บันทึกจากเบย์แอเรีย
เพ็ญวิภา โสภาภันฑ์



พระคุณแม่

อีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว พวกชุมชนไทยจะเฉลิมฉลองวาระมหามงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ มหาราชินี เฉลิมพระชนม์ 80 ชันษา สิงหาคม 2555 ด้วยพระมหากรุณาธิคุณฯ ที่พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ เพื่อความผาสุกของพสกนิกรชาวไทย พระองค์จึงทรงประทับมั่นเป็นมิ่งขวัญในดวงใจของพสกนิกรชาวไทย ในฐานะ “แม่ของแผ่นดินไทย” มาตลอดกาลนาน ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน เทอญฯ

และเนื่องในวันแม่แห่งชาติปีนี้ได้มีผู้มีจิตศรัทธาในบวรศาสนาพาบุตรหลานมาเข้าพิธีอุปสมบถเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ณ วัดพุทธานุสรณ์ ดังมีรายนามดังต่อไปนี้ค่ะ

พระหมี / ท่านชัชชัย สินลา ลูกชายคุณดาว โซนโฮลท์ซ / สามเณรบิลลี / อัคคพล นันทสิริ - บุตรชาย คุณเจนจิต พัชรเปล่งศรี / สามเณรจูเนียร์ อัสนี นาคสังข์ บุตรชายคุณสุดารัตน์ นาคสังข์ /สามเณรแอนดรู / Andrew Meeker บุตรชายคุณติ๋ม และคุณบิล / สามเณรต้นสน ตฤณ กิติยากร บุตรชายของ ม.ล.นันทจิต-กษมา กิติยากร


ขออนุโมทนาบุญที่ทุกท่านได้มีกุศลเจตนาเลื่อมใสต่อพุทธศาสนาของทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ


วันเวลาวิ่งผ่านเราไปรวดเร็วเสียจริงๆ อีกไม่ถึงอาทิตย์ผู้เขียนก็จะเดินทางไปประเทศไทยและพำนักอยู่จนสิ้นปี เพื่อที่จะได้ไปใช้เวลาอยู่กับคุณแม่ซึ่งเวลานี้อายุเก้าสิบสาม ถือว่าท่านได้ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า และเนื่องในโอกาสวันแม่นี้ก็ขอใช้เนื้อที่คอลัมน์ของผู้เขียนกราบมาที่แทบเท้าของแม่ด้วย แม่ผู้เขียนเพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลจากการเป็นหวัด ที่ทำให้ร่างกายของคนอายุเกินเก้าสิบต้องมีโรคแทรกซ้อนหลายประการ แต่ท่านก็ยังมีกำลังใจที่ดีมีความจำที่ดี และรอผู้เขียนกลับไปหาด้วยความหวังจะได้พบกันอีก น้องสาวเล่าว่าตอนนี้ท่านก็ใช้เวลาว่างด้วยการประดิษฐ์ดอกไม้ผ้าซึ่งเป็นงานอดิเรกที่ท่านชื่นชอบ

คุณแม่ของผู้เขียนท่านเคยเป็นครูสอนการฝีมือมาก่อน ท่านมีความชำนาญในการเย็บปักถักร้อย และมีความสุขในการทำการฝีมือแม้กระทั่งเมื่อท่านอายุเก้าสิบต้นๆ ท่านก็นั่งทำของชำร่วยเพื่อแจกงานแต่งงานของหลานถึงสองคน

ในวันแม่ปีที่แล้วท่านประดิษฐ์บุหงาผ้าลูกไม้ติดคำว่า “รักแม่” ทำไว้ให้ลูกๆ ผู้เขียนนำบุหงาหลากหลายเหล่านั้นติดตัวมาอเมริกาด้วย บุหงาดอกไม้ยังส่งกลิ่นหอมชื่นใจจนทุกวันนี้ ขอนำภาพเหล่านั้นมาแบ่งปันกันในวันแม่สำหรับผู้ที่ “รักแม่” ทุกคนด้วยนะคะ

และสำหรับคอลัมน์ “บันทึกจากเบย์แอเรีย” ฉบับต่อจากนี้ ผู้เขียนจะไปนั่งเขียนอยู่ที่ประเทศไทย ได้ปรึกษากับ ผอ. คุณวิรัช โรจนปัญญา ว่าจะเปลี่ยนชื่อคอลัมน์ดีหรือไม่ คุณวิรัช ผู้มีศักดิ์เป็นน้องชาย (ลูกคุณอา) ของผู้เขียนก็บอกว่าแล้วแต่ผู้เขียน จะใช้ชื่อเดิมหรือเปลี่ยนใหม่ก็ได้ ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ทำให้ค่อยสบายใจหน่อยเมื่อมี ผอ. ตามใจนักเขียนเช่นนี้ เป็นอันว่าขอปรึกษากับกองบรรณาธิการท่านอื่นสักหน่อยนะคะ ว่าจะยุ่งยากหรือไม่หากเปลี่ยนชื่อคอลัมน์ ขออุบไว้ก่อนนะคะ ไว้อาทิตย์หน้าท่านผู้อ่านก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงเองค่ะ Surprise ค่ะ

ส่วนการรายงานข่าวสังคมในเบย์แอเรียนั้น หนังสือพิมพ์ไทยแอลเอมีคอลัมน์รายงานอยู่อีกสองคอลัมน์แล้ว นั่นคือ บอกข่าวซานฟราน และ ท่องไปในซานฟราน รับประกันท่านผู้อ่านไม่ตกข่าวกิจกรรมสังคมค่ะ และสำหรับกิจกรรมของสมาคมไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคเหนือนั้นคุณ วัลลภ คชินทร นายกสมาคมฯ จะมาช่วยรายงานด้วยตัวเองค่ะ ไม่นับเฟสบุ๊กของสมาคมไทยภาคเหนือ (Thai Association of Northern California) ที่จะมีการอัพเดทข่าวคราวให้อ่านกัน

และขอประชาสัมพันธ์ เว็บไซต์สรรพรสดอทคอม ของผู้เขียน ที่ได้หยุดพักการโพสต์ไประยะหนึ่งนั้น เมื่อผู้เขียนกลับไปถึงประเทศไทยก็จะเริ่มอัพเดทและเสนองานเขียนบทใหม่ๆ ของบรรดานักเขียนรับเชิญให้ได้อ่านกันอีกค่ะ คลิกไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราได้นะคะที่ www.sapparos.com

สำหรับเพื่อนๆ และน้องๆ ในซานฟรานซิสโกและเบย์แอเรีย พบกันปลายปีหรือต้นปีหน้านะคะ Have a great summer (ที่กำลังจะกลายเป็นฤดูใบไม้ร่วงในอีกไม่กี่อาทิตย์นี้) ส่วนเพื่อนๆ และน้องๆ ที่เมืองไทย อีกไม่กี่วันพบกันนะคะ


สวัสดีค่ะ