เปิดเบิ่ง

วิรัช โรจนปัญญา
เปิดเบิ่ง วันที่ 21 พฤศจิกายน 2558

โทรศัพท์มือถือ กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับมนุษย์ไปเสียแล้ว โดยที่มนุษย์เองไม่ทันสำนึกว่านั่นมันคือปัจจัยที่ 6 ของชีวิตและความเป็นอยู่ประจำวัน

ไปที่ไหนลองใช้ความสังเกตดูสักนิดเราจะรู้ได้ทันทีว่า มนุษย์เราต้องมีโทรศัพท์มือถือกันทุกคน ตั้งแต่ประธานาธิบดีลงมาจนถึงขอทาน

ที่เมืองไทยเหมือนกัน โทรศัพท์มือถือ ใช้กันตั้งแต่นายกรัฐมนตรีลงมาถึงภารโรง ใครไม่มีโทรศัพท์มือถือดูเหมือนคนๆนั้นจะไม่ใช่คน

โทรศัพท์มือถือทำให้นิสัยของคนเปลี่ยนไป จากที่เป็นที่เป็นคนช่างพูดช่างจากลับกลายมาเป็นคนเงียบขรึม ไม่สนใจกับสิ่งแวดล้อม มัวแต่ก้มหน้าก้มตาใช้โทรศัพท์ ถ้าไม่โทรฯ ก็ TEXT ไม่ได้สนใจคนรอบข้างเลย ว่าจะรู้สึกอย่างไรต่อการกระทำของเขาและเธอ

เดี๋ยวนี้ เวลากินข้าวโต๊ะเดียวกันเขาไม่ใช้วิธีพูดจากันซึ่งๆหน้าเสียแล้ว แต่ใช้วิธี TEXT คุยกัน แล้วก็ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรต้องคุยกันนักหนา ก้มหน้าก้มตา TEXT มันอยู่นั่นแหละ

ส่วนคนที่ชอบพูดโทรศัพท์ ไม่รู้ว่ามีธุรกิจอะไรมากมาย ถึงต้องมีโทรศัพท์แนบหูอยู่ตลอดเวลา ทำเหมือนกับทำธุรกิจใหญ่โตอะไรสักอย่าง

ผมมีประสบการณ์ในการใช้โทรศัพท์มือถือในขณะขับรถ เกือบเกิดอุบัติเหตุขึ้นนับ 10 ครั้ง จนทำให้ผมสัญญากับตัวเองว่า ผมจะไม่ใช้โทรศัพท์ ในขณะที่ขับรถเป็นอันขาด ใครจะโทรมาหาก็ช่าง จอดรถเมื่อไหร่ค่อยเปิดดู ก็รู้ว่าเป็นใครโทรมา แล้วค่อยโทรกลับไป

ที่เห็นอยู่ทุกวันคือคนเดินข้ามถนน เดินไปพูดโทรศัพท์ไป โดยไม่เหลียวมามองรถยนต์บนท้องถนนเลยแม้แต่น้อย ก็ไม่รู้ว่ามีธุระอะไรสำคัญจนทำให้ไม่ยอมมองรถยนต์ที่วิ่งไปมาเลย ดูเหมือนจะไม่กลัวถูกรถชน คนเหล่านี้อยากให้ไปเดินใช้โทรศัพท์ขณะข้ามถนนที่เมืองไทยดูบ้าง มูลนิธิปอเต็กตึ้งหรือมูลนิธิร่วมน้ำใจ คงต้องวุ่นวายกับการเก็บศพตามท้องถนน วันละนับ 100 คน

ก็อยากจะเตือนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือทุกคน เราไม่ได้คุยธุรกิจเงินล้าน ไม่จำเป็นต้องใช้โทรศัพท์ในขณะขับรถหรือเดินตามท้องถนน ขอให้คำนึงว่า

นั่นคือบ่อเกิดแห่งอันตรายที่อาจจะมีถึงตัวเราโดยไม่รู้ตัว