เห็นมา เขียนไป

เห็นมา เขียนไป วันที่ 15 พฤษภาคม 2564

รู้จัก "วิตามินดี" ของดีใกล้ตัว หาได้จากแสงแดดธรรมชาติ

วิตามินดี มักเป็นวิตามินที่หลายคนมองข้าม แต่จริงๆ แล้วคนไทยจำนวนมากกำลังขาดวิตามินดี ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา

ร่างกายของเราสามารถสังเคราะห์วิตามินดีขึ้นมาเองได้ เมื่อได้รับการกระตุ้นด้วยรังสี UVB (Ultraviolet B ray) จากแสงแดด ทว่าคนไทยส่วนใหญ่มักมีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงแสงแดด อีกทั้งสีผิวที่เข้มของคนไทยทำให้มีปริมาณเม็ดสีเมลานินมาก แม้จะช่วยปกป้องผิวหนังจากแสงแดด แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นตัวกรองที่ลดการส่องรังสี UVB เข้าสู่ชั้นผิวได้เช่นกัน

นอกจากนี้ คนไทยส่วนใหญ่นิยมใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องแสงแดด รวมถึงไลฟ์สไตล์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ที่ปกป้องไม่ให้แสงแดดเข้าถึงผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็นติดฟิล์มกันแดดในรถยนต์ กระจกกันแดดในออฟฟิศ หรือการนั่งทำงานอยู่ในห้องติดเครื่องปรับอากาศเป็นเวลานานๆ

ดังนั้น เพื่อป้องกันการขาดวิตามินดี แนะนำว่าควรออกมาสัมผัสแสงแดดบ้าง โดยเฉพาะแสงแดดตอนเช้า ที่ยังเป็นแสงแดดอ่อนๆ ไม่ทำร้ายผิวจนเกิดอาการอักเสบแดง เพื่อให้ร่างกายได้สังเคราะห์วิตามินดีด้วยวิธีธรรมชาตินั่นเอง

วิตามินดีมีประโยชน์อย่างไร ช่วยอะไรบ้าง?

วิตามินดีเป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน ประโยชน์ของวิตามินดีคือ ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียม และฟอสฟอรัส เพื่อรักษาสมดุลร่างกายและมวลกระดูก ป้องกันโรคกระดูกพรุน โรคกระดูกบาง เพิ่มความแข็งแรงให้กระดูด และช่วยลดอาการอักเสบเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ถือเป็นวิตามินที่มีความสำคัญมากๆ สำหรับคนทุกวัย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ

นอกจากนี้ วิตามินดียังมีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเพศ มีบทบาทในการสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย และเพิ่มระบบการหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน ที่มีส่วนช่วยควบคุมระดับน้ำตาล และความดันโลหิต จึงช่วยป้องกันโรคเบาหวานได้

ผู้ที่ร่างกายขาดวิตามินดี นอกจากจะมีโอกาสเกิดโรคที่เกี่ยวกับกระดูกแล้ว ยังมีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ มากกว่าผู้ที่ร่างกายได้รับวิตามินดีเพียงพอต่อความต้องการอีกด้วย

วิตามินดี หาได้จากแหล่งอาหารใดบ้าง?

นอกจากวิตามินดีจากแสงแดดแล้ว ยังพบปริมาณวิตามินดีในแหล่งอาหารธรรมชาติ โดยเฉพาะปลาที่มีไขมันสูง เช่น แซลมอน ปลาซาร์ดีน ปลาทูน่า ปลาเทราต์ ปลาแมคเคอเรล น้ำมันตับปลา รวมถึงซีเรียล ขนมปัง นม และไข่แดง เป็นต้น

ในปัจจุบัน วิตามินดีถูกนำมาสกัดให้อยู่ในรูปแบบผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ซึ่งก็ถือเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ขาดวิตามินดี และไม่สะดวกในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน แต่ทั้งนี้ก็ต้องเลือกรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอ เพื่อผลลัพธ์ที่ดี และไม่ส่งผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

ที่มา : โรงพยาบาลกรุงเทพ