ท่องไปในซานฟรานฯ
นายรุงรัง



ท่องไปในซานฟรานฯ 26 กันยายน 2563

ไฟป่ายังคงแผลงฤทธิ์เดชในแคลิฟอร์เนีย โอเรกอนและวอชิงตัน เป็นเวลายาวนานหลายเดือน โดยมีนักผจญเพลิงกว่า16,000พันนายเป็นทัพหน้า มีพื้นที่ความเสียหายกว่าสามล้านเอเกอร์ ขณะที่หุ้นดัง ติ๊กต๊อกถูกขายให้ออราเกิลไปเรียบร้อยแล้ว บริษัทแอสตร้าเซนเอเนก้า ประกาศทดลองวัคซีนแก้โควิด-19 ในมนุษย์กว่าหมื่นรายโดยไม่มีผลข้างเคียง เศรษฐกิจไทยเดี้ยงมาเป็นเวลา 9 เดือนแล้ว ยังไม่มีทีท่าจะฟื้นตัว ทั่วโลกเสียหายไปแล้วกว่า 2 ล้านๆกว่า มูลค่ามวลรวมจากโควิด-19 โดย IMF เปิดเผยว่าอีก 2 ปีทั่วโลกจะเสียหายกว่า 11 ล้านๆดอลล่า ทั้งนี้ยังไม่รวมความเสียหายจากสงครามการค้าสหรัฐและจีนซ้ำเติมเศรษฐกิจโลก โดยไทยเสียหายไปกว่า 3.3 ล้านล้านบาท จากการส่งออกและการท่องเที่ยว ซึ่งมีมูลค่าเท่ากับงบประมาณของไทยในปีนี้ ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกตกมาอยู่ที่ $45.00 ต่อบาเรล ....................

มัวแต่แก่งแย่งตำแหน่งกัน งบประมาณช่วยเหลือผู้พิการและผู้สูงอายุ ล่าช้าเป็นเดือนทั้งๆที่มีการตั้งงบประมาณไว้ล่วงหน้า แต่ผู้ปฏิบัติงานไม่สนใจผลักดัน ใส่เกียร์ว่างตั้งแต่เบอร์ 2 ที่อยากขึ้นมาเป็น 1 แต่ไม่ยอมแสดงฝีมือขณะที่ลิ่วล้อรอบๆกายก็ได้แต่นั่งรอคำสั่ง ในยามบ้านเมืองเกิดวิกฤต เหมือนเป็นการตอกย้ำให้รัฐบาลตกต่ำ มาร่วมกันวิเคราะห์กลุ่มคนที่ว่าควรโล๊ะทิ้งออกไปได้แล้ว เพราะไม่ตอบสนองนโยบายของรัฐ อเมริกันประกาศจ้างงานล้านตำแหน่ง ขณะที่พนักงานโรงแรมไทยก็ตกงานไปแล้วล้านตำแหน่ง รัฐบาลไทยเตรียมจ้างแรงงานสองแสนหกหมื่นตำแหน่ง โดยมีบริษัทซีพีจะจ้างงาน 28000 ตำแหน่ง และกระทรวงแรงงานจะจ้างงานอีก 50000 ตำแหน่ง สิงค์โปร แอร์ไลน์ ประกาศลดคนงาน 4300 ตำแหน่ง ส่วนการบินไทยถึงยังไม่ได้ทำกานบินแต่ได้เปิดร้านกาแฟ ขายปลาท่องโก๋ และขายอาหารอีกหลายสาขา เป็นการหารายได้ช่วยตนเอง น่าอิจฉาพี่ป้าน้าอาที่เมืองไทยได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลมานานหลายเดือน ทั้งกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ผู้สูงอายุและผู้พิการตลอดจนพ่อค้าแม่ขายแผงลอย รวมทั้งชาวไร่ชาวนาชาวประมง ตลอดจนพวกหาเช้ากินค่ำ ในขณะที่นักการเมืองอเมริกันมีแต่ปากพล่อยไม่คิดห่วงใยพลเมืองอเมริกันที่กำลังเดือดร้อน อดอยากหิวโหย อย่าไปเลือกไอ้พวกนี้เข้ามาอีกเด็ดขาด..........................

ในที่สุดเยอรมันและอังกฤษก็ปลดล็อกอนุมัติให้คนไทยเดินทางเข้าประเทศได้แล้ว จากการบริหารจัดการโควิด-19 ได้อย่างเด็ดขาด ติดตามภาพข่าวการชุมนุมของขบวนการปลดแอกเมื่อปลายสัปห์ดาที่ผ่านมา มันคงเป็นภารกิจของพ่อแม่พี่ป้าน้าอาที่ออกมาเตือนสติน้องๆอย่างได้ผล โดยภาพรวมผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุใส่เสื้อแดง ทำให้ผู้ติดตามข่าวโล่งอกโล่งใจ ไม่มีเหตุการณ์ปะทะกันอย่างที่หลายๆฝ่ายหวาดกลัวกัน เลยตัองขอบคุณผู้เข้าร่วมชุมนุมและเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่เอื้อเฟื้อต่อกันจนทุกอย่างจบลงด้วยความสงบ ไม่ต้องหนีเข้าป่าเหมือนเหตุการณ์ที่ 44 ปีที่ผ่านมา เหตุการณ์ร้ายๆที่หลายคนใจจดใจจ่อผ่านได้อย่างน่าชมเชยโดยไม่มีความรุนแรง เราเรียกว่าอยู่ให้เป็น ใจเย็นให้พอ และรอข่าวดีให้ได้ เพราะถ้าปล่อยให้การชุมนุมให้เดินหน้าต่อไปก็จะเกิดความรุนแรงเข้าแผนผู้อยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน.................................

ความช่วยเหลือคนตกงานงวดที่ 2 รัฐบาลสหรัฐเริ่มแจกจ่ายออกมาแล้วตกอาทิตย์ละ $300.00 และในเดือนตุลาคมจะเพิ่มขึ้นเป็น $450.00 ส่วนเงินช่วยเหลือ Stimulus Check $1,200 ต่อคนกำลังอยู่ในการพิจารณา ในขณะที่การระบาดของโควิด-19 ในอินเดียตก 9 หมื่นคน ฝรั่งเศสหมื่น และในสหรัฐ 3 หมื่นรายต่อวัน โดยมีผู้ติดเชื้อแล้ว30ล้านคน ชาวแคลิฟอร์เนียติดเชื้อระบาดโควิด-19 เข้าไปกว่า 7 แสนราย นำหน้านิวยอร์กไปแล้ว ขณะที่ธรรมชาติโหดก็รุมเร้าชาวโลก ทั้งแผ่นดินไหวทั้งเฮอริเคน พายุดีเปสชั่น และทอนาโด ตลอดจนการส่งกองบินเข้าถล่มในหลายพื้นที่ของโลก มีการแพร่เชื้อมากขึ้นในหลายประเทศ อย่างในประเทศพม่าที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นกว่าครึ่งหมื่น และการที่สหรัฐขอให้ไทยยกเลิกการแบนสารพิษยาฆ่าหญ้าอย่างสารไกรโฟเซตที่เคยถูกแบนไปแล้ว โชคดีของเด็กอเมริกันรัฐบาลสั่งยกเลิกหนี้เงินกู้ของเด็กนักศึกษาคนละห้าหมื่นดอลล่านับเป็นข่าวดีเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา.........................

มีรายงานข่าวผลกระทบจากไฟป่าที่เผาผลาญไปทั้ง 3 รัฐ มีเนื้อที่ความเสียหายกว่า 3 ล้านเอเกอร์ มีประชาชนได้รับความเสียหายเดือดร้อนมากมายรวมถึงคนไทยอีกหลายครอบครัว อาทิ ป้าอารี คนไทยในแคลิฟอร์เนียภาคเหนือที่มีอายุมากแล้ว หมดเนื้อหมดตัว ประกันไฟบ้านก็เพิ่งจะหมดลงไปก่อนหน้าเกิดไฟป่า เลยไม่ได้รับการช่วยเหลือจากบริษัทประกันภัย ส่วนรายที่ 2 เป็นสาวไทยจากโอเรกอน กำลังท้อง 8 เดือนใกล้คลอดแล้วกลับจากทำงานไม่เหลือบ้านให้เข้าไปอยู่อาศัย แม้แต่เครื่องใช้สอยของเด็กอ่อนที่เพิ่งซื้อมาเตรียมไว้ก็มอดไหม้ไปกับกองเพลิง เราจะร่วมด้วยช่วยกันอย่างไรมีองค์กรใดบ้างที่จะยื่นเมือออกมาช่วย? พวกเรายังคงประเชิญกับความท้าทาย ทั้งการระบาดจากโควิด-19 และเศรษฐกิจที่แร้นแค้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะก้าวผ่านมันไปได้ พวกเราต้องตั้งสติและพิจารณา เพราะทุกปัญหามีคำตอบ เพื่อนเราหลายๆคนเลือกที่จะตัดสินใจบินกลับเมืองไทย เราเข้าใจและเคารพในการตัดสินใจของเพื่อนเรา เพราะเขายังมีญาติพี่น้องอยู่ที่นั่น บางคนตัดสินใจขายบ้าน เพื่อนำเงินกลับไปใช้จ่ายเลี้ยงดูตนเองที่เมื่องไทย บางคนก็เล่าว่าอยู่อเมริกาตอนนี้เหงามาก ต่างคนต่างอยู่ไม่มีใครต้อนรับ รอไปอีกหน่อยเหตุการณ์ก็จะดีขันไปเอง ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนเดี๋ยวมันก็ผ่านไปเอง ขอให้ทุกๆคนโชคดี...........................