บันทึกจากเบย์แอเรีย
เพ็ญวิภา โสภาภัณฑ์



เรื่องหวานๆ ของหลานๆ

อีกเรื่องเล่าของความประทับใจในช่วงที่ดิฉันไปเที่ยวเมืองไทย ได้รับเชิญให้ไปงานพิธีสมรสของ แป๊ป หรือ ปรีดี เจนหรรษา ลูกชายคนเล็กของรุ่นน้องที่รู้จักกันมานานในสังคมไทยซานฟรานคือ คุณชลลดา และ คุณปรารภ เจนหรรษา จึงถือว่าลูกชายของคุณชลลดาและปรารภเป็นเสมือนหลานชาย เห็นกันมาตั้งแต่หลานชายเกิด ปรีดีเป็นเด็กเรียบร้อยสุภาพ เรียนหนังสือก็เก่ง ดังนั้นเมื่อหลานจะแต่งงานและดิฉันก็พอดีอยู่เมืองไทยในวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๑ พอดี จึงตอบรับไปงานด้วยความดีใจ

สถานที่จัดงานสวยงามและหรูเลิศมาก นั่นก็คือที่บ้านปาร์คนายเลิศ บนถนนสุขุมวิท เป็นครั้งแรกด้วยที่ดิฉันได้มีโอกาสได้เข้าไปยังที่นี้ทั้งๆ ที่เคยได้ยินชื่อมาตั้งแต่สมัยสาวๆ วันนั้นดิฉันจึงประทับใจมาก ได้ตื่นตาตื่นใจกับบ้านเรือนไทย ได้สัมผัสบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความเป็นไทย ได้พบเห็นบรรดาแขกรับเชิญผู้มีเกียรติล้วนแต่สวมใส่ชุดไทยงดงาม มีพิธีสงฆ์ บนเรือนไทย ตามด้วยพิธีแห่ขันหมากขบวนใหญ่ สนุกสนานด้วยเสียงเพลงวงกลองยาว และการกีดกั้น (กลั่นแกล้ง) เจ้าบ่าว ลุ้นกันเหนื่อยและจบลงด้วยดี เจ้าบ่าวผ่านประตูได้พบเจ้าสาว

คราวนี้เราก็ได้ตามขบวนไปยังอีกเรือนหนึ่งชื่อว่า Glass House ซึ่งเป็นเรือนที่จะมีพิธีหมั้นพิธียกน้ำชาาและพิธีรับไหว้ พิธีรดน้ำสังข์ จดทะเบียนสมรส และเป็นเรือนที่บรรดาผู้มาร่วมงานจะได้รับประทานอาหารร่วมกัน พิธีสวยงาม เจ้าบ่าว เจ้าสาว ยิ้มแย้มมีความสุข ทำเอาแขกเหรื่อมีความสุขไปด้วย ดิฉันคงไม่ต้องบรรยายตรงนี้ ชมภาพของงานและสถานที่ที่ลงประกอบจะเห็นภาพชัดเจนกว่านะคะ

ดูภาพจบแล้วก็มารู้จักเรื่องราวของความหวานของหลานปรีดีและเจ้าสาวนะคะ สำหรับดิฉันมันเป็นเรื่องของบุพเพสันนิวาสล้วนๆ เพราะทั้งคู่อยู่กันคนละขอบฟ้า แต่มาพบกันรักกัน โดยที่เป็นการพบที่น่าสนใจและอยากนำมาเล่าก็เพราะว่าดิฉันเป็นนักเขียนนิยาย ชอบเรื่องอะไรที่เป็นรักโรแมนติค ที่ได้เกิดขึ้นแบบเหลือเชื่อ จบลงด้วยแฮปปี้เอ็นดิ้ง แนวนิยายดิฉันล่ะค่ะ

เจ้าบ่าว ปรีดี หรือ แป๊ป เจนหรรษา เป็นเด็กไทยที่เกิดและเติบโตในเบย์แอเรีย เรียนจบ B.S. Electrical Engineering, Cal Poly San Luis Obispo และจบ Masters of Business Administration,Pepperdine University จากนั้นก็ได้ไปทำงานเป็น IT Management Consultant ที่ Novartis Pharmaceuticals ทำงานประจำอยู่ที่ Basel, ประเทศ Switzerland

ทีนี้มาเล่าถึงเจ้าสาว น้อง แค-พญ.พีรนุช ปะจายะกฤตย์ บุตรสาว พลอากาศเอก ดร.พลานันท์ ปะจายะกฤตย์ และ นาวาอากาศเอกหญิง ศรีเรือน ปะจายะกฤตย์ น้องแค เรียนจบที่โรงเรียนราชินีบน โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ทันตแพทย์จุฬาฯ และไปศึกษาต่อด้าน Orthodontics ที่ประเทศออสเตรเลีย ปัจจุบันเป็นทันตแพทย์จัดฟัน

อยู่คนละขอบฟ้า พบกันอย่างไร

เล่าขานเป็นตำนานว่าน้องแป๊ปและน้องแครู้จักกันทางอินเทอร์เน็ต คบหากันมานาน 2 ปี ความรักเบิกบานและตัดสินใจใช้วิตร่วมกัน เจ้าสาวประทับใจเจ้าบ่าวตรงที่ แป๊ปดูติ๋มดี สุภาพ ใจดี มีความรับผิดชอบ รักเด็กและสัตว์เลี้ยงด้วยเหมาะที่จะเป็นผู้นำครอบครัว

ส่วนเจ้าบ่าวประทับใจเจ้าสาวตรงที่ แคมีลักษณะคล้ายเด็กวัดที่แคลิฟอร์เนียที่แป๊ปคุ้นเคยเป็นคนไทยแต่ก็เหมือนเด็กอเมริกันด้วย แป๊บเห็นว่าแคคุยตลกดี อยู่ด้วยแล้วสบายใจ มีความสุข

ฟังดูแล้วคุณป้าเช่นดิฉันก็ชื่นอกชื่นใจ ก็เลยไปถามคุณพ่อคุณแม่ของแป๊ปดูว่าประทับใจน้องแคตรงไหนได้รับคำตอบว่า แคเป็นเด็กเข้มแข็ง มีบุคลิกเชื่อมั่นในตนเอง อาจเป็นเพราะว่าแคเติบโตมาในครอบครัวทหาร แคตั้งใจเรียนจนมีอาชีพที่ดี สามารถช่วยเหลือครอบครัวและผู้อื่นได้

กล้าถามเพราะว่าเราเป็นฝ่ายชายไงคะ ส่วนฝ่ายคุณพ่อคุณแม่น้องแค ดิฉันมิได้มีโอกาส หรือมีความกล้าพอที่จะไปสอบถาม แต่ก็เชื่อแน่ว่าฝ่ายเราคงเป็นเด็กดี เหมาะสมกับลูกสาวของท่านเป็นแน่แท้ มิฉะนั้นจะยอมมอบลูกสาวคนสวยคนนี้ให้มาเป็นคู่ครองกันหรือ

เมื่อทุกฝ่ายมีความสุข เรื่องของดิฉันวันนี้ก็ขอจบลงด้วยความสุขแฮปปี้เอ็นดิ้งเหมือนนิยายทุกเรื่องที่ดิฉันเขียน ก็ขอปิดท้ายด้วยคำอวยพร ให้ทั้งปรีดี และ พีรนุช จงมีความสุขในชีวิตสมรส ครองเรือนกันด้วยความรักและเข้าใจกัน ตลอดไป…