บันทึกจากเบย์แอเรีย
ผอ.นสพ.เพ็ญวิภา โสภาภัณฑ์



บันทึกถึง การแสดง “โขนพบโนรา”

วันคืนผ่านไปรวดเร็วจริงๆ นี่ก็เข้าวีคที่สองของเดือนกันยายนแล้ว ว่าไปแล้ว ชีวิตไม่ได้อยู่ยากอะไรหนัก หนา ผ่านร้อน ผ่านหนาว พบรัก พบความโกรธ พบความลุ่มหลง เป็นกันทุกคน แค่ต้องอยู่ให้เป็น ผ่อนคลาย ตั้งสติ

วิธีผ่อนคลายของดิฉันที่ปฏิบัติมาสม่ำเสมอ ประสาคนมีกิเลส ไม่ได้มีความรู้ที่จะเข้าฝึกสมาธิ ดิฉัน เพียงใช้ดนตรีและนาฏศิลป์ไทยเป็นที่ผ่อนคลายอารมณ์ แล้วชีวิตจะดูรื่นรมย์ขึ้นมาทันที

เหตุที่ต้องหาเรื่องผ่อนคลายจิตใจเพราะเมื่อกลางเดือนสิงหาคม ดิฉันสูญเสียมิตรรักที่สนิทสนมกันมาเกือบห้าสิบปี ครอบครัวรู้จักกันมาตั้งแต่เรามาอยู่ในเขตซานฟรานซิสโก เบย์แอเรีย เธอเสียชีวิตไปด้วยมะเร็งร้ายในสมอง ที่พอแพทย์พบก้อนเนื้อนี้ก็บอกเราว่าเธอจะอยู่ได้ไม่ถึงหกเดือน แต่เพียงสามเดือนเธอก็จากไปอย่างไม่มีวันกลับ ขอให้ดวงวิญญาณของเพื่อน สุวัฒนา วรรณรักษ์ จงสู่ภพภูมิที่ดี เธอคงจะได้ไปฟ้อนรำและบรรเลงดนตรีอยู่บนสรวงสวรรค์แล้ว

ดังนั้นเมื่อมีเหตุการณ์อันไม่คาดฝัน สติต้องกลับมาให้ได้ ดิฉันจึงเปิดยูทูปเพื่อจะหาดนตรีไทยหรือนาฏศิลป์ไทยดู และได้เห็นคลิปวิดิโอหนึ่งที่จู่ๆ ก็โผล่ขึ้นมาให้เห็น เป็นการแสดงโขน ที่เแค่เห็นไตเติ้ลก็สะดุดตา ต้องคลิกเข้าไปดูทันที แล้วเกือบสามชั่วโมงเต็มที่ดิฉันนั่งดู เกิดความดื่มด่ำ เกิดความความตื่นตาตื่นใจ เพราะ เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นการแสดงเช่นนี้ ลงตัวมากเลยค่ะ โขนไทย (ขึ้นทะเบียนเมื่อปี ๒๕๖๑ กับ โนรา (ขึ้นทะเบียนเมื่อปี ๒๕๖๔) ซึ่งทั้งสองการแสดงได้รับการยอมรับจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นมรดกของชาติที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ดั่งที่เราท่านก็ทราบกันแล้วนั้น ดิฉันจะขอนำการแสดงที่ได้ชมมาบันทึกเล่าสู่กันฟังนะคะ

โดยการแสดงครั้งนี้มีขึ้นเมื่อวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ ที่ผ่านมา จัดขึ้น ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาลัยเขตตรัง อ.เมือง ตรัง สนับสนุนโดยสมาคมแม่บ้านทหารบกสาขากองทัพภาคที่สี่ จัดแสดงโดยสำนักการสังคีต กรมศิลปากร โดยเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมการแสดงนาฏศิล์และดนตรีสัญจรประจำปี ๒๕๖๖ การแสดงครั้งนี้เป็นการนำเสนอโขนพบโนรา จากเรื่องรามเกียรติ ชุดรามมกุฏอยุธยา

ความหลากหลายทางวัฒนธรรมพื้นถิ่นบนแผ่นดินเดียวกัน

นับเป็นการต่อยอดเชื่อมวัฒนธรรมท้องถิ่นกับโขนศิลปะชั้นสูงให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างน่าทึ่งที่สุด เกือบสามชั่วโมงที่ดิฉันได้ชมคลิป ตื่นตาตื่นใจมาก และชื่นชมกับคณาจารย์ทั้งจากกรมศิลปากรและจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นอย่างยิ่งที่นำสองศิลปะมาประยุกต์ได้อย่างสวยงาม ยกตัวอย่างเช่น อินทรชิต แปลงกาย เป็นพระอินทร์และยักษาทั้งหลาย แปลงกายเป็นขบวนเทวดา นางฟ้า นั้น เราเคยชมมาแล้วไม่ว่าจะเป็นตอนศึกพรหมาสตร์ หรือนาคบาศ ก็ตาม แต่ในการแสดงนี้ แทนที่เทวดานางฟ้าจะออกมาในเครื่องละครรำแบบเดิมๆ กลับกลายเป็นเทวดานางฟ้าในรูปลักษณ์ชุดโนรา และตัวเอกคืออินทรชิตนั้น เมื่อแปลงกายออกมาก็อยู่ในชุดโนรา แสดงโดยศิลปินแห่งชาติ ผศ.ธรรมนิตย์ นิคมรัตน์ ซึ่งรำได้งดงามที่สุด ดิฉันเองก็เพิ่งได้เห็นการร่ายรำโนราที่ถ่ายทอดความเป็นยักษาได้อย่างลงตัวทุกท่ากระบวนความ ทั้งอารมณ์และความรู้สึกของพญายักษ์ (อินทรชิต) ช่วงที่โกรธแค้นฟาดหนุมานด้วยศรนาคบาศ สุดบรรยายค่ะ

กองการสังคีตนำศิลปินระดับชาติมาแสดงงานนี้ อาทิ คุณปกรณ์ พรพิสุทธิ แสดงเป็นพระราม พร้อมพรั่งด้วยศิลปินจากกองการสังคีต นักศึกษาจาก ม.สงขลานัครินทร์ ทั้งหมดกว่าสองร้อยคนทีเดียวค่ะงานนี้

สรุปว่าขอแนะนำนะคะสำหรับผู้ที่ชอบชมโขน ละครรำ ไปหาวิดีโอดูกันนะคะ ในยูทูป และภาพที่ดิฉันนำมาประกอบนี้ ก็ถ่ายผ่านจอทีวีที่บ้านค่ะ ขอขอบคุณเจ้าของยูทูปด้วยค่ะ

คอลัมน์วันนี้ก็ขอจบลงด้วยประการฉะนี้ พบกันใหม่ เรื่องใหม่ๆ ฉบับต่อไปนะคะ