บันทึกจากเบย์แอเรีย
เพ็ญวิภา โสภาภันฑ์



ควันหลง..ที่ยังกรุ่นในใจ

วันนี้ ผมขอสัมปทานเนื้อที่คอลัมน์ “บันทึกจากเบย์แอเรีย” ของพี่แมว “เพ็ญวิภา” เพื่อบันทึกเบื้องลึกเบื้องหลังงานสงกรานต์ ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคเหนือ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน ณ ดาวน์ทาวน์ซานโฮเซ่ มีกิจกรรมในวันงานหลายอย่าง แต่ที่เป็นไฮไลท์ของงานน่าจะเป็นการประกวดนางงาม การแข่งขันชกมวย เบียร์สิงห์การ์เดน การสรงน้ำพระ บูธการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ตลอดจนบูธอาหารและบูธสินค้าทั่วๆ ไป

การจัดงานครั้งนี้แม้จะเป็นการจัดงานครั้งแรก ถ้านับจำนวนคนที่เข้ามาเที่ยวในวันงานก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างน่าชื่นชม ก็ขอให้กำลังใจแก่คณะกรรมการจัดงานทุกท่านทุกแผนก เรื่องความผิดพลาดและบกพร่องย่อมมีเป็นธรรมดา และยิ่งเป็นงานใหญ่แม้ว่าจะวางแผนอย่างรัดกุม ก็ยังอดที่จะผิดพลาดมิได้ ก็ถือว่าทุกท่านได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ความผิดพลาดและสิ่งที่ขาดตกบกพร่อง ผมเองในฐานะนายกฯ และในนามสมาคมไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคเหนือ ขอรับผิดชอบและขออภัยมา ณ โอกาสนี้

เบื้องหลังการจัดงาน เมื่อปีที่แล้วคณะกรรมการสมาคมฯ มีการประชุมปรึกษาหารือว่า พวกเราเข้ามาบริหารสมาคมฯ ในเทอมนี้ ก็อยากจะจัดงานใหญ่สักครั้งนอกเหนือจากงานประเพณีเดิมๆ ที่ทำมา ฝากไว้เป็นผลงานสักครั้งในชีวิต จึงมติว่าควรจะจัดงานประเพณีสงกรานต์ในปีนี้ และลงมติว่าควรจัดที่ดาวน์ทาวน์ซานโฮเซ่ เพราะเป็นชุมชนชาวเอเซียขนาดใหญ่ มีคำถามว่าทำไมไม่จัดที่ซานฟรานซิสโก เพราะเป็นศูนย์รวมของชาวไทยและชาวเอเซียและมีธุรกิจร้านอาหารไทยมากมาย น่าจะได้รับการต้อนรับและประสบความสำเร็จอย่างดีงาม พวกเราก็วิเคราะห์ถึงผลดีผลเสีย และคิดว่าจัดที่ซานฟรานซิสโกนี้ดีแน่ ถ้าได้ที่ซีวิคเซ็นเตอร์ยิ่งดีมาก เพราะเป็นย่านธุรกิจ มีห้างสรรพสินค้าช็อปปิ้งเซ็นเตอร์ชื่อดัง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวผู้คนขวักไขว่มากมาย และมีการจัดงานตลอดทั้งปี เท่ากับว่าไม่ต้องออกแรงประชาสัมพันธ์มากมาย และยังมีร้านไทยเป็นกระบอกเสียงได้เป็นอย่างดี แต่คงจองสถานที่ได้ยากและค่าใช้จ่ายสูง เราเพิ่งริเริ่มทำกัน ปีนี้คงจองไม่ทัน ต้องใช้เวลาและประสบการณ์ ปีนี้เป็นปีแรกสมาคมฯ ยังขาดประสบการณ์และไม่มีเครดิตพอที่จะทำได้ นี่เป็นประเด็นหลักที่เราช่วยกันวิเคราะห์ สรุปแล้วว่าเราเลือกจัดที่เมืองซานโฮเซ่ แม้ว่าจะเป็นรองจากซานฟรานซิสโก แต่ก็น่าจะสะดวกและมีปัญหาน้อยกว่า

กลางเดือนมกราคม คณะกรรมการสมาคมฯ ออกสำรวจสถานที่จัดงานในย่านกลางใจเมืองซานโฮเซ่ วันนั้นเราเดินดูสวนสาธารณะหลายแห่งและที่ซิตี้ฮอล สรุปว่าเราชอบที่ Cesar Chavez Park เพราะมีต้นไม้ร่มรื่นและมีน้ำพลุน่าจะเหมาะกับบรรยากาศงานสงกรานต์ เรามอบหมายให้ ทิม ธารารักษ์ เป็นผู้ติดต่อกับทางซิตี้ ต้นเดือนกุมพาพันธ์ทางซิตี้ตอบมาว่า สถานที่ที่เราขอจองนั้นไม่ว่าง และขอจองปาร์คอื่นๆ ก็ไม่มีว่างเลย ต้นเดือนพฤษภาคมจึงจะมีที่ว่าง เดือนพฤษภาคม จัดงานสงกรานต์ มันหมดเทศกาลไปแล้ว ผู้คนคงหัวเราะ เต็มที่ปลายเดือนเมษายนคงพอไหว แต่นี่ไม่ได้ ผมจึงถอดใจไม่จัดก็ไม่จัด ถ้ามีโอกาสปีหน้าฟ้าใหม่ค่อยว่ากัน แต่คณะกรรมการของเราไม่มีใครถอยขอสู้ต่อ เราจึงต้องมาปรับแผนการจัดงานใหม่ ทางซิตี้เห็นว่าเรามีความตั้งใจจริง จึงได้อนุมัติให้จัดบนถนนเซ้าท์เฟิร์สและซานซาวาดอร์ ย่านธุรกิจกลางใจเมืองซานโฮ่เซ่ เอาละ...จะมีปัญหาและอุปสรรคมากมายเพียงใดก็ขอสู้ฝ่าฟันไปให้ได้ แล้วกำหนดงานสงกรานต์ก็ออกมาได้ตามวันดังกล่าว

พอได้สถานที่ หน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการจัดงานแฟร์ของซิตี้ซานโฮเซ่ ก็นัดคณะกรรมการเราเข้าร่วมประชุมเพื่อชี้แจงรายละเอียดต่างๆ วันนั้นมีผม นิชา กิตติธนะพันธ์ เลขานุการสมาคมฯ และรองนายกอีกสองคน คือ..คิด จักกะพาก ทิม ธารารักษ์ และ คณิต เทิดธีระศักักดิ์ เราหอบเอาแผนผังการจัดงานไปร่วมประชุมกับซิตี้ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานคือ Police, Fire Marshal, Health Department, Environmental Service, Transportation ดังกล่าวนี้เป็นหน่วยสำคัญได้มาชี้แจงกฏระเบียบซึ่งเราต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด แม้จะเข้มงวดการเอาจริงเอาจังของซิตี้ แต่เราก็อดชื่นชมมิได้ เพราะซิตี้ต้องการความมีระเบียบความสะอาด ต้องไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและบิสิเนทในย่านนั้น ประชุมกันประมาณสองชั่วโมงเป็นไปตามขั้นตอนต่างๆ ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย เพราะเราวางแผนและการบ้านกันมาอย่างดี

เราเริ่มวางตัวคณะกรรมการแต่ละแผนก ผมเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการหาทุนหาสปอนเซ่อร์ เราได้เบียร์สิงห์เป็นสปอนเซ่อร์รายใหญ่ใจถึง กล้าให้เราซึ่งยังไม่เคยจัดงานมาเลย ต้องขอขอบคุณ คุณแซม สาครินทร์ ผู้จัดการเบียร์ นอร์ทคอเปอเรชั่น แถมออกบูธเบียร์การ์เด้นให้เราด้วย และผู้ให้ความอุปถัมภ์ ท่านกงสุลใหญ่ เจษฎา กตเวทิน สถานกงสุลใหญ่ลอสแอนเจลิส การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การบินไทย และบริษัทห้างร้าน ร้านอาหารไทย และญาติมิตรที่รักใคร่ให้ด้วยช่วยกัน

การติดต่อหาผู้มาออกร้านเป็นไปด้วยความอยากลำบาก โดยเฉพาะบูธขายอาหาร ผมบอกกับทีมงานว่า แม้งานเราจะออกมาดี มีรายการแสดงที่น่าสนใจ แต่ถ้าเราไม่มีอาหารไว้รองรับผู้เข้ามาเที่ยวแล้วอะไรจะเกิดขึ้น ฉะนั้นต้องช่วยกันระดมหาบูธร้านอาหาร มีผู้จองบูธสินค้าต่างๆ มากพอประมาณ แต่จนแล้วจนเล่าเรื่องบูธร้านอาหารกลับไม่มีความคืบหน้า ผมออกหาเองจากร้านไทยในเบย์แอเรีย ถึงได้ทราบปัญหาว่า ประการหนึ่งแต่ละร้านมีพนักงานจำนวนจำกัดซึ่งโดยมากก็เปิดกันในวันอาทิตย์ด้วย ประการต่อมากฏระเบียบของซิติ้โดยเฮลท์ดีพาร์ทเม้นท์จะเข้มงวดและหยุมหยิมมาก และค่าบูธออกจะแพงไปหน่อย ผมได้อธิบายชี้แจ้งว่าสาเหตุที่ค่าบูธแพง เพราะเราต้องจ่ายค่าเซลล์เพอร์มิทชั่วคราวให้กับผู้จอง ค่าเต้นท์ ค่าอุปกรณ์ทำความสะอาด เช่น น้ำ สบู่ กระดาษเช็ดมือ และขยะ คิดแล้วทางสมาคมฯ ได้ค่าที่นิดหน่อยเอง ก็อยากให้มาช่วยกันออกร้านเป็นการประชาสัมพันธ์ร้านอาหารไทยด้วย ก็ไม่ค่ออยมีคนตอบรับเพราะกลัวความยุ่งยากและอาจขาดทุนเพราะไม่มีคนมาเที่ยว ผมก็ได้ข้อคิดว่า เพราะเราจัดงานครั้งแรกเครดิตคือต้นทุนทางสังคมยังไม่มี แต่ก็ไม่ท้อถอย ถิรวัฒน์ จันทวิมล หนึ่งในทีมงานเสนอว่า ทำไมไม่ทำวิกฤติให้เป็นโอกาส เมื่อไม่มีคนจอง สมาคมฯ ก็ต้องทำเอง เรือล่มในหนองทองจะไปไหน ? อุแม่เจ้า !! กู๊ดไอเดีย !!

สรุปว่า ผมเอาร้านเสบียงไทยออกบูธขายอาหารรายได้มอบให้สมาคมฯ มีข้าวแกง ผัดไทย ผัดซีอิ๊ว สั่งแม่ค้าขนมฝีมือดีในเบย์แอเรียส่งขนม ขอคณะพี่อนงค์ (แอน) มาช่วยแผนกข้าวเหนียวส้มตำ ผมหมักไก่ย่าง หมูย่าง เครื่องดื่มชาเย็นกาแฟเย็น โซดา อัดไว้เต็มพิกัด ใจหนึ่งก็คิดว่าจะมีคนมาหรือ ขาดทุนไหม เอาน่า ขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน ด้วยการต่อสู้จนวินาสุดท้าย เราได้ฟู้ดทรัคอาหารไทยและนานาชาติมาร่วมอีกหลายเจ็ดแปดเจ้า รวมทั้งของสมาคมฯ ก็ได้กว่าสิบบูธ ค่อยอุ่นใจเมือคิดว่าอาหารน่าจะพอเพียง ร้านอาหารเปิด 11:00 AM-2:00 PM อาหารหมดเกลี้ยง คราวนี้ไม่ต้องพูดมาก มีคนบอกว่าขอจองล่วงหน้าไว้สำหรับปีหน้าได้ไหม เริ่มมีเครดิตแล้วไหมล่ะ !!

นอกจากปัญหาเรื่องบูธอาหารแล้ว ยังมีปัญหาเรื่องเวทีมวยซึ่งค่าใช้จ่ายสูงมาก เราต้องปรับแผนจาก บ๊อกซิ่งริง มาเป็นเวทีธรรมดา เพื่อหลีกเลี่ยงกฏระเบียบและค่าใช้จ่าย ก็สนุกพอสมควร เพราะมีค่ายมวยต่างๆ นำมวยมาชกโชว์ในวันงานนับสิบคู่

ถือว่าเป็นประสบการณ์ของการจัดงานครั้งแรก muj ให้คุณค่าแก่พวกเราอย่างมากมาย ถ้าท้อถอยก็แพ้ตั้งแต่ยกแรกยังไม่ทันชกด้วยซ้ำ เพราะเราสู้กันจึงมีวันนี้ วันที่ประสบความสำเร็จ บนเส้นทางเดินที่ขรุขระ ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เราก็สู้กันอย่างทรหด ความสำเร็จแม้จะไม่สวยสดงดงามเต็มร้อย แต่ก็เป็นภาคภูมิใจและหายเหนื่อย

ขอชื่นชมและขอบพระคุณท่านกงสุลใหญ่ เจษฎา กตเวทิน ที่มาร่วมเปิดงาน และให้กำลังใจผมและทีมงาน ท่านบอกว่า.. ทำมาดีแล้วถือว่าประสบความสำเร็จ ขอให้ทำต่อไปที่นี่แหละทำเลดีมาก รับรองปีต่อไปคนจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และท่านก็อยู่ร่วมงานเดินชมงานทั่วไป อยู่ร่วมสรงนำพระ และผมขอให้ท่านนั่งต่อจากพระขอให้พวกเราได้รดน้ำดำหัวขอศีลขอพรจากท่านบ้าง งานนี้เห็นท่านที่มาร่วมงานกันสนุกสนานรื่นเริงบันเทิงใจ ร่วมกันฉลองสงกรานต์ปีใหม่ไทย ผมและทีมงานก็ชื่นใจหายเหนื่อย

ผมเขียนเรื่องนี้ เพื่อบ่งบอกความรู้สึกในใจที่อยากจัดงานสงกรานต์เพื่อสืบสานวัฒนธรรมและประเพณีไทยเพื่อชื่อเสียงของชุมชนของสังคมไทย อยากจะเขียนอีกก็มีเนื้อที่จำกัด ส่วนกิจกรรมและการแสดงในวันงาน พี่แมวได้รายงานในบันทึกจากเบย์แอเรีย เมื่อฉบับที่แล้ว ผมขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ และขอขอบทุกท่านที่ได้ให้ความอุปถัมภ์และมาร่วมงาน ความผิดพลาดและขาดตกบกพร่องก็ขออภัย คำติชมของท่านผมขอน้อมรับ และถ้ามีโอกาสได้จัดงานอีกก็จะแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้น

และขอบพระคุณวัดไทยในเบย์แอเรีย วัดมงคลรัตนาราม วัดพุทธานุสรณ์ วัดพุทธประทีป ขอบคุณพิเศษ ดร.เพลินใจ กุนทีกาญจน์ ผอ.ศูนย์วัฒนธรรมไทยเบิร์กเล่ย์ โรงเรียนพาทยกุลการดนตรีและนาฏศิลป์ กมท. Nat tv และนักข่าว คุณยู นักข่าวกิตติมศักดิ์ เบแอเรีย คุณแดง โรยัลไทยออร์คิด สปอนเซ่อร์ดอกไม้ และอีกหลายท่านมิได้เอ่ยนาม ก็ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วย

ได้ระบายอย่างนี้ ควันที่กรุ่นๆ ในใจ แม้จะไม่หมด ก็คงจางหายไปบ้างละครับ


วัลลภ คชินทร รายงาน