เห็นมา เขียนไป

เห็นมา เขียนไป วันที่ 28 ธันวาคม 2562

การใช้ “คดีความ” ในการเมืองยุคพิสดาร – การเมืองไทยในยุคนี้ ยุคที่เป็นประชาธิปไตยแบบไม่เต็มใบ มากด้วยเรื่องราวปาฏิหาริย์ กฎกติกาสามารถตีความได้สุดพิสดาร มีอะไรต่อมิอะไรที่ไม่คิดว่าจะได้เห็น กลับได้เห็นกันอย่างโจ่งแจ้ง ทำกันได้อย่างสบายๆ หน้าตาเฉย

อย่างเช่น การอาศัย “คดีความ” เพื่อนำมาสู่การเปลี่ยนค่าย เปลี่ยนจุดยืน ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างโจ๋งครึ่มครั้งแรกของการเมืองไทย เป็นเครื่องมือสำคัญ เป็นประเด็นสำคัญ สำหรับการเมืองในยุคนี้เลยทีเดียว!

ใช้มาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง เมื่อเริ่มเปิดตัวผู้สมัครของพรรคต่างๆ

ดังเห็นได้จากปรากฏการณ์ นักการเมืองเดิมๆ ของพรรคการเมืองที่เป็นศัตรูของกลุ่มอำนาจ แห่ย้ายไปอยู่พรรคการเมืองตั้งใหม่ที่ตั้งปุ๊บก็กลายเป็นพรรคขนาดใหญ่ทันที

แล้วไปตรวจสอบได้เลยว่า นักการเมืองที่ย้ายค่าย ไปสังกัดพรรคใหม่ใหญ่โตนั้น หลายราย มี“คดีความ”เป็นชนักปักหลัง!!

ดังนั้นพรรคใหม่ใหญ่โตดังกล่าว นอกจากใช้ “พลังดูด” ตามประสาพรรคอู้ฟู่แล้ว ยังใช้พลังด้าน “คดี” เป็นจุดสำคัญในการดึงดูดนักการเมืองย้ายค่ายอีกด้วย นอกจาก“คดี”จะเป็นเครื่องมือในการ“บีบ” แล้ว ยังมีโปรโมชั่นต่อรองล่อใจอีกต่างหาก!

ย้ายค่ายแล้วมีโปร กลายเป็น “ผู้พ้นมลทิน” หรือไม่ก็ชนักที่ปักหลัง สามารถหลุดได้ทันที หรือการเลือกตั้งซ่อมในพื้นที่หนึ่ง

“คดีความ” ก็เข้ามามีบทบาทสำคัญในการชี้ผลเลือกตั้งส่วนหนึ่งด้วย!?!

หัวคะแนนของอดีตนักการเมือง พากันย้ายค่ายไปช่วยอีกพรรคอย่างหน้าตาเฉย แทนที่จะช่วยผู้สมัครพรรคเดิม นั่นเพราะหวังผล จากโปรย้ายค่าย เพื่อช่วยลดหย่อนผ่อนหนักให้เป็นเบา

นี่คือความเป็นไปอันพิลึกพิลั่นของการเมืองยุคนี้ ยุคที่เต็มไปด้วยปาฏิหาริย์พิสดาร

ไปจนถึง “คดี” ก็กลายเป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่ง!!