เห็นมา เขียนไป

เห็นมา เขียนไป วันที่ 2 พฤศจิกายน 2562

นี่ไงที่เรียกว่า การเมืองกินรวบ

มีการนำคำว่า”การเมืองแบบกินรวบ”มาเปรียบ เปรยถึงสถานการณ์ในบ้านเมืองเรา ซึ่งเป็นคำที่เข้าใจได้ไม่ยาก ก็คือ มีแบบกินรวบ กับแบบกินแบ่ง นั่นเอง

คงไม่ถึงขั้นต้องไปตีความคำว่า การกินนั้น ต้องหมายถึงการโกงกินคอร์รัปชั่น

เอาแค่ว่าการกินแบ่ง หมายถึงการกระจายประโยชน์ กระจายอำนาจ ไม่มีการผูกขาดในมือเฉพาะกลุ่มเดียว

ส่วนกินรวบ ก็หมายถึง พวกผูกขาด ไม่ยอมกระจาย กุมอำนาจเอาไว้เฉพาะพวกตนเอง

กินแบ่ง ย่อมดีกว่ากินรวบแน่นอน!

บางคนอาจจะตีความคำว่าการเมืองกินรวบ หมายถึงยุคทักษิณและเครือข่าย ที่โจมตีกันด้วยคำว่า เผด็จการรัฐสภา

แต่จริงๆ ก็มีการโต้แย้งกันหลายแง่มุม

เช่น เมื่อพรรคเครือข่ายทักษิณ ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน จนได้รับเลือกตั้งถล่มทลาย จะตีความว่าเป็นเสียงข้างมากในสภาที่เป็นเผด็จการได้หรือไม่

ในเมื่อประชาชนส่วนใหญ่เลือกเข้ามาล้วนๆ

อีกทั้งทักษิณก็ไม่มีกลไกองค์กรกระบวนการพิสดาร ปาฏิหาริย์ เพิ่มเสียงให้แบบแปลกประหลาดอีกด้วย

หลายคนกลับมองว่า การเมืองแบบกินรวบ เป็นในยุคระยะหลังนี้มากกว่า!?!

เช่น เข้ามายึดอำนาจ ไม่ผ่านการเลือกจากประชาชน แต่แทนที่จะเกรงอกเกรงใจแบบคณะรัฐประหารรุ่นก่อนๆ คือ ปฏิวัติเสร็จก็ตั้งรัฐบาลพลเรือนมารับช่วง แล้วรีบถอยกลับกรมกอง

แต่นี่ เป็นรัฐบาลเสียเอง อยู่นานถึง 5 ปี

ซึ่งไม่มีรัฐบาลทหารไหนในโลกนี้ที่จะบริหาร เศรษฐกิจการค้าได้ดีแน่นอน ก็ยังทำ ส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนมายาวนาน ยังหนักหนาถึงวันนี้

ต่อมาเปิดให้เลือกตั้ง ก็ทำกันอย่างไม่เกรงอกเกรงใจใคร ใช้สารพัดกลไกกระบวนการ จนได้เป็นรัฐบาล

อย่างไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ!?!

ครั้นเจอฝ่ายค้านที่ไม่ใช่เด็กอมมือ แทนที่จะต่อสู้กันด้วยความคิดสติปัญญา เอาข้อมูลไปสู้กันในสภา กลับทำทุกทางเพื่อไม่ให้เขาเข้าสภา พอจะเข้ามาเป็นกรรมาธิการ ก็ยื่นขวางยื่นตีความ

คาดหมายกันว่า อีกไม่นาน ก็จะทำกันเสียจนสูญหายกันไปยกพรรค!!

นอกเหนือจากกระบวนการซื้องูเห่า ดิ้นรนสารพัดประหลาดพิสดาร เพื่อรักษาอำนาจเอาไว้ให้ได้

แบบนี้เรียกว่ากินรวบได้หรือไม่

การเมืองกินรวบ เป็นรูปธรรมชัดเจนที่สุด ต่อหน้าต่อตาผู้คนในทุกวันนี้นี่แหละ!