๑ ค่าต้นทุนเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ ในการผลิตไฟฟ้า ในสัดส่วน๒๗%ของค่าเอฟที
๒ ต้นทุนการรับซื้อไฟฟ้าจากเอกชนในสัดส่วน ๗๒%ของค่าเอฟที กฟผ รับซื้อไฟจากบริษัทเอกชน ในราคาที่สูงขึ้นเรื่อยๆ โดยที่ทำให้เอกชนที่ผลิตไฟฟ้ามีกำไรเพิ่ม เช่น บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด บริษัท EGCO
๓ ชดเชยค่าไฟฟ้าพลังงานทดแทน และอื่นๆตามนโยบายรัฐ ๑%
เมื่อเข้าไปดูการรับซื้อไฟฟ้าจากเอกชน พบว่า กฟผ รับซื้อในราคาที่สูงกว่า บริษัทเอกชน อื่นๆ คืออยู่ที่ ๓.๐๕๖๙ บาทต่อหน่วย เอกชนรายอื่นอยู่ที่ ๐.๗-๒.๖๗๒๘ บาทต่อหน่วย ( เอกสารแนบ ๑ ) เมื่อเข้าไปดูรายชื่อกรรมการปรากฎชื่อ นายนายคุรุจิต นาครทรรพ เป็นประธานกรรมการ ซึ่งมีตำแหน่ง เป็นรองปลัดกระทรวงพลังงาน และกรรมการในคณะกรรมการ กฟผ. ซึ่งถือเป็นผลประโยชน์ทับซ้อน กรรมการใน ราชบุรีโฮลดิ้งมี หลายคนที่เป็น เจ้าหน้าที่ในกฟผ. ตามข้อมูลด้านล่างนี้
เช่นเดียวกัน บริษัทEGCO (เอ็กโก) (รับซื้อค่าไฟฟ้า จากเอกชนในราคา ๒.๔๘-๒.๖๗ บาทต่อ หน่วย ในส่วนที่แพงกว่าหลายบริษัท รองจากบริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรี ) มีบริษัทในเครือคือ RY= บริษัทผลิตไฟฟ้าระยอง, NK = บริษัทผลิตไฟฟ้าขนอม, GPG = บริษัทกัลลฟ์ เพาเวอร์ เจเนอเรชั่น จำกัด มี นายพรชัย รุจิประภา เป็นประธานคณะกรรมการ และยังเป็นอดีต ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน คณะกรรมการ กฟผ.
(อ้างอิงhttp://www.set.or.th/set/companyhighlight.do?symbol=EGCO&language=th&country=TH)
กฟผ ประกอบด้วยประธานคณะกรรมการคือ นายพรชัย รุจิประภา และรองประธาน ได้แก่นายคุรุจิต นาครทรรพ ทั้งสองคนได้รับผลประโยชน์ในรูปโบนัสมากน้อย ตามกำไรบริษัทเอกชนที่เป็นกรรมการ
http://gphone.prd.go.th/dp.php?MID=22&DID=178
อ้างอิง -http://www.set.or.th/set/companyprofile.do?symbol=RATCH&language=en&country=US
-http://www.set.or.th/set/companyprofile.do?symbol=EGCO&language=th&country=TH
ดังนั้น ความผิดปกติของการเจรจารับซื้อไฟฟ้า จึงเป็นการปฏิบัติ หน้าที่เอื้อ ธุรกิจเอกชน และมีผลประโยชน์ทับซ้อนของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ถูกกฎหมาย เนื่องจาก รัฐบาลได้แก้ไข ข้อกฎหมาย ไว้แล้วใน พรบ
ดังนั้นเหตุของความเดือดร้อนของประชาชนมาจากผลประโยชน์ทับซ้อนที่ถูกกฎหมายของ นักการเมือง ข้าราชการที่สร้างเกณฑ์ให้เอื้อต่อการมีผลประโยชน์ทับซ้อนที่ถูกกฎหมาย มาทุกสมัย1 สมัยชวน หลีกภัย กฎหมาย พรบ. ปปช พศ 2542 มาตรา 102
มาตรา 100 ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดดำเนินกิจการดังต่อไปนี้
(1) เป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐ ที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่
(2) เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่เข้าเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ
(3) รับสัมปทานหรือคงถือไว้ซึ่งสัมปทานจากรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจหรือราชการ ส่วนท้องถิ่น
(4) เข้าไปมีส่วนได้เสียในฐานะเป็นกรรมการ ที่ปรึกษา ตัวแทน พนักงานหรือลูกจ้างในธุรกิจของเอกชน ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับ ดูแล ควบคุม
มาตรา 102 บทบัญญัติมาตรา 100 มิให้นำมาใช้บังคับกับการดำเนินกิจการของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม หรือตรวจสอบการดำเนินงานของบริษัท จำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัดมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ในบริษัทจำกัดหรือบริษัท มหาชนจำกัด ที่หน่วยงานของรัฐถือหุ้นหรือเข้าร่วมทุน
2 สมัย สุรยุทธ จุลานนท์ แก้ไข ให้อำนาจ ข้าราชการ มีผลประโยชน์ทับซ้อนที่ถูกกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2550 มาตรา 5 กรรมการของรัฐวิสาหกิจ..(10) ไม่เป็นกรรมการ หรือผู้บริหาร หรือผู้มีอำนาจในการจัดสรร หรือมีส่วนได้เสียในนิติบุคคลซึ่งเป็นผู้รับสัมปทาน ผู้ร่วมทุน หรือมีประโยชน์ได้เสียเกี่ยวข้องกับกิจการของรัฐวิสาหกิจนั้น เว้นแต่ เป็นประธานกรรมการ กรรมการ หรือผู้บริหารโดยการมอบหมายของรัฐวิสาหกิจนั้น