ไลฟ์สไตล์
จอมพล
ซอมบี้

เพิ่งผ่านพ้นเทศกาลฮัลโลวีนไปหมาดๆ ผู้เขียนจึงขอหยิบควันหลงฮัลโลวีนมาเล่าต่ออีกสักวัน อันเทศกาลปล่อยผีของฝรั่งนี้ ถ้าเราจะคุยกันเรื่องความน่ากลัวของบรรดาผีทั้งหลายแล้วนั้น ผู้เขียนว่า “ซอมบี้” ติดอันดับความน่ากลัวเป็นอันดับต้นๆ

ท่านผู้อ่านคงรู้จักซอมบี้กันดี แต่ถ้าหากใครไม่รู้ผู้เขียนได้ไปค้นมาจาก http://www.tumnandd.com/-zombies/ มีความดังนี้คือ

“เรื่องราวของผีดิบเดินได้ที่เรียกว่า ซอมบี้นี้เกิดขึ้นครั้งแรกในดินแดนแถบริมฝั่งทะเลคาริบเบียน ต่อมาได้เผยแพร่ขยายไปในส่วนต่างๆของยุโรป ผู้ที่ทำพิธีกรรมทางไศยศาสตร์ ปลุกผีดิบพวกนี้ขึ้นมาคือบรรดาพ่อมดหมอผีผู้รอบรู้เกี่ยวกับวิชามนต์ดำใน ลัทธิวูดู อันเป็นลัทธิ หนึ่งซึ่งมีวิธีปลุกศพคนตายให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาด้วยอำนาจแห่งไสยเวทย์ โดยการท่องมนต์ ลึกลับอ้อนวอนต่อ “เวสตู” เทพเจ้าแห่งปีศาจและความชั่วร้าย นอกจากนั้นลัทธิวูดู ยังมีมีพิธีการเกี่ยวกับการสาปแช่ง และสังหารศัตรู ด้วยวิธีการของมนต์ดำ ซอมบี้ที่ตายไปแล้วเป็นซอมบี้ที่เกิด จากเวทมนตร์ดำ มักจะไม่ทำร้ายผู้คน เว้นแต่ จะเป็นซอมบี้ที่ถูกปลุกจาก พวกหมอผีหรื่อพวกลัทธินอกรีต มักจะมีนิสัยดุร้าย ชอบกินพวกซากคนตายตามสุสาน ซากสัตว์ต่างๆ หรือแม้แต่คนเป็นก็ย่อมได้ ซอบี้พวกนี้ มีลักษณะผอมโซ เคลื่อนที่ช้า แต่ บางพวก เช่น ซอมบี้ที่มีชื่อว่า น็อตซือเฮอเรอร์(nachtzeher)จะมีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว

ซอมบี้อีกประเภทหนึ่งคือซอมบี้ที่ถูกดัดแปลงเป็นซอมบี้นั้นเกิดจาก พวก นักวิทยาศาสตร์ที่ทดลองเกี่ยวกับชีวเคมี ส่วนใหญ่คือ พวกแฟรงเก้นสไตน์ นั่นเอง แต่ที่ปรากฏในเกม หรือ ภาพยนตร์ มักจะเป็นซอมบี้ที่เกิดจากการทดลองไวรัสปรสิต มีการเคลื่อนไหว่ เชื่องช้า(เพราะ เป็นคนที่ตายไปแล้ว เลือดจะแข็งตัว ทำให้เคลื่อนไหวลำบาก)เมื่อใดที่ซอมบี้พวกนี้ กัด หรือ ข่วน มนุษย์ ในไม่ช้า คนๆนั้นก้จะกลายเป็น ซอมบี้เช่นเดียวกัน ซอมบี้พวกนี้ลักษณะเป็นคนหน้าซีด ตาขาว มีฟันที่ไม่ตรงกัน และมีฟันที่เหลือง มีเลือดชุ่มตัว น่าสยดสยอง มีจุดอ่อนที่หัว เพราะซอมบี้พวกนี้ มักถูกไวรัสควบคุมที่สมอง ถ้าใช้อาวุธคม๐ พวกขวาน หรือ ดาบ ฟันเข้า จะหยุดการทำงานของซอมบี้ ส่วนภาพยนตร์ที่โด่งดังที่ทุกคนรู้จักซอมบี้ในทุก ๆ แห่ง คงหนีไม่พ้น หนังเรื่อง Resident Evil (ผีชีวะ) ทั้ง 3 ภาค ซึ่งดัดแปลงมาจากเกม Resident Evil มาทำเป็นภาพยนตร์ นั่นเอง”

เมื่อเข้าใจกันดีแล้ว ท่านผู้อ่านอาจจะเห็นว่าไร้สาระและเป็นไปไม่ได้ บังเอิญผู้เขียนไปพบบทความที่เล่าเรื่องซอมบี้ว่าอาจจะเกิดขึ้นได้จริงตามเหตุผล ๕ ข้อดังต่อไปนี้ http://tech.mthai.com/gadget/23175.html

“คุณตื่นขึ้นมาในช่วงสายของวันหนึ่ง บรรยากาศแวดล้อมดูเงียบผิดปกติ พยายามเดินหาใครสักคนในบ้าน เพื่อเรียกสัญญาณของสิ่งมีชีวิต ไม่ปรากฏสัญญาณใดๆ ทั้งสิ้น ทันใดนั้นมือคู่หนึ่งก็ปะทะเข้ากับหน้าต่างอย่างแรง กระจกแตกกระจาย มันเข้ามาจับไหล่ของคุณ พร้อมกลิ่นเหม็นคาวคละคลุ้ง

เมื่อหันไปมองก็ต้องผงะกับร่างของซอมบี้ ตรงหน้า คุณกรีดร้อง!! เอื้อมมือไปคว้าปืนที่มาจากไหนไม่รู้ เล็งเป้ายิงเข้าทะลุหัวซอมบี้ตนนั้น มันสมองไหลเรี่ยราด ก่อนจะเดินเข้าไปส่องหน้ามันใกล้ๆ แล้วพบว่า นั่นคือ ที่รักของคุณ หลังจากได้รับเชื้อไวรัสที …

ภาพยนตร์อย่าง Resident Evil 5 , Down of the Dead หรือซีรีส์ The Walking dead ได้พาคุณระทึกในดินแดนแห่ง ซอมบี้ ผี ดิบ ที่อาจทำให้คุณเก็บเอาไปฝัน หลังดูจบ บางครั้งแอบลุ้นว่าอยากให้เกิดโรคระบาดขึ้นจริง แล้วตัวคุณดันมีพันธุกรรรมพิเศษทำให้กลายร่างเป็นนักล่าซอมบี้ได้จริงๆ บ้างไหม?

ใครว่าเรื่องเหล่านี้ไร้สาระ และเกิดขึ้นจริงไม่ได้ เพราะในแง่วิทยาศาสตร์ความผิดพลาด มีขึ้นเสมอ และ 5 เหตุผลเหล่านี้ อาจนำเราสู่หายนะอย่างเมืองแรคคูนซิตี้ !!

5. ปรสิตสมอง

ความจริงเรื่องราวของปรสิตที่เข้าควบคุมจิตใจมนุษย์ได้นั้น ไม่ได้ขำ หรือเป็นเรื่องตลก เพราะมันมีอยู่มากมายในธรรมชาติ เช่น Sacculina Carcini ในปู Dicrocoelium dendriticum ในมด และ toxoplasmosa gondii ปรสิตที่เกิดในลำไส้ของแมว เจ้า toxoplasmosa gondii ตัวนี้ มีความพิเศษอย่างมาก มันจะถูกปล่อยออกมาพร้อมกับมูลของแมว และล่อหนูมากิน หลังจากนั้นก็จะฝังเข้าไปในร่างของหนู ควบคุมจิตใจคล้ายๆ กับหนูซอมบี้ ก่อนจะหาทางกลับไปแพร่พันธ์ในแมวอีกครั้ง โดยการบังคับหนูให้ไปหาแมวกิน ความจริงมนุษย์เราก็มีแนวโน้มติดปรสิตชนิดนี้ และมีเปอร์เซ็นต์กว่าค่อนโลกทีเดียว เพราะพาหะมาจากแมว โดยมากปรสิตชนิดนี้จะชอนไช และส่งผลต่อภาวะสมองและอารมณ์ของมนุษย์ โดยเฉพาะกับสตรีมีครรภ์ หรือผู้ที่ภาวะภูมิต้านทานต่ำ ในผู้หญิงนั้น จะทำให้เกิดภาวะแปรปรวนทางอารมณ์ ส่งผลต่อไอคิวที่มีระดับดีขึ้น และการ แสดงออกในเชิงเร้าอารมณ์ ส่วนผู้ชายนั้นพบว่าไอคิวต่ำลง สอดคล้องกับระดับอีคิวที่หดลงด้วย ทำให้เกิดอาการเช่น กล้า บ้าบิ่น ไร้เหตุผล หรือ หึงหวงเกินเหตุจนก่ออาชญากรรม ซึ่งหากมีการวิจัยเพื่อนำ toxoplasmosa gondii ไปใช้เป็นอาวุธชีวภาพ เราอาจได้เห็นซอมบี้กันเป็นๆ .

4. พิษ

มีพิษหลายชนิดที่เมื่อโดนเข้าไปแล้ว จะทำให้ร่างกายของคุณทุกอย่างทำงานช้าลงจนถึงหยุดทำงานชั่วขณะ ซึ่งในทางการแพทย์อาจระบุว่าคุณได้ตายไปแล้ว เช่น พิษจากดอก Belladonna , ปลาปักเป้าญี่ปุ่น , แอปเปิลหนาม สิ่งที่จะเรียกคุณกลับมาได้นั่นอาจเป็นผลจากสารเสพติด เช่น โปรตีน alkaloids ผล กระทบของมันรุนแรงอย่างมาก นอกจากทำให้เซลล์สมองถูกทำลายแล้ว ระบบความจำจะไม่สามารถทำงานได้ เป็นมนุษย์ไร้จิตวิญญาณ สั่งให้ทำอะไรก็ทำ เหตุการณ์แบบนี้มันได้เกิดขึ้นมาแล้วกับ Clairvius Narcisse ชายชาวเฮติ ที่เสียชีวิตจากภาวะความความดันโลหิต ในปี 1962 แต่หลังจากผ่านไป 18 ปี คนในหมู่บ้านกลับพบ Clairvius Narcisse มาเดินในหมู่บ้าน เขาจึงเล่าให้ทุกคนฟัง ถึงการตื่นจากความตายและได้กลายเป็นซอมบี้ในไร่อ้อย เมื่อความจำกลับคืน จึงเดินทางกลับบ้าน ซึ่งทุกคนก็สามารถยืนยันได้วคือ Clairvius Narcisse ตัวจริงเสียงจริง!!

3. การแพร่พันธุ์ของไวรัสอย่างรุนแรง

การระบาดของไวรัสแทบจะเป็นพอร์ตเรื่องหลักของหนังซอมบี้ เช่นใน 28 Days Later ที่เกิดซอมบี้คลั่งกระหายเลือด ฆ่าโหดทุกคน คล้ายหมาบ้า ซึ่งความจริงอาการเช่นนี้ สามารถเกิดขึ้นได้จากเชื้อไวรัส Bovine Spongiform Encephalopathy ( BSE ) หรือที่เรียกกันว่าโรควัวบ้า มันระบาดในอังกฤษในปี 1986 อาการจะเริ่มจาก เบื่ออาหาร ความจำเสื่อม เดินเซ เริ่มประสาทหลอน เครียด โกรธ ประสาทการรับรู้ค่อยๆ เสื่อม และตาย ในขณะที่ไวรัสอีกชนิดหน่งที่ใกล้เคียงคือ โรคพิษสุนัขบ้า ที่ทำให้สัตว์เลี้ยงหันมาทำร้ายคุณได้อย่างง่ายๆซึ่งแม้มันจะไม่ทำให้ลักษณะทางกายภาพของเรากินดิบ จัดสดแบบซอมบี้ ในหนัง แต่ไวรัสอย่าง BSE เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ผู้ก่อการร้าย ที่เลือกใช้ใส่ในซองจดหมาย เป็นอาวุธชีวภาพอีกชนิดหนึ่ง .

2. เซลล์ประสาทเกิดการแบ่งตัวอย่างอิสระ Neurogenesis

กระบวนการ Neurogenesis เป็นกระบวนการแบ่งตัวของเซลล์ต้นกำเนิดกับเซลล์ใหม่ได้อย่างสมบูรณ์ และสามารถทำงานทดแทนกันได้อย่างเพอร์เฟ็กต์ โดยประเด็นมันเกิดมาจากไก่ไร้หัว “ไมค์” ซึ่งโดนตัดหัวออกไป แต่ตัวยังไม่ตาย เนื่องจากตอนที่ขวานจามลงที่คอไม่ได้ตัดเส้นประสาทสำคัญ

และเซลล์ประสาทมันก็ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ให้ไก่มีชีวิตอยู่ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีสมอง ส่วนระบบสั่งการอยู่ที่ลำตัวที่สั่งให้หายใจ และเคลื่อนไหวอยู่ ซึ่งกรณีแบบนี้ได้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเช่นกัน กับนักโทษประหาร ที่ถูกตัดศีรษะ แต่ยังไม่ตายในทันที เค้าเอามือจับลำตัวและคอ ก่อนจะพาร่างไร้หัว ไปนอนตายไกลออกไปเป็นเมตร ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นนี้ถูกนำไปทดลองกับ สุนัขที่ตายไปแล้ว และทำการแช่แข็งเพื่อคงสภาพเซลล์ต้นกำเนิด และเนื้อเยื่อเอาไว้ทุกอย่าง ก่อนจะใช้ไฟฟ้ากระตุ้นให้กลับมาทำงานอีกครั้ง ซึ่งหมาก็กลับมามีชีวิตได้อีกครั้งตามกายภาพ มันถูกเรียกว่า “หมาซอมบี้” ที่อาจจะถูกนำไปใช้ในสงครามแห่งอนาคต !!

1. นาโนบอดี้

ใน Resident Evil 5 กับหุ่นยนตร์ขนาดเล็กที่ควบคุม จิล วาเลนไทน์ ไว้ มันมีบทบาทอยู่ในฐานะของกาฟากภายนอก แต่สำหรับนาโนบอดี้ หุ่นยนตร์ขนาดจิ๋วสุดๆ ที่นักวิทย์ทำการสร้างขึ้นมา เพื่อช่วยเหลือวงการแพทย์ เช่น เข้าไปควบคุมปฏิกิริยาของร่างกาย สังเคราะห์โปรตีน ในระดับเซลล์ ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างของอวัยวะได้ ซึ่งหากในอนาคตนาโนบอดี้ มีความสามารถในระดับเซลล์สมองมนุษย์ ความสามารถในการเข้าไปฝังในร่างกาย แพร่พันธ์ เข้าไปยึดร่างของผู้ตาย และสั่งการแทนมนุษย์แบบโลกเดอะแมททริคจะเกิดขึ้นได้ไม่เกินจินตนาการ ซึ่งทั้งหมดนี้ คงต้องรอให้เกิดความผิดพลาด รวมถึงการพัฒนาที่ว่า ด้านมืดของวิทยาศาสตร์อาจกลายเป็นหายนะของมนุษย์ชาติเข้าสักวัน”

เมื่อได้ทราบความเป็นไปได้ของการเกิดซอมบี้แล้ว ท่านผู้อ่านทราบหรือไม่ว่าเมื่อเร็วๆนี้ได้มีการพบเหยื่อโรคร้ายอีโบลาที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่กลับลุกขึ้นมามีชีวิตแบบซอมบี้อีกครั้ง http://allmysteryworld.blogspot.com/2014/10/3.html?m=1

“วันที่ 3 ต.ค.2014 ไลบีเรีย-พบเหยื่ออีโบลาที่ตายไปแล้ว กลับลุกคืนชีพขึ้นมาจากความตายอีกครั้ง ซึ่งรอบนี้เป็นรายที่ 3 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ที่ทางการไลบีเรียยอมเปิดเผยและได้แพร่ภาพหน้าผู้เคราะห์ร้ายโรคอีโบลา ที่ได้ลุกขึ้นมาจากความตาย

ชื่อของเหยื่อยังไม่ได้รับการปล่อยออกมาจากองค์การอนามัยโลก และข่าวของผู้ป่วยที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาจากความตายนั้น มีระยะเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ทางการสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันที่ 30 กย.2014 ว่าพบผู้ติดเชื้อเหยื่ออีโบลารายแรกชื่อ โธมัส อีริค ดันแคน ในเมืองดัลลัสของรัฐเท็กซัส หลังจากนั้นไม่นานเมื่อวันที่ 3 ต.ค.57 ทางสาธารณสุขสหรัฐ ได้เฝ้าระวังติดตามพลเมืองอีกราว 100 คน ที่คาดว่าเกี่ยวข้องหรือติดต่อกับผู้ติดเชื้อรายแรก และได้สั่งกักบริเวณญาติผู้ติดเชื้ออีโบลารายแรกในประเทศ 4 คน และกำลังเฝ้าติดตามอาการผู้ติดต่อกับผู้ป่วยอีกราว 80 คน

ส่วนเหยื่ออีโบลาที่ตายแล้วคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง 2 ราย ที่ไลบีเรียนั้น เป็นศพผู้ป่วยหญิงทั้ง 2 คนที่มีอายุ 40 และ 60 ปี ได้ฟื้นขึ้นมาจากความตายและเดินปะปนร่วมกับคนเป็น ซึ่งเรื่องนี้ได้สร้างความแตกตื่นและความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านในพื้นที่ เป็นอย่างมาก

รัฐบาลไลบีเรียกำลังกล่าวหาว่าประเทศสหรัฐอเมริกาได้สร้างไวรัสอีโบลาเป็น อาวุธชีวภาพที่จะใช้สำหรับทำสงครามในอนาคต พลเมืองของไลบีเรียได้แสดงการประท้วงหนัก และความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นว่าสหรัฐอาจมีการทดสอบ 'พัฒนาอาวุธชีวภาพ' ที่อยู่รูปแบบของเชื้อไวรัสกับประชาชนของไลบีเรีย

ทั้งนี้ การระบาดของอีโบลาครั้งล่าสุดนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีศูนย์กลางอยู่ประเทศกินี, เซียร์ราลีโอน และไลบีเรีย ก่อนจะขยายไปในไนจีเรียและเซเนกัลในเวลาต่อมา จนถึงตอนนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 3,000 คน จากผู้ป่วย 6,553 ราย โดยหน่วยงานป้องกันและควบคุมโรคสหรัฐประเมินว่า ผู้ติดเชื้ออาจเพิ่มจำนวนกว่า1.4 ล้านคน ก่อนสิ้นเดือนม.ค.ปีหน้า”

เล่าให้ฟังแล้วหวังว่าท่านผู้อ่านจะไม่กลัวอีโบลาเสียจนนอนไม่หลับคืนนี้ บางครั้งเรื่องที่เราคิดว่าเป็นไปไม่ได้และเป็นแค่เรื่องหลอกเด็ก กลับอาจจะกลายเป็นจริงขึ้นมาได้เช่นกัน