เปิดเบิ่ง

วิรัช โรจนปัญญา
เปิดเบิ่ง วันที่ 13 ตุลาคม 2561

ตั้งใจจะเขียนเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นเดือน แต่บังเอิญผมลืมไปเสียสนิท นึกขึ้นมาได้ก็เกือบสายเกินไป แต่ยังทันเวลาครับ

ผมหมายถึงเรื่อง "ล็อตเตอรี่ใบเขียว" ที่ทางสหรัฐอเมริกาเปิดรับสมัครเป็นประจำทุกปี โดยผู้ที่โชคดีได้รับการเลือกก็จะมีสิทธิรับกรีนคาร์ด มาอยู่อเมริกาได้อย่างถูกต้องตามกฏหมาย

The US State Department ได้เปิดรับสมัครล็อตเตอรรี่ใบเขียวตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2018 จนถึงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2018 โดยมีโควต้าให้จำนวน 50,000 คน จะประกาศผลผู้โชคดีในระหว่างวันที่ 7 พฤษภาคม 2019 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2020

คุณสามารถสมัครทางออนไลน์ได้ที่เว็ปไซต์ WWW.dvlottery.state.gov การสมัครนี้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น

ผู้มีสิทธิ์สมัครจะต้องจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า แต่ถ้าการศึกษาต่ำกว่า ม.6 จะต้องมีประสบการณ์ทำงาน 2 ปีขึ้นไป ข้อมูลที่ใช้ในการสมัครมีรูปถ่าย,หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล์,ระดับการศึกษา,สถานะสมรส,จะต้องอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป

สงสัยอะไรเปิดเว็ปไซต์ดูที่ WWW.dvlottery.state.gov ครับ

เมื่อ 25 ปีที่แล้ว ผมเคยติดต่อให้หลานชายมาเรียนหนังสือที่นี่ ตามคำขอร้องของน้องชายที่ต้องการจะให้ลูกชายได้มาศึกษาในต่างประเทศ ซึ่งผมก็ได้จัดการขอใบ I-20 พร้อมทั้งเตรียมหลักฐานต่างๆ ในการขอวีซ่านักเรียน จนสำเร็จเรียบร้อย

ปรากฏว่าตัวหลานชายอายุ 18 ของผมปฏิเสธที่จะเดินทางมาแอล.เอ. โดยให้เหตุผลว่าอยากจะเรียนมหาวิทยาลัยในประเทศไทยให้จบเสียก่อน แล้วจึงค่อยมาเรียนปริญญาโทต่อที่นี่ เรื่องนี้สร้างความผิดหวังให้แก่ผมมาก เพราะลงทุนลงแรงไปจนถึงขั้นสุดท้ายแล้ว แต่เจ้าตัวปฏิเสธที่จะเดินทางมาเรียนที่นี่

หลังจากนั้นประมาณ 6 เดือน ก็มีการเปิดรับสมัคร "ล็อตเตอรรี่ใบเขียว" ผมจึงใช้หลักฐานรูปถ่ายของหลานชายสมัครไปทันที 3 เดือนให้หลังหลานโทรมาบอกว่าทางสหรัฐอเมริกาให้ล็อตโต้ใบเขียวตามที่สมัครไป

ผมจึงขอร้องให้หลานเดินทางมารับใบเขียว ถ้าไม่อยากอยู่ต่อก็กลับเมืองไทยไปได้

ผมรับหลานชายมาอยู่ที่บ้าน ส่งเสียให้เรียนหนังสือและหางานให้ทำไปด้วยพร้อมกัน จนหลานชายไปพบผู้หญิงถูกใจเลยแต่งงานกันและมีบุตรด้วยกัน 1 คน ตอนนี้เป็นเจ้าของร้านอาหารอยู่ใกล้เมืองแซนดิเอโก้ ร้านขายดีมากเพราะเป็นร้านอาหารไทยร้านเดียวในเมืองนั้น ไม่มีคู่แข่งให้ต้องปวดหัว

จากวันนั้นจนถึงวันนี้เป็นเวลา 25 ปีเต็ม หลานชายผมเคยเดินทางกลับเมืองไทย ไปแค่เพียง 3 ครั้งเท่านั้น ชีวิตเขาก็ดูมีความสุขดีตามประสาพ่อ-แม่-ลูก ที่ต่างดูแลกันด้วยความรักและความเข้าใจ.