บันทึกจากเบย์แอเรีย
เพ็ญวิภา โสภาภันฑ์



พบกับบัณฑิตใหม่ไฟแรง ศูนย์วัฒนธรรมวัดมงคลฯ เบิร์กเลย์

บันทึกฉบับนี้ ขอนำเสนอสองสาวหนึ่งหนุ่มคนเก่งของศูนย์วัฒนธรรมไทยวัดมงคลรัตนาราม เบิร์กเลย์ ที่เพิ่งจะรับปริญญาไปเมื่อเดือนที่แล้ว ทั้งสามบัณฑิตนี้เป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตากันอย่างดีในกลุ่มสายเลือดอเมริกันอาเซี่ยนรุ่นใหม่ไฟแรงของศูนย์ฯ ผลงานแสดงศิลปวัฒนธรรมที่พวกเขาทั้งสามได้ฝากฝีไม้ลายมือชนิดเด็กไทยที่เกิดในเมืองไทยยังต้องชิดซ้ายมาแล้วนับร้อยครั้ง ตั้งแต่พวกเขายังเล็กจนบัดนี้ เติบโตเป็นบัณฑิตมีปริญญาเป็นที่ภาคภูมิใจของครอบครัวและสังคม เพื่อนฝูงและกรรมการวัดมงคลรัตนารามได้จัดงานแสดงความยินดีให้กับทั้งสามไปเมื่อเร็วๆ นี้ มีใครกันบ้างตามมาอ่านกันนะคะ

เด็กดีของสังคมแคลิฟอร์เนียภาคเหนือ

น้องแอน อารยา กิตติธนะพันธ์ น้องแอนจี้ อัญจรีย์ วิรัทธิโกวิท และหนุ่มน้อย แฟรงโก หยวน ที่แม้ว่าตลอดสี่ปีที่ผ่านมาพวกเขาจะเรียนกันหนักแต่ไม่มีใครทิ้งงานแสดงนาฏศิลป์และดนตรีไทย แม้บางคนจะต้องไปเรียนมหาวิทยาลัยที่ไกลจากศูนย์ฯ แต่ทุกครั้งที่โดนตามตัวมาแสดงก็ไม่มีใครปฏิเสธ

ด้วยวิริยะและอุตสาหะใฝ่เรียน และมีจิตใจมั่นคงในการร่วมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมของไทยในต่างแดน ขอยกย่องและขอเผยแพร่เรื่องราวของทั้งสามคนมาให้รู้จักกันโดยสังเขปนะคะ ย้ำว่า “โดยสังเขป” เพราะจริงๆ แล้วตัวตนของน้องๆทั้งสามคนนี้มีเรื่องน่าสนใจกว่านี้มากมาย..

เริ่มด้วยน้องแอนนา อารยา กิตติธนะพันธ์

สาวสวยระดับตัวเอกของศูนย์ฯ คนนี้เป็นลูกสาว คุณโป่ง อัจฉรา วงศาโรจน์ ผู้ช่วย ผ.อ.ศูนย์วัฒนธรรมเบิร์กเล่ย์ น้องแอนเล่าว่าคุณแม่พาเธอมาคลุกคลีกับศูนย์วัฒนธรรมตั้งแต่เธอยังอยู่ในเบาะ อายุเพียงเจ็ดวัน เวลาคุณแม่แสดงพวกครูๆ ก็จะผลัดกันเลี้ยงน้องแอน เธอเริ่มเรียนรำตั้งแต่เดินได้นั่นเลย และรักนาฏศิลป์ไทยมากๆ

คิดอย่างไรกับวิถีชีวิตแนวศิลปวัฒนธรรมที่คุณแม่ปลูกฝังมาคะ

“ศิลปวัฒนธรรมไทยกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต รักวิถีไทยและถือเป็นบุญคุณที่จะต้องทดแทนด้วยการสืบสานให้คงอยู่ในสังคมอเมริกันค่ะ หนูอาจจะโชคดีกว่าคนอื่นที่ได้ใกล้ชิดกับศิลปวัฒนธรรม เพราะมีคุณแม่ช่วยงานอยู่กับศูนย์ฯ หนูอยากให้เด็กไทยที่เติบโตที่อเมริกานี้ได้มีโอกาสเช่นเดียวกัน และหนูดีใจที่ทางศูนย์ฯ ของเรานั้นเปิดโอกาส เปิดรับเด็กที่สนใจทางด้านนี้ตลอดเวลาค่ะ”

มีแนวทางหรือความใฝ่ฝันที่จะสืบสานอย่างไรคะ

“อยากเห็นศูนย์วัฒนธรรมของเราสามารถยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง เป็นที่ยอมรับและได้รับความเคารพจากชุมชนไทย ซึ่งการที่จะเป็นเช่นนั้นได้ เด็กรุ่นใหม่ก็ต้องร่วมมือร่วมใจกัน ช่วยกันทำงานช่วยกันเผยแพร่ ทำงานด้วยความสมัครสมานสามัคคี มิใช่มีคนทำงานเพียงไม่กี่คน ตราบนั้นพวกเราก็จะมีความภาคภูมิใจที่สามารถสืบสานมรดกวัฒนธรรมดีๆ ของไทยไว้ได้ค่ะ”

น้องแอนเรียนจบปริญญาตรีจาก California State University, Long Beach BFA เมเจอร์ สาขา Graphic Design และไมเนอร์สาขา Marketing น้องเพิ่งได้งานเป็นฟรีแลนซ์กราฟฟิคดีไซน์ให้กับบริษัท 3 Degreeใน San Francisco ค่ะ

พบกับอีกสาวเก่งของศูนย์วัฒนธรรมฯ น้องแอนจี้่ อัญจรีย์ วิรัทธิโกวิท

แอนจี้จบจาก University of California, Santa Cruz สาขา Business Management ด้าน Economics แอนจี้เล่าว่าที่เลือกเรียนเพราะครอบครัวเธอมีธุรกิจหลายอย่าง ดังนั้นการที่เธอเลือกเรียนสาขานี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่ออนาคตที่จะช่วยงานครอบครัว

แองจี้เข้ามาเรียนและร่วมงานศูนย์วัฒนธรรมนานหรือยังคะ

“หนูมาเรียนและคลุกคลีอยู่กับศูนย์ฯ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2002 ค่ะ แต่หากจะนับว่าเข้าร่วมช่วยสังคมไทยจริงๆ แล้วก็เริ่มตั้งแต่ ค.ศ. 1995 เพราะช่วงนั้นทางครอบครัวเข้าไปช่วยงานวัดไทยและสมาคมไทย หนูก็ได้มีโอกาสติดตามคุณพ่อคุณแม่และพี่ป้าน้าอา ได้สัมผัสกับศิลปวัฒนธรรมไทยมาตั้งแต่นั้นค่ะ”

คิดอย่างไรกับการมีส่วนร่วมกับศูนย์วัฒนธรรมฯ

“นอกจากจะเป็นศูนย์ฯ ที่รวมงานสืบสานวัฒนธรรมไทยที่ดีมาก ยังทำให้หนูได้มีโอกาสพบเพื่อนๆ ที่มีความรักความเป็นไทยเหมือนกัน ทำให้เราได้สนิทสนมรักกัน พร้อมที่จะทำงานด้านนี้ด้วยกัน”

แอนจี้จบคำให้สัมภาษณ์แบบสั้นๆ แต่ประทับใจว่า

“หนูเชื่อว่าการเข้ามามีส่วนร่วมกับศูนย์วัฒนธรรมที่เบิรกเล่ย์เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม เพราะทำให้พวกเราเด็กไทยที่นี่เก่งภาษาไทย และมีมุมมองที่ดีต่อวัฒนธรรมไทย...วัฒนธรรมไทยเป็นของดีที่ไม่มีชาติใดเหมือนค่ะ”

แม้ว่าจะเพิ่งเรียนจบมาได้ไม่กี่เดือนแต่แอนจี้ก็โชคดีที่ได้งานทำแล้วโดยมีทำงานในหน้าที่ Audit Associate ที่บริษัท Pricewater Coopers ในซานฟรานซิสโก และกำลังเตรียมสอบเพื่อรับใบประกอบอาชีพด้านตรวจสอบบัญชีในเร็ววันนี้ค่ะ

เพิ่มเติมว่าสองสาวงาม แอน และ แอนจี้ นี้ นอกจากจะเกิดราศรีเดียวกัน เป็นเพื่อนรักกันแล้ว ยังรับบทเป็นตัวเอกละครแทบทุกเรื่องของศูนย์วัฒนธรรมอีกด้วย เกริ่นว่าในเดือนตุลาคมนี้สองสาวก็จะมาแสดงให้ชมในงานละครฟอร์มใหญ่ของศูนย์ฯ เรื่อง “นางเสือง” ซึ่งรายละเอียดของงาน ดิฉันกำลังรวบรวมและจะทยอยทำเสนอในฉบับต่อๆ ไปนะคะ อดใจรอสักนิดค่ะ

ในเมื่อมีสาวก็ต้องมีหนุ่มใช่ไหมละคะ พบกับบัณฑิตหนุ่มหล่อสาวกรี๊ดตามคนนี้ของศูนย์วัฒนธรรมค่ะ

แฟรงโก้ หยวน

พระเอกของเราเข้ามาคลุกคลีกับศูนย์วัฒนธรรมตั้งแต่ปี ค.ศ. 2001 นับบัดนี้ก็สิบสองปีแล้ว ที่ดิฉันเรียกเขาเป็นพระเอกก็เพราะหนุ่มคนนี้เป็นนักระนาดเอก เกรดเอตั้งแต่เป็นนักเรียนตัวน้อยๆ จนบัดนี้เลื่อนตำแหน่งเป็นเกรดเอของวงดนตรีศูนย์ฯ และได้ข่าวว่าเลื่อนเป็นรองหัวหน้าฝ่ายดนตรีของศูนย์ฯ แล้วล่ะค่ะ

ขอทราบความรู้สึกที่มีต่อศูนย์วัฒนธรรมค่ะ

“ผมถือว่าศูนย์ฯ เป็นบ้านที่สองของผมครับ ดังนั้นแน่นอนว่าทุกคนที่อยู่ในศูนย์วัฒนธรรมก็คือพี่น้องของผม ผมมาอยู่ที่ศูนย์ฯ แทบทุกวีคเอ็นด์ และในวันธรรมดาที่ผมมาได้ผมก็มาเป็นประจำ”

อยากเห็นศูนย์วัฒนธรรมในอนาคตเป็นอย่างไร

“ผมเชื่อมั่นในศักยภาพของชุมชนไทยในเรื่องการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ผมเชื่อว่าเราจะไปได้อีกไกลหากเราร่วมมือร่วมใจกัน ผมอยากจะมีส่วนร่วมในการนำเสนอศิลปวัฒนธรรมไทยให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ในอเมริกาครับ”

ขอต่อเติมว่าดิฉันมีโอกาสได้ร่วมแสดงดนตรีกับแฟรงโก้ ทำให้นิยมชมชื่นในความสามารถของเขา เห็นได้ว่าแม้เขาจะไม่ได้มี่สายเลือดไทยโดยตรง แต่การที่เขามีความรักในวิถีไทย เข้ามาเรียนภาษาและวัฒนธรรมไทยและทำได้ดีกว่าคนไทยอีกมากมายถือเป็นสิ่งที่น่ายกย่องและสนับสนุน เป็นอีกดาวจรัสแสงของศูนย์วัฒนธรรมไทยในปัจจุบันและอนาคตทีเดียวค่ะ

แฟรงโก้เรียนจบจาก University of California, Berkeley มหาวิทยาลัยหนึ่งในทอปเท็นของอเมริกา จบสาขาสังคมสงเคราะห์

แฟรงโก้บอกว่าสาเหตุที่เลือกเรียนสาขานี้เพราะ

“ผมเกิดและเติบโตมาจากชุมชนที่ด้อยโอกาส ผมจึงต้องการศีกษาวิชาที่สามารถกลับไปช่วยเหลือเด็กๆ ในชุมชนของผมในอนาคต”

เขาตั้งใจจะเข้าศึกษาปริญญาโทต่อในสาขา Business Administration แต่ก่อนจะเข้าเรียนต่อเขาตั้งเข็มไว้ว่าจะขอท่องเที่ยวไปในโลกกว้างก่อน สองปีก่อนเขาไปเที่ยวเมืองไทย ปีที่แล้วเขาไปเรียนที่อังกฤษช่วงซัมเมอร์ ขณะนี้เขาได้งานทำชั่วคราวที่มหาวิทยาลัยเบิร์กเล่ย์ และแน่นอนว่าในงานละครใหญ่ของศูนย์ฯ เดือนตุลาคมที่ดิฉันเอ่ยข้างต้นนี้ ย่อมมีหนุ่มหล่อสาวหลงคนนี้แสดงด้วยแน่นอน

ขอแสดงความยินดีต่อทั้งน้องแอนนา น้องแอนจี้ และหนุ่มแฟรงโก้ ที่ตั้งใจศึกษาหาความรู้ทั้งในด้านวิชาการและมีส่วนในการสืบสานมรดกวัฒนธรรมของชาติไทยให้เป็นที่รู้จักกันในดินแดนสหรัฐอเมริกาแห่งนี้

ขอบคุณผู้ปกครองที่ปลูกฝังให้ทั้งสามได้รักในความเป็นไทย ขอบคุณผู้หลักผู้ใหญ่ของศูนย์วัฒนธรรมที่ให้กำลังใจและสนับสนุนให้นักเรียนของศูนย์ฯ ให้ได้ดีทุกคนค่ะ

ชมภาพของสองสาวและหนี่งหนุ่มได้ค่ะ เสียดายว่าเนื้อที่มีไม่มากทั้งๆ ที่มีภาพสวยๆ งามๆ ของทุกคนให้ชมมากกว่านี้


พบกันใหม่โอกาสหน้า สวัสดีค่ะ