ดร.การุณ รุจนเวชช์
ดร.การุณ รุจนเวชช์
ตอนที่ ๒๖ Two-Word Verbs 2

ฉบับอาทิตย์ที่แล้ว ได้เกริ่นถึง Two-Word Verbs ที่มีมากกว่าร้อย ที่นำกริยามมาพ่วงกับคำบุพบท และตามด้วยคำนาม ทำให้ความหมายของคำกริยาเหมือนเดิม หรือต่างไปจากเดิม ขึ้นอยู่กับว่าคำนามนั้นเป็นคำใด เช่นกริยา run down ในประโยค He runs down the stairs. เขาวิ่งลงข้างล่าง แต่ He runs down his friend. หมายถึงเขาพูดไม่ดีเกี่ยวกับเพื่อนของเขา

นอกจากความหมายของ Two-Word Verbs บางคำจะเปลี่ยนไปจากเดิม คำกริยา อาจจะแยกจากคำบุพบท (Separable) โดยมีคำสรรพนามที่เป็นกรรม me, you, him, her, it, them แทรกกลาง แต่ก็มี Two-Word Verbs บางคำที่แยกจากกันไม่ได้ (Inseparable)

ฉบับนี้ จะนำ Two-Word Verbs ที่มีความหมายต่างจากกริยาเดิม เช่น

1. Back out (of) = “withdraw from, fail to keep a promise” “ถอย, ไม่รักษาสัญญา”

2. Back up = “support” “หนุน”

3. Better off = “in a better condition” “เพื่อสถานการณ์ดีกว่า

4. Break in = “tame, train, enter illegally” “ทำให้เชื่อง, ฝึก, เข่ามาผิดกฏหมาย”

5. Break off = “stop, discontinue” “หยุด, ยกเลิก”

ดัวอย่างการสนทนา และสังเกตว่าเป็น Separable/Inseparable

1. A: You promised you would come with us.

คุณสัญญาว่าจะมากับเรา

B: I am sorry to back out of it.

ฉันขอโทษที่ไม่ทำตามสัญญา

2. A: What do you think about me?

คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับผม

B: I will back you up because I think you are right.

ผมขอสนับสนุนคุณ เพราะว่าคุณเหมาะสม

3. A: I am not sure if I should take the new job.

ฉันไม่แน่ใจว่าฉันควรจะรับงานใหม่

B: Believe me. You will be better off in your new job.

เชื่อฉันเถอะ เธอจะดีขึ้นกับงานใหม่ของเธอ

4. A: That horse is wild.

ม้าตัวนั้นตะนองไม่เชื่อง

B: The cowboy is breaking him in.

คาวบอยกำลังฝึกให้มันเชื่อง

5. A: What happened when Mrs. Roper came into the classroom?

มันเกิดอะไรขึ้นเมื่อมิสซีสโรเป้อร์เข้ามาในห้องเรียน

B: Every student broke off talking and stared at her.

นักเรียนทุกคนหยุดพูดและจ้องเธอ

ฉบับหน้าจะมีแบบฝึกหัดให้ทำ