กินรำทำเพลง เดอะซีรี่ส์
ไม่ได้เขียนคอลัมน์นี้มาตั้งแต่ปีที่แล้ว มัวแต่ส่งข่าวกิจกรรมสังคมเบย์แอเรีย ดังนั้น ฉบับนี้ ขอเขียนเรื่องราวนอกกิจกรรมสังคม มาเป็นเขียนกิจกรรมส่วนตัวกันบ้างนะคะ นึกขึ้นมาได้เราก็มีคอลัมน์ที่ทาง นสพ.ไทยแอลเอ เก็บไว้ให้ลงอยู่ ชื่อคอลัมน์ก็เก๋ย์ไก๋ไม่น้อย “กินรำทำเพลง เดอะซีรี่ส์” ไงคะ หากสนใจอยากอ่านย้อนหลังก็เข้าไปในเว็บไซต์ของไทยแอลเอได้เลยค่ะที่ www.thailanewspaper.com
เรื่องเล่าต่อไปนี้เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 14, 2024
วันนั้นเป็นวันหยุดโคลัมบัสเดย์ พรรคพวกชวนไปเยี่ยมเพื่อนคนหนึ่งที่เคยอยู่เมืองฟรีมอนต์มาสี่สิบกว่าปี ตัดสินใจย้ายเมืองไปซื้อบ้านหลังใหม่ในหมู่บ้านผู้สูงอายุที่เมืองเอลล์ โกรฟ ชักชวนพวกเราไปชมบ้านใหม่ บรรยายถึงบรรยากาศอันร่มรื่น สงบสยบผู้สูงวัย ดังนั้นบรรดาพวกเรา ส.ว. ในกลุ่มจึงไม่รอช้าโทรศัพท์ เอ..ไม่ใช่โทรศัพท์สิ ใช้ว่าไลน์แมสเสสจะดูทันสมัยกว่ามั้ยชักชวนกันไปเที่ยว นัยว่าเป็นการทัศนศึกษาเพื่ออนาคตอันใกล้นี้จะได้มาหาบ้านอยู่ใกล้ๆ กันในซีเนียร์คอมมิวนิตี้นี้
ในที่สุดคณะพรรคทัศนศึกษาชาวกินรำทำเพลง อายุอานามประมาณ หกสิบอัพ ก็ได้โอกาสรวบรวมพรรคพวกได้ 6 คน มี นา (จินตนา) แป้ม (กาญจนา) หมู (นพพร) ตา สุวิมล ธี (ธีรพงษ์) และผู้เขียน เดินทางด้วยมินิแวนโดยมี “ตา” เป็นสารถีพาเรามุ่งหน้าขึ้นเหนือสู่ Sacramento เมืองหลวงของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ลดเลี้ยวเคึ้ยวคดก่อนถึงเมืองหลวงมาถึงเมืองชื่อ Elk Grove เมืองเล็กๆ ที่เพิ่งจะเติบโตมีคนย้ายจากเมืองใหญ่ๆ มาอยู่มากขึ้น เชื่อหรือไม่ว่าครอบครัวหนุ่มสาวออกมาอยู่กันมากทั้งๆ แถวนี้ห่างไกลจากเมืองใหญ่ ต้องขับรถกันไปสองสามชั่วโมงจึงจะถึงที่ทำงาน แต่คนก็ยอมเพราะสู้ราคาบ้านในเมืองไม่ไหว
หมู่บ้านของติ๋ม (สมลักษณ์) เพื่อนรุ่นน้อง (รู้จักกันมาตั้งแต่เรียนที่มัธยมสวนสุนันทา) ในซีเนียร์คอมมิวนิตี้นี้สงบร่มรื่น น่าอยู่มาก ติ๋มพาเราเดินสำรวจเห็นว่าแต่ละบ้านต่างคนต่างอยู่กันเงียบๆ แต่ติ๋มเล่าว่าเห็นเขาอยู่ในบ้านเงียบๆ อย่างนี้ แต่พวกนี้ชอบสังคมนะ สถานที่ที่เขาจะไปสังคมรวมตัวกันก็จะเป็นที่คลับเฮ้าส์ของหมู่บ้าน ซึ่งก็มีสระว่ายน้ำ มีห้องออกกำลังกาย ห้องสังสรรค์ ซึ่งที่นี่แหละติ๋มบอกว่าจะเป็นแหล่งซุบซิบเรื่องราวทั้งหลาย แรกๆ ที่ติ๋มเข้าไปอยู่ก็ลองไปร่วมกิจกรรมดู แล้วก็บอกไม่ไหวต้องชะแว้ปออกแล้วไม่กลับไปอีก เพราะแต่ละคนซักไซ้ไล่เลียงแบ็คกราวด์ติ๋มกันอย่างนักสืบ และบังเอิญจิมสามีฝรั่งของติ๋มก็ไม่ชอบสังคมแบบนี้ก็เลยไม่ไปสุงสิงกันที่นั่น ผู้เขียนฟังติ๋มเล่าแล้วก็ขำๆ นึกไปถึงซีรี่ส์เรื่อง Bewitched ที่มีเพื่อนบ้านคอยสอดส่องดูว่าเราจะทำอะไร
แต่นี่ก็คือชีวิตยามชราที่น่าเหงาของอเมริกันชนที่ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นยามเกษียณ การเอาใจใส่เรื่องราวของชาวบ้านคืองานถนัด วันนั้นเราเดินเล่นสำรวจหมู่บ้านซึ่งอยู่ติดกับทะเลสาปเล็กๆ ที่ทางหมู่บ้านขุดไว้เพื่อความสวยงาม (และขายในราคาแพงหากต้องการซื้อบ้านติดกับแมนเมดเลคนี้) เราเดินกันกลางถนนยังกับเป็นที่ส่วนตัวของเรา พอมีรถผ่านมาเราก็หลบ และรถที่ขับผ่านก็เปิดกระจกมาโบกมือทักทายกับเรา สนุกสนานกัน
หลังบ้านของติ๋มมีต้นพุดทราจีนที่เจ้าของเก่าปลูกไว้ ติ๋มไปเก็บมาทำพุดทรากวน รสชาติอร่อยมาก เรากินข้าวมันไก่ที่ติ๋มทำเตรียมไว้ให้ รับประทานอาหารกลางวันเสร็จ นั่งคุยกันสักพัก ติ๋มก็พาเราไปชมเมือง นัยว่าอยากให้พวกเราได้เห็นและเผื่อจะชอบจะได้ย้ายมาอยู่กันแถวๆ นี้ เมืองนี้ยังเป็นเมืองเล็กๆ ยังไม่มีศูนย์การค้าใหญ่ๆ มาเปิด มีแต่ร้านเล็กๆเช่น Ross, TJ Max, Kohl, Target, Walmart , Costco , Nordstrom Rag , Macy’s สาขาเล็กๆ แต่ผู้เขียนเชื่อว่าอีกไม่นานเกินรอเมืองนี้คงจะเติบใหญ่จนมีศูนย์การค้าใหญ่ๆ สนใจมาลงทุนเปิดแน่ๆ
ทัศนศึกษาเมืองจนทั่ว พลพรรค ส.ว. เริ่มหิวอีก ติ๋มบอกจะพาไปกินปลา ไอ้เราสะดุ้งโหยง อ๊าย ! น้องเอ๊ย เพิ่งกินข้าวมานะ เธอบอกเดี๋ยวพี่ไปเห็นพี่จะชอบปลาร้านนี้แน่ เราหลงเชื่อว่าร้านนี้ขายปลา ยังสงสัยว่าปลาอะไรเนาะคนเต็มร้าน ที่ไหนได้โดนน้องหลอก มันคือวอร์ฟเฟิ้ลทำเป็นปลามีใส้ครีมต่างๆ ให้เลือก เออ..ช่างหากินเนาะ เอ้า ! แค่นั้นไม่พออิ่มหรอก พรรคพวกเดินไปต่อที่ร้านแบมบู หาน้ำหวานรสต่างๆ กินกันปิดท้าย
จบทัวร์แบบกิน (ขาดแต่รำทำเพลง) ประการฉะนี้
กลับบ้านพร้อมกับอิ่มเอมที่ได้ไปเพิ่มเติมประสบการณ์ในวันโคลัมบัสเดย์ ไว้โอกาสหน้าจะมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับ กิน รำ ทำ เพลง อีกนะคะ