บันทึกจากเบย์แอเรีย
เพ็ญวิภา โสภาภันฑ์



ประทับไว้ในดวงจิตของ วัลลภ คชินทร

รางวัลเสาเสมาธรรมจักรปี ๒๕๕๗

บันทึกฉบับซีรี่ส์เรื่องราวดีๆ ของเพื่อนผองน้องพี่ ฉบับนี้เริ่มด้วยเรื่องข่าวดีๆ ของน้องพี่คือ คุณวัลลภ คชินทร ที่ได้รับข่าวอันเป็นมงคลยิ่ง นั่นคือ กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรมประกาศมอบรางวัลเสาเสมาธรรมจักร สาขาการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศ (ประเภทส่งเสริมกิจการคณะสงฆ์) อันดับที่ ๑๔ จากจำนวน ๑๒๕ รูป/คน (ทั้งพระภิกษุสงฆ์และฆราวาส) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยคุณวัลลภมีกำหนดเข้ารับพระราชทานรางวัล จาก สมเด็จพระเทพรัตนาชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งพระองค์เสด็จเป็นประธานเปิดงานสัปดาห์พระพุทธศานาแห่งชาติ และพระราชทารางวัลเสาเสมาธรรมจักร แด่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ในอาทิตย์ที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง กรุงเทพฯ

ดังนั้นก่อนที่คุณวัลลภจะเดินทางไปประเทศไทย ดิฉันจึงได้ขอนัดพบเพื่อสัมภาษณ์เกี่ยวกับความเป็นมาของรางวัล เหตุที่ได้รับคัดเลือก และความรู้สึกที่ได้รับเกียรติครั้งนี้ เนื่องจากเราก็ทราบดีว่ารางวัลเสาเสมาธรรมจักรเป็นเครื่องหมายแห่งเกียรติยศอันเกิดแต่การบำเพ็ญคุณงามความดีในการมุ่งมั่นช่วยเหลือกิจการคณะสงฆ์ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา


ประทับไว้ในดวงจิต
รู้สึกอย่างไรเมื่อได้ทราบข่าวคะ

นับว่าเป็นข่าวดี เป็นศิริมงคลสำหรับตัวผมครับ ถือเป็นเกียรติประวัติแก่ครอบครัวและวงศ์ตระกูล เป็นพระกรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น และเป็นกำลังใจแด่ผู้ที่อุทิศตนทำงานเพื่อสังคม ผมรู้สึกประทับใจและภูมิใจเป็นอย่างยิ่งว่า ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้รับพระราชทานรางวัลอันยิ่งใหญ่ ความยิ่งใหญ่มิใช่อยู่ที่วัตถุอันเป็นมูลค่าของรางวัล แต่เป็นที่ประจักษ์แห่งการกระทำความดีต่างหาก รางวัลเสาเสมาธรรมจักรเป็นเครื่องหมายแห่งเกียรติยศอันเกิดแก่การบำเพ็ญคุณงามความดีในการขวนขวายช่วยเหลือกิจการคณะสงฆ์ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และสังคมชุมชนไทยของข้าพเจ้าตลอดระยะเวลาอันยาวนาน รวมทั้งสมัยที่เป็นพระภิกษุสงฆ์และออกมาเป็นฆราวาสเป็นเวลา ๓๘ ปีเต็ม และเมื่อเข้ามารับตำแหน่งนายกสมาคมไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคเหนือ (ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ จนถึงปัจจุบัน) ก็ได้ทำเป็นทวีคูณ ซึ่งนับว่าเป็นภาระอันหนักหน่วง แต่ก็ตั้งใจทำจนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี


อยากทราบว่ามีผู้ใดสนับสนุนเกื้อกูลให้ได้มีโอกาสรับรางวัลนี้บ้างคะ

ความสำเร็จและการได้มาซึ่งรางวัลเสาเสมาธรรมจักรนี้ ผมได้รับการส่งเสริมสนับสนุนจากพระเถระอันเป็นที่เคารพสักการะใน ซาน ฟรานซิสโก เบย์แอเรีย ๒ รูป รูปแรกคือ พระครูสิริรัตนธรรมวิเทศ วัดมงคลรัตนาราม เป็นผู้ทำประวัติขอให้ และรูปที่สองคือ ท่านเจ้าคุณพระวิเทศธรรมกวี วัดพุทธานุสรณ์ เมืองฟรีมอนท์ เป็นผู้ส่งเสริมเป็นภาระธุระเสนอรายชื่อผ่านสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา และอีกรูปหนึ่งที่ต้องกล่าวถึงคือ ท่านเจ้าคุณพระราชปริยัติเวที เจ้าอาวาสวัดสุวรรณาราม และรองเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เป็นผู้มีคุณูประการและมีพระคุณต่อข้าพเจ้าเป็นอย่างยิ่ง ขอกราบขอบพระคุณอย่างงามมา ณ โอกาสนี้


พอจะทราบไหมคะว่าในซานฟรานซิสโกและเบย์แอเรียนี้มีใครเคยได้รับรางวัลนี้มาแล้วบ้าง

ถ้าจะนับอันดับผมเป็นบุคคลที่สองของวัดมงคลรัตนาราม เมืองเบิร์กเล่ย์ ที่ได้รับรางวัลเสาเสมาธรรมจักร รูปแรกที่ได้รับคือ ท่านพระครูสิริรัตนธรรมวิเทศ (พระมหามานัส อัพภาจารสัมปัณโณ) และยังมี ท่านเจ้าคุณพระวิเทศธรรมกวี (หลวงพ่อมหาประเสริฐ) วัดพุทธานุสรณ์ พระครูวรสิทธิวิเทศ (พระมหาสิทธิพร) วัดพุทธประทีป และ คุณกิ่งกาญจน์ สมิตามร เกียว (คุณแดง) จากวัดพุทธานุสรณ์ ได้รับพระราชทานมาก่อนแล้วหลายปี


มีอะไรที่อยากจะบอกเพื่อนสนิทมิตรสหายและสังคมในแคลิฟอร์เนียภาคเหนือบ้างหรือไม่คะ

รางวัลอันยิ่งด้วยคุณค่านี้ ผมคงจะไม่มีโอกาสได้ครอบครองถ้าขาดพระเถระและผู้ใหญ่ที่ช่วยสนับสนุน แม้ข้าพเจ้าจะได้รางวัลนี้ด้วยการขวนขวายกระทำความดีด้วยจิตอาสาซึ่งเป็นคุณสมบัติส่วนตัว (เวยยาวัจไมย) แต่ข้าพเจ้าขอมอบรางวัลอันทรงเกียรตินี้ ให้เป็นสมบัติอันมีค่าแด่ชุมชนไทยในซาน ฟรานซิสโก เบย์ แอเรีย ให้เป็นที่ประจักษ์ว่า สังคมไทยในซาน ฟรานซิสโก เบย์ แอเรีย เป็นสังคมที่อบอุ่นด้วยไอรักสามัคคี ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน มีคนดีเป็นศรีแก่สังคมเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา และขออย่าให้สิ้นสุดเพียงข้าพเจ้า ขอให้มีให้ได้กันทุก ๆ ปี


สิ่งที่ปิติยิ่งในการได้รางวัลครั้งนี้ จนขอใช้คำว่า “ประทับไว้ในดวงจิต” คืออะไรคะ

คึอความรู้สึกซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงเมตตาพระราชทานรางวัลให้ ผมจะตั้งใจทำคุณงามความดีต่อไปเพื่อประโยชน์ต่อวัดวาอารามพระพุทธศาสนา และประโยชน์สุขส่วนรวมอันจะเกิดแก่ชุมชนชนสังคมไทยต่อไป

และก่อนที่จะจบการสัมภาษณ์ในวันนี้ คุณวัลลภได้ฝากคำขอบคุณเป็นพิเศษมาถึง “คนสำคัญ” ที่ให้กำลังใจอยู่เคียงข้างสองคน คือ คุณนันทพร ศรีภรรยา และน้องน้ำหวานบุตรสาว ดังนี้ค่ะ

ในการทำงานของผมในทุกเรื่องจะไม่ประสบความสำเร็จเลยถ้าขาดทัพหลัง คือศรีภรรยาและลูกสาวที่น่ารัก ทั้งสองคนคอยเป็นกำลังใจในการทำงาน และช่วยเหลือกิจการงานสังคมเคียงบ่าเคียงไหล่ สนับสนุน ปลุกปลอบใจยามเหน็ดเหนื่อย ท้อแท้ และเมื่อเจออุปสรรค ตลอดทั้งช่วยดูแลกิจการธุรกิจการค้าให้ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย ข้าพเจ้าจึงทำงานสังคมไปได้ด้วยความราบรื่นปลอดโปร่งใจ จึงขอมอบรางวัลอันทรงเกียรติและคุณค่านี้ให้แด่เธอทั้งสองผู้เป็นที่รักด้วยเช่นกัน

ค่ะ..เป็นการแสดงถึงผู้ใฝ่ธรรมะในทุกด้าน ในด้านครอบครัว การมอบความดีความชอบให้กับคู่ชีวิตนั้นถือว่าเขาได้ประพฤติตนตามธรรมะในการครองเรือนครบถ้วน คือยึดถือใน สัจจะ ทะมะ ขันติ และจาคะ ครบถ้วน สมกับเป็นอดีตพระธรรมทูต ณ วัดมงคลรัตนาราม โดยแท้จริง

จบลงด้วยแสดงความยินดีในการที่ได้รับรางวัลแห่งเกียรติยศ อันนำมาซึ่งความภูมิใจกับครอบครัว ต่อญาติสนิทมิตรสหาย และสังคมไทยที่คุณวัลลภได้สละเวลา ด้วยวิริยะ อุตสาหะ เพื่อให้สังคมไทยในแคลิฟอร์เนียภาคเหนือดำเนินกิจกรรมไปโดยต่อเนื่องด้วยความสามัคคี ขณะเดียวกันก็ให้เวลาในการสนับสนุนกิจกรรมของวัดไทยทุกวัดในแคลิฟอร์เนียภาคเหนือ ไม่นับการที่มาช่วยดิฉันสลับเขียนคอลัมน์แทนให้ในช่วงที่ไม่สามารถมาเขียนรายงานได้

นับเป็นกัลยาณมิตรต่างวัยคนสำคัญคนหนึ่งของดิฉันค่ะ วัลลภ คชินทร