ดร.การุณ รุจนเวชช์
ดร.การุณ รุจนเวชช์
บทที่ ๑๕ ใช้คำให้ถูก (ต่อ)

อาทิตย์นี้ มีคำสองคำที่อาจใช้สับสน คือ ALL VS. WHOLE ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

ALL VS. WHOLE

ทั้งสองคำมีความหมายว่า “ทั้งหมด” แต่ใช้ต่างกันดังนี้

· All ใช้กับคำนามที่นับไม่ได้ (Uncountable Noun) เอกพจน์ หรือกับคำนามนับได้พหูพจน์ (Countable Noun) เช่น

He ate all the food. เขากินอาหารหมด

You haven’t got all the time. คุณไม่มีเวลาทั้งหมด

All the houses are sold. บ้านทุกหลังขายหมดแล้ว

I have washed all the clothes. ฉันซักผ้าหมดแล้ว

· All of ใช้แทน all หรือ whole กับคำนาม เอกพจน์ หรือ พหูพจน์ หรือคำสรรพนาม เช่น

He ate all of the food. เขากินอาหารทั้งหมด

He ate all of it. เขากินมันทั้งหมด.

He ate all of the vegetables. เขากินผักทั้งหมด

He ate all of them. เขากินมันทั้งหมด

· All ยังมีใช้ผสมคำเป็นวลีที่ไม่เปลี่ยนแปลงคำ แต่ละวลีมีความหมายของตังเอง ดังนี้

At all costs หมายถึง “ไม่ต้องนึกถึงความยาก” เช่น

You must get it done at all costs. คุณต้องทำให้เสร็จโดยไม่ต้องนึกถึงความยาก

All at once หมายถึง “ทันที” เช่น

The building collapsed all at once. อาคารพังทลายลงทันที

All in หมายถึง “เหนื่อย” เช่น

After ten hours of working, he felt all in. หลังจากทำงานมา ๑๐ ชั่วโมง เขาเหนื่อย

All in all หมายถึง “พิจารณาจากทุกสิ่ง” เช่น

All in all, Jane is a very good student. พิจารณาจากทุกสิ่ง เจนเป็นนักเรียนที่ดีมาก

All of a sudden หมายถึง “ทันทีทันใด” เช่น

All of a sudden, he left the house without saying a word. ทันทีทันใด เขาก็ออกจากบ้านโดยไม่พูดอะไรสักคำ

By All means หมายถึง “แน่นอน” ใช้อย่างสุภาพ เช่น

By all means, you may leave early. แน่นอนคุณกลับไปก่อนได้

First of all หมายถึง “ก่อนอื่น” เช่น

First of all, I need to thank all of you for your support. ก่อนอื่น ผมต้องขอขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนผม

· Whole ใช้กับคำนามนับได้เอกพจน์ (singular Countable Noun) เช่น

He ate the whole cake. เขากินเค้กทั้งก้อน

The whole house needs a new paint. บ้านทั้งหลังต้องทาสีใหม่

หมั่นศึกษาเพิ่มความรู้อยู่ทุกวัน