ดร.การุณ รุจนเวชช์
ดร.การุณ รุจนเวชช์



ตอนทื่ ๙ กว่าจะผ่านพ้นพายุ

จุดประสงค์ของการมาเยือนประเทศไทย นอกจากมาอนุเคราะห์ผู้ยากไร้ พบมิตรสหาย ท่องเที่ยวชมความงามของประเทศไทย ทานอาหารแสนอร่อย คือการได้ใกล้ชิตญาติ ที่ผูกพันกันมาแต่เยาว์ บ้างถึงวาระชีวิต ที่เหลือยังมีจิตสัมพันธ์ต่อกัน ดัง “สายเลือดที่ข้นกว่าน้ำ”

พี่สุนันทา ที่เตยดูแลเลี้ยงดูผม ใช้ภูมิปัญญา สร้างฐานะและด้วยจิตฝักใฝ่ในธรรม ได้อุทิศชีวิตและทรัพย์สิน ตามรอยพระโพธิสัตว์ สร้างธรรมสถานที่ปากช่อง ในหุบเขาเขียว เป็นที่ประดิษฐานของพระโพธิสัตว์สามองค์ ที่พี่ชายผู้ลวงลับ สร้างถวาย ให้ประทานความยินดีแก่ญาติธรรม ผู้มารวมร่วมกระทำแต่สิ่งดีงาม และหนุ่มมสาวให้ละเสพสิ่งมัวเมา มุ่งมั่นศึกษาสร้างอนาคต งดบริโภค เบียดเบียนสัตว์ทั้งปวง พี่สุนันทาดูแจ่มใส แต่ก็ห่วงใยท่านในวัย ๘๙

พี่สมศรี พี่สาวใหญ่อีกท่าน อบรมเลี้ยงดู ดร.ชวนชื่น แทนบิดาที่ล่วงลับ รับภาระหัวหน้าครอบครัว ควบคู่กับหัวหน้าแผนกฝ่ายขาย ของบริษัทรถยนตร์ Fiat ไปพร้อมกัน เวลาที่เหลือ ท่านกวดขันให้น้องๆใฝ่เรียน ปลูกฝังจิตสำนึกให้ใฝ่ดี มีศิลธรรม จรรยา และความกตัญญู วัย ๙๐ ท่านไม่ต้องการสิ่งใด นอกจากความปลื้มใจที่ได้เห็นน้องสาว ประสบผลสำเร็จในชีวิต

ความผูกพันต่อพี่ๆ มีต่อไปถึงหลานๆทั้งสองสกุล รุ่งนพคุณ และ รุจนเวชช์ สถานที่พบปะสังสรร ที่สะดวกคือร้านอาหารที่มีให้เลือกโดยง่าย เพียงเอ่ยว่าชอบอาหารประเภทใด หลานชาย ดร.ชวนชื่น ก็จัดหาได้โดยง่าย คุณน้าก็ได้ทาน dim sim สมปรารถนา ส่วนหลานชายของ ดร.การุณ ก็เอาใจอาด้วย เป็ดปักกิ่ง

อาหารโปรดปรานเพียงใด ก็ไม่เท่ากับการได้พบสืบสานสายสัมพันธ์กันต่อไป วันเวลาผ่านไป และความห่างไกลคนละฟากฟ้า ก็ไม่อาจกั้นความผูกพันต่อกัน เพราะสายโลหิตนั้น ข้นกว่าสายน้ำที่ไหลไปไม่หวนกลับ