ดร.การุณ รุจนเวชช์
ดร.การุณ รุจนเวชช์
ตอนที่ ๘ Hawaiian Pidgin English

Pidgin English เป็นภาษาอังกฤษที่ชนชาติอื่นนำภาษาของเขาเข้ามาใช้ปนกัน ซึ่งผิดกฏไวยากรณ์ ในฮาวาย มีภาษาอื่นเข้ามาผสม คั้งแต่กลาง ปี ๑๘๕๐ ในปีนั้นอุตสาหกรรมน้ำตาลอ้อย จำเป็นต้องใช้แรงงานจากชาวต่างชาติ และชาวต่างชาติกลุ่มแรกที่เข้ามาทำงานในไร่อ้อยที่เกาะ เมาอี (Maui) คือชาวจีน ญี่ปุ่น และ ปอร์ตุเกส ที่ต้องพูดกับ Haole (เฮาลี่) หรือเจ้านายที่พูดภาษาอังกฤษ ต่อมาในปี ๑๙๐๐ แรงงานจากประเทศอื่นๆก็ทะยอยกันมา มี โอกินาวันส์ (Okinawans) ปูเอรโต ริกันส์ (Puerto Ricans) เกาหลี และฟิลิปิโนส์ ภาษาของชนชาติเหล่านี้ ได้เพิ่มเข้ามาในภาษาอังกฤษ จนเกิดเป็น Hawaiian Pidgins ที่ทำให้ชาวฮาวายต่างไปจากคนอเมริกันในรัฐอื่นๆ

ปัจจุบัน Hawaiian Pidgin ได้รับการยอมรับให้เป็นภาษาทัดเทียมกับภาษาอังกฤษ เพราะความเรียบง่ายและมีคนจำนวนมากที่ใช้ภาษาผสมเช่นนี้มานานปี ตัวอย่างของ Hawaiian Pidgin เสนอพอให้เข้าใจว่าชาวฮาวายพูดอย่างไร

Hawaiian Pidgin: Eh brah, you going to Aunty’s for suppa? I stay working but if can can.

Correct English: Hey Brother, are you going to Aunty’s for supper? I am working, but if I can, I will go.

ภาษา Pidgin เรียก Brother ว่า Brah หรือ Brahdah เพราะภาษาฮาวายไม่มีเสียง th ต้องใช้เสียง ด แทน และจะพูด That is the reason. ว่า dass why. เช่นเดียวกับคนไทย และไม่มีกฏเกณฑ์สำหรับคำถาม เช่น you going แต่ภาษาที่ถูกต้องคือ Are you going … If can can ก็ตัดคำออกไปจาก If I can go. I will go.

ที่โรงพยาบาล ขณะที่ผมนอนพักฟื้น พยาบาลฟิลิปืโน จะวนเวียนมาดูแล และถามว่า Do you want me to open/close the light? ด้วยนิสัยที่เป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษ จึงสอนให้เธอพูดให้ถูกต้องว่า Do you want me to turn on/turn off the light?

Hawaiian Pidgin คำแรกที่เพื่อนบ้านถามผม คือ Eh Brah Howzit? เขาหมายถึง Hey Brother how is it?

Kaa’aina (คามาไอน่า) เดิมทีคำนี้คนที่เกิดในฮาวาย ปัจจุบันอนุโลมให้เรียกคนที่ย้ายมาอยู่ฮาวายเป็นเวลานาน เช่นเราถือว่าเป็นคามาไอน่า และมีสิทธิ์ได้รับราคาลดในสถานที่ต่างๆ

เวลาที่เพื่อนน้านชาวฮาวายจัดงานเลี้ยงวันเกิดลูก และชวนเราร่วมงาน อาหารมากมาย และด้วยมารยาท เราจะชมว่า อาหารอร่อย โดยพูดว่า The food has broke da mouth.

Hawaiian Pidgin English ยังมีอีกมากที่ผมค่อยๆเรียนรู้และใช้พูดกับเขา เป็นเหมือนรับและเคารพวัฒนธรรมของเขา ผลที่ได้คือมิตรไมตรีที่คล้ายประเพณีไทย

ภาษาไทย ก็มี Thai Pidgin English ซึ่งจะได้นำมาเสนอในฉบับหน้า