เปิดเบิ่ง

วิรัช โรจนปัญญา
เปิดเบิ่ง วันที่ 30 มีนาคม 2562

ความจริงคำว่า“ฝ่ายประชาธิปไตย”ที่ใช้ในกระ บวนการต่อสู้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นคำที่มีการใช้มาตลอดตั้งแต่เริ่มเปิดสนามเลือกตั้งเมื่อปีก่อนโน้นแล้ว ไม่ใช่คำใหม่ที่เพิ่งหยิบยกมาใช้ในระหว่างการจัดขั้วเพื่อแข่งกันตั้งรัฐบาลในขณะนี้

โดยฝ่ายหนึ่งเรียกตัวเองว่าเป็นพรรคฝ่ายประชาธิปไตย และเรียกอีกขั้วว่าพรรคฝ่ายสืบทอดอำนาจ คสช. แต่พอเลือกตั้งจบ กลับมาตั้งแง่ว่า เป็นวาทกรรมที่สร้างความแตกแยกในบ้านเมือง!? ก่อนหน้านี้กลับไม่ว่าอะไร แล้วพูดกันตรงๆ ฝ่ายที่โดนเรียกว่าฝ่ายสืบทอดอำนาจคสช. ก็ไม่รู้สึกว่าเป็นคำเสียหาย เพราะพรรคฝ่ายนี้ชูพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการหาเสียงเลือกตั้งโดยตรง

ต้องการเรียกหาคะแนนจากประชาชนที่เห็นว่า ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นนายกฯต่อไป บ้านเมือง จะสงบ ไร้กลุ่มขัดแย้งเคลื่อนไหว!

พูดง่ายๆว่า รู้สึกดีที่แอบอิงภาพคสช. เพื่อเป็นจุดขาย ทำให้ประชาชนรู้สึกสงบ บ้านเมืองมีความมั่นคง แต่สุดท้ายเมื่อผลการเลือกตั้งปรากฏว่า พรรคเพื่อไทยได้ส.ส.มาเป็นอันดับ 1 คือ 137 ส่วนพรรคพลังประชารัฐ ได้จำนวนส.ส.เขตรวมกับปาร์ตี้ลิสต์แล้วน้อยกว่า แต่ก็มีคะแนนป๊อปปูลาร์โหวตที่มากกว่า คือ 8,433,137 คะแนน มาเป็นอันดับ 1 ส่วนเพื่อไทยได้ 7,920,630 คะแนน แม้จะดูมีเหตุผลว่า คะแนนรวมสูงเป็นอันดับ 1 แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว เมื่อตีเป็นจำนวนส.ส.ที่เข้าไปนั่งอยู่ในสภา ได้น้อยกว่าเพื่อไทย

จังหวะนี้แหละ ที่เพื่อไทยอ้างสิทธิ์จำนวนส.ส.อันดับ 1 แล้วชิงรวมขั้วพรรคการเมืองฝ่ายเดียวกันได้เกินครึ่งของสภาผู้แทนฯ

สถานการณ์เช่นนี้เอง ที่ทำให้คำว่าพรรคฝ่ายประชาธิปไตย เริ่มกลายเป็นปัญหา!!

ทั้งที่พรรคเพื่อไทย และอีก 5 พรรคที่มาร่วมลงสัตยาบันนั้น ประกาศตัวตั้งแต่เริ่มลงสนามเลือกตั้งแล้วว่า เป็นพรรคฝ่ายประชาธิปไตย รวมทั้งพรรคเศรษฐกิจใหม่ที่เป็นอีกพรรคในฝ่ายนี้ ก็ประกาศตัวเป็นฝ่ายประชาธิปไตยนี้มาตลอด

ถามว่าเรียกฝ่ายประชาธิปไตยมีเหตุผลหรือไม่ ก็เอาแค่อีกฝ่ายมีส.ว. 250 เสียงมาร่วมโหวต ซึ่งมาจากการแต่งตั้ง ไม่ใช่จากการเลือกตั้งโดยประชาชน

แค่เหตุผลนี้ก็อธิบายได้แล้วว่าทำไมจึงเรียกได้ว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย!

ส่วนสื่อมวลชน มีหน้าที่เสนอข่าวไปตามข้อเท็จจริง เมื่อมีพรรคฝ่ายประชาธิปไตย แล้วจะไปเสนอเป็นอย่างอื่นได้อย่างไร ที่สำคัญคำนี้มีที่มาที่ไป และไม่ใช่คำเลวร้ายทำลายล้างอะไรเลย มีแต่ต้องเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมืองใฝ่ประชาธิปไตย

แอบอิงอำนาจประชาชนมากกว่าอำนาจ ส.ว.จากการแต่งตั้ง!