เห็นมา เขียนไป

ทิวสน
เห็นมา เขียนไป วันที่ 15 เมษายน 2566

ภัยความมั่นคงที่แท้จริง

เป็นอีก 1 ภัยร้ายที่ทำลายสังคมอย่างรุนแรง สำหรับการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือที่เรียกกันว่าพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ที่นอกจากมุ่งหลอกลวงประชาชนให้ตกเป็นเหยื่อ ต้องเสียเงินทอง บางคนต้องสูญเสียเงินเก็บทั้งชีวิต

นำมาสู่ความสิ้นหวังจนบางคนหมดหนทางไปต่อ ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองอย่างน่าอนาถ

แน่นอนว่ามีความพยายามแก้ไขปัญหา ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบบธนาคาร แต่ก็ทำได้ยากเนื่องจากฐานของมิจฉาชีพเหล่านี้อยู่ที่ต่างประเทศ จึงทำได้เพียงแค่บอกให้ประชาชนระมัดระวัง ไม่หลงเชื่อคำหลอกลวงจากกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านื้ ราวกับว่าเป็นการผลักภาระความรับผิดชอบไปให้ประชาชนแต่เพียงฝ่ายเดียว

และเกิดคำถามว่าจะให้เฝ้าระวังกันถึงขนาดไหน เมื่อเล่ห์เหลี่ยมของแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้แพรวพราวขึ้นทุกวัน มีทั้งการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐไม่ว่าจะเป็นตำรวจ หรือสรรพากร แถมมีข้อมูลส่วนบุคคลละเอียดชัด

ยังไม่พูดถึงพฤติกรรมที่ละม้ายคล้ายคลึงกันจนแทบแยกไม่ออก ต่อให้ระวังตัวอย่างไรก็สุ่มเสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อ!!!

และเมื่อย้อนดูข้อมูลที่อยู่ในมือมิจฉาชีพ ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมข้อมูลส่วนตัวของประชาชนที่อยู่ในความดูแลของรัฐถึงถูกนำมาหาประโยชน์ได้ง่ายขนาดนี้

ในส่วนของข้าราชการนอกรีตที่เอาข้อมูลไปซื้อขายก็ส่วนหนึ่ง ซึ่งก็ว่าแย่แล้ว แต่จะแย่ยิ่งกว่าหากกระบวนการรักษาความปลอดภัยที่ควรมี มันไม่ปลอดภัยจริง

ล่าสุดก็มีข่าวแฮ็กเกอร์ที่ใช้ชื่อว่า 9Near ประกาศขายข้อมูลส่วนบุคคลถึง 55 ล้านข้อมูล ที่อ้างว่าแฮ็กมาได้จากหน่วยงานรัฐ แถมปล่อยทีเซอร์ ส่งเอสเอ็มเอสให้เห็นเป็นประจักษ์ว่ามีข้อมูลแท้จริง

แต่ก็ยังไม่เห็นความเอาจริงเอาจังอะไรจากเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ หรือมองไม่ออกว่าเรื่องเหล่านี้จะส่งผลกระทบอย่างไร นี่แหละภัยความมั่นคงแท้จริง

น่าเสียดายที่เรามีหน่วยงานมากมายเกี่ยวกับไซเบอร์ มีทั้งกระทรวงดิจิทัลฯ ที่ควรจะดูแล

แต่แทนที่จะไล่จับโจร กลับเอาเวลา ทรัพยากรไปสอดส่องประชาชน

ไม่ให้หมดหวังวันนี้จะให้ไปหมดหวังวันไหน!??

ขอขอบคุณ ข้อมูลดีๆจาก รุก กลางกระดาน