรอยมากเท่าไร คุณสาวๆก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคกระดูกพรุนมากขึ้น


3.ตาเหลือง ระวังโรคเกี่ยวกับตับ

ในภาวะปกติ ตาขาวควรจะสดใสสุขภาพดี ทว่าหากจู่ๆ ตาขาวของคุณเกิดเปลี่ยนเป็นสีเหลือง นั่นเป็นสัญญาณเตือนของโรคตับ เช่นตับแข็งหรือตับอักเสบ นอกจากนี้ ยังสามารถบอกถึงอาการผิดปกติของถุงน้ำดีอีกด้วยตาเหลือง คือสัญญาณที่ไม่ปกติเอาเสียเลย หากครั้งใดเมื่อส่องกระจกแล้วพบว่า ดวงตาขาวเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติด่วนเลยนะคะ


4.มีกลิ่นปาก ระวังหัวใจและกระดูกผิดปกติ

อย่าคิดว่าปากเหม็นเป็นเพียงสัญญาณของโรคเหงือกและฟันเพียงอย่างเดียว เพราะการที่คุณมีกลิ่นปาก ทั้งที่พยายามดูแลสุขภาพในช่องปากเป็นอย่างดีแล้ว อาจจะเป็นผลเกี่ยวเนื่องมาจากความผิดปกติของหัวใจและกระดูกของคุณก็ได้ เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา นักวิจัยจากประเทศสกอตแลนด์ เผยแพร่งานวิจัยในวารสารทางการแพทย์ของประเทศอังกฤษว่าการแปรงฟันช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจได้ผู้ที่แปรงฟันอย่างสม่ำเสมอวันละ 2 ครั้ง มีความเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคหัวใจน้อยกว่าผู้ที่ไม่ค่อยแปรงฟันมากถึง 70 เปอร์เซ็นต์


5.ริมฝีปากแห้งเป็นขุย ระวังโรคภูมิแพ้ริมฝีปากแห้งและแตกอย่างรุนแรง

เป็นสัญญาณบอกถึงโรคภูมิแพ้ หรือหากบริเวณมุมปากแห้ง ก็เป็นการบ่งบอกว่าคุณอาจเป็นโรคปากแห้งตาแห้ง (Sjogren syndrome) ซึ่งเป็นหนึ่งในโรคแพ้ภูมิตัวเอง ที่ผู้ป่วยจะมีภูมิคุ้มกันผิดปกติ ทำให้เกิดการอักเสบที่อวัยวะต่างๆคล้ายกับโรคพุ่มพวง ภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติในผู้ป่วยโรคนี้มักจะไปทำให้เกิดการอักเสบที่ต่อมน้ำลายและต่อมน้ำตา ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการปากแห้งตาแห้ง รวมถึงมีอาการผิวแห้ง ปวดข้อและอ่อนเพลียร่วมด้วย


6.ปื้นสีดำขึ้นรอบคอ ระวังโรคเบาหวาน

หากพบว่าด้านหลังคอของคุณเป็นรอยดำปื้นๆ ขัดถูอย่างไรก็ไม่ออก แสดงว่าคุณมีโอกาสเป็นโรคเบาหวานได้ คณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา รายงานว่าผู้ที่มีผื่นผิวหนังเป็นรอยหรือเป็นแถบดำคล้ำแบบนี้ มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคเบาหวานทว่าแม้จะมีความเสี่ยงแต่หากสังเกตเห็นแล้วรีบไปตรวจรักษาแต่เนิ่นๆ การรักษาโรคก็ย่อมจะได้ผลดีกว่า


7.ผื่นผีเสื้อขึ้นบนใบหน้า ระวังโรคพุ่มพวง

หากว่าจู่ๆ ใบหน้าคุณมีผื่นขึ้น โดยเป็นผื่นตั้งแต่บริเวณสันจมูกลากยาวไปที่โหนกแก้มทั้งสองข้างเป็นรูปคล้ายผีเสื้อ ทางการแพทย์เรียกว่าผื่นผีเสื้อ ซึ่งผื่นนี้มักพบในผู้ป่วยโรค SLE ที่คนไทยเรารู้จักกันในนามโรคพุ่มพวง หรือโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง ดังนั้น เมื่อพบว่ามีอาการดังกล่าวรีบดิ่งไปพบแพทย์โดยด่วน


8.เล็บขาว เล็บเป็นร่องบุ๋ม เล็บเป็นลอน ระวังสารพัดโรค

เล็บสามารถบ่งบอกถึงความผิดปกติในร่างกายได้มากมาย เช่น เล็บเปลี่ยนสี เกิดรอยบุ๋ม หรือบิดเบี้ยวผิดรูปไป ก็เป็นเรื่องปกติของผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน หรือผู้ที่ป่วยเป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง กรณีมีอาการผมร่วงเป็นหย่อมๆ ร่วมด้วยก็เป็นสัญญาณว่า คุณอาจจะกำลังเป็นโรคที่เกี่ยวกับไขข้อ หากเล็บเป็นร่อง บอกให้ทราบถึงความผิดปกติของไต เล็บเป็นลอน (ตามขวาง) บ่งบอกว่าฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติเล็บสีเขียวคล้ำ นั่นคือคุณอาจกำลังป่วยด้วยโรคหืดอย่างรุนแรง โรคถุงลมโป่งพอง โรคหลอดลมอักเสบ เล็บขาว บอกถึงความผิดปกติของตับไต อาจมีภาวะโลหิตจางหรือตับอักเสบเรื้อรัง

ส่วนเล็บเหลือง อาการนี้อาจแสดงว่าคุณเป็นโรคเบาหวาน เนื่องมาจากการที่น้ำตาลซึ่งมีอยู่มากในร่างกายไปรวมตัวเข้ากับคอลลาเจนและโปรตีนในเล็บ จึงทำให้เล็บเปลี่ยนจากสีชมพูไปเป็นสีเหลือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณปัสสาวะบ่อย แถมรู้สึกเหนื่อย อ่อนเพลียร่วมด้วย นั่นอาจแสดงว่าคุณกำลังถูกเบาหวานถามหาแล้วล่ะค่ะ


9.เท้าบวม ระวังโรคหัวใจ

เท้าบวมอาจจะเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งอุบัติเหตุทำให้เคล็ดขัดยอกจนบวม กรรมพันธุ์ระหว่างตั้งครรภ์ ความอ้วน หรือการใช้ยาบางชนิดที่ทำให้มีการกักเก็บน้ำไว้ในขามากเกินไป แม้อาการเท้าบวมจะดูไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่หากเกิดภาวะดังกล่าวขึ้นก็ไม่ควรวางใจ เพราะอาการเท้าบวมขาบวมนั้น ถือเป็นอาการสุดคลาสสิกของโรคหัวใจ โดยอาการเท้าบวมในผู้ป่วยโรคหัวใจเกิดจากการที่หัวใจด้านขวาทำงานลดลง เลือดจากขาไม่สามารถไหลเข้าไปยังหัวใจด้านขวาได้โดยสะดวก จึงทำให้มีเลือดค้างอยู่ที่ขามากขึ้น


10.ไฝเปลี่ยนขนาดเปลี่ยนสี ระวังโรคมะเร็งผิวหนัง

ใครที่มีไฝติดตัวมาตั้งแต่เกิดก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร แต่หากว่าไฝของคุณเกิดเปลี่ยนแปลงจากเม็ดเล็กจิ๋วกลายเป็นใหญ่ขึ้น หรือจากสีจางกลายเป็นสีที่เข้มขึ้น อาจเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งผิวหนัง ดังนั้น ควรสังเกตการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ หากมีอะไรผิดปกติรีบไปพบแพทย์ อย่านิ่งนอนใจเชียวนะคะ"


ที่มา...megazy.com