ท่องไปในซานฟรานฯ
นายรุงรัง



ท่องไปในซานฟรานฯ 19 กันยายน 2563

ท้องฟ้าแดงฉาน เมื่อมองผ่านหน้าต่างหน้าบ้านยามเช้าตรู่ ขี้เถ้าคล้ายเมล็ดทรายกองเต็มบันไดขึ้นบ้าน รถยนต์ที่จอดอยู่ข้างบ้านเพิ่งล้างมา เลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปทั้งคัน จากไฟป่าที่เผาผลาญ แคลิฟอร์เนียภาคเหนือไปแล้วกว่าสองล้านเอเกอร์หรือประมาณห้าล้านไร่ แล้วลามปามต่อขึ้นไปทำลายล้างบ้านเมืองในรัฐออริกอนอีกกว่าล้านเอเกอร์ โดยทางภาคใต้ไฟป่าก็เผาผลาญไปกว่าห้าหมื่นเอเกอร์ และยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงแต่อย่างไร ย้อนกลับไปมองบ้านเราที่เมืองไทย สมรภูมิรบเกิดขึ้นทั้งในและนอกรัฐสภา ข้างในก็ด่าทอโจมตี จะบดให้แก้รัฐธรรมนูญ ส่วนข้างนอกก็จัดชุมนุมยื่นให้ยุบสภาและหมิ่นสถาบัน แล้วมีการเตรียมการชุมนุมใหญ่อาทิตย์นี้ ประกาศจะยึดท้องสนามหลวงว่ากันให้สนุกไปกันทีเดียว ทำแบบพวกมากลากไปเปลี่ยนใจไม่คิดจะกลับเมืองไทยแล้วเรา......................

โควิด-19 กำลังจะเปลี่ยนมือของมหาอำนาจโลก ใครคิดใครทำวัคซีนขึ้นมาได้ก่อน นอนเตียงนุ่มๆไปทีเดียว ทำเอาตอนนี้รัฐบาลไทยเหมือนหยุดเวเคชั่นไปเลย เศรษฐกิจเลยเดินสดุด ไม่มีรายได้จากการท่องเที่ยว การส่งออกก็ชะงัก คิดว่าจะหารายได้มาจากไหน ขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังจะออกกฏหมายเก็บภาษีจากบริษัทอเมริกัน ที่ไปเปิดโรงงานในต่างชาติแต่กลับลอยคอแรงงานอเมริกัน ทั้งหุ้นทั้งน้ำมันกำลังร่วง มีแต่ทองคำที่ทำว่าจะขยับตัวขึ้นไปอีก เลือกตั้งประธานาธิบดีอีกเดือนกว่า ทรัมป์ยังวิ่งไล่ตามไม่เห็นฝุ่น โควิด-19 ยังระบาดมากขึ้นในหลายประเทศ อย่างพม่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นวันละกว่าร้อย ทำให้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างไทยหายใจไม่ทั่วท้อง ไหนจะศึกนอก ศึกในแล้วยังกังวลใจโควิด-19.......................

วงการหมอนวดไทยทั้งในซานฟรานฯ ซานตาโรซ่า และซานโฮเซ่ กำลังเซหนักเพราะมีแต่รายจ่าย ไม่มีรายได้ในขณะที่ทั่วโลกมีการระบาดโควิด-19 มากถึง 29 ล้านราย อเมริกันปาเข้าไปเจ็ดล้าน เรียกว่าสามวันล้านเชียวละ รายงานข่าวเศรษฐกิจบริษัทแอ๊ปเปิ้ลเป็นบริษัทที่มั่งคั่งที่สุดของโลก ขณะที่เฟสบุ๊คควักทุนซื้อหุ้นในไฮเทคหลายแห่ง โดยมีอเมซอนมีสินค้าจำหน่ายขายดีที่สุด แม้แต่หุ้นติ๊กต๊อกก็มีหลายบริษัทใหญ่แย่งกันซื้อในราคาห้าหมื่นล้านดอลล่า ทั้งๆที่มีอาณาเขตแค่ในสหรัฐ แคนาดา และนิวซีแลนด์ เท่านั้น โดยทำรายได้เพียงพันล้านเท่านั้น..........................

หลายประเทศกำลังทุ่มทุนแข่งขันเป็นผู้นำในการผลิตวัคซีน เช่น สหรัฐ จีน อังกฤษ รัสเซีย มองดูว่าสิ้นปีนี้จะมีข่าวดีมั้ย มีการคาดเดาว่าโควิด-19 จะอยู่กับเราไปอีก 5 ปี คาดว่าจะมีผู้ติดเชื้อราวห้าร้อยล้านราย อัตราการเพิ่มหนี้ของประชากรโลกเพิ่มขึ้น ขณะที่เหล่าชาติเล็กๆด้อยพัฒนาต้องทำการกู้ยืม ส่วนประเทศมหาอำนาจพิมพ์แบ๊งค์กันขึ้นมาใช้จนเพลิน ทำให้ก้อนหนี้โตขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าฟองสบู่จะแตก มีรายงานข่าวว่าหน่วยงานของสหรัฐ ตรวจสอบและจับกุมผู้ขอกู้กองทุนพีพีพี โดยถูกจับไปแล้ว 57 ราย และอีกนับร้อยรายกำลังถูกสอบสวน โดยมีบางคนกู้ไปถึง 24 ล้านดอลล่า ด้วยข้อมูลเท็จ.........................

สายการบินนกแอร์เหยื่อโควิด-19 รายล่าสุดปิดตัวไปแล้ว คาดว่าจะมีตามมาอีกเพียบ ส่วนนักลงทุนนั้น ถ้าค่าเช่าเก็บไม่ได้ก็ไม่มีค่าดอกเบี้ยเอาไปจ่ายธนาคาร คงตกชะตาเดียวกันกับผู้เช่านั่นแหละ ดิน น้ำ ลม ไฟ ธรรมชาติโหด อุทกภัยในซูดานและหลายชาติในอัฟริกา หลายชาติกำลังน้ำตานองหน้า โควิด-19 ระบาดหนักในอินเดียและอังกฤษกลายเป็นโศรกนาฏกรรมยิ่งใหญ่ขณะนี้ ได้ฟังคำปราศรัยของนักเรียนมัธยมสาวบนเวทีพูดออกมาว่า เรื่องเพศศึกษา เราก็ช่วยตัวเองได้อยู่แล้ว การมีเพศสัมพันธ์ก็เอาไอ้จ้อนใส่อีจิ๋มมันจะยากอะไร ไปกันไกลขนาดนี้แล้วหรือ..................

มีรายงานว่าอดีตดาราสาวตกกระป๋อง ออกมาสนับสนุนการจัดการชุมนุมใหญ่ บริจากหมูตันครึ่ง ผัก 2 ตัน ข้าวสาร 5 ตัน และไข่อีก 30,000 ฟอง เพื่อเป็นอาหารจัดเลี้ยงม็อบ โดยมีข่าวว่าค่าใช้จ่ายผู้มาชุมนุมตกหัวละ 200 บาทต่อวัน โดยคาดว่าจะมีคนมาร่วมปาหี่ 70,000 ราย ตกวันละ 14 ล้านบาท รวม 2 วัน 28 ล้านบาท ไหนจะค่ารถปั่นไฟ รถห้องน้ำ รวมๆแล้ว 30 ล้านบาทไม่หนี แค่นี้ขนหน้าแข้งนายทุนไม่ร่วงแน่นอน ตัวการร่วมประมวลกฏหมายอาญา ม.83 ผู้ใดให้การสนับสนุนเป็นท่อน้ำเลี้ยงม็อบต้องได้รับการลงโทษไปด้วยในฐานะร่วมกระทำผิด นายศรีสุวรรณ จรรยา จะไปฟ้องร้องต่อ ปปง. เด็กอเมริกันติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น 40 % หรือราว 97,000 รายในช่วงเปิดเทอม ทำให้เด็กๆหลายรัฐต้องกลับมาเรียนออนไลน์ที่บ้าน ร้านค้าร้านอาหารแทบทุกรัฐปิดกิจการอย่างถาวรอย่างน้อยร้อยล้านในแต่ละเมือง.......................

บรรยากาศการเมือง ย้อนกลับไปเมื่อ 6 ตุลาคม 2519 เมื่อสามเณร ถนอม กิตติขจร เดินทางกลับสู่ประเทศไทย เป็นสาเหตุให้นิสิตนักศึกษา จัดการชุมนุมประท้วงใหญ่ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยภายนอกมีร่างชายหนุ่มไร่วิญญาณถูกแขวนไว้พร้อมถูกเศษไม้ทิ่มแทงร่างกายแม้ปราศจากลมหายใจ โดยใบหน้าของศพถูกตบแต่งให้คล้ายกับบุคคลสำคัญในราชวงค์ โดยมีการประโคมข่าว จากสถานีวิทยุและหนังสือพิมพ์บางฉบับ ยุยงให้นักเรียนอาชีวะและลูกเสือชาวบ้าน เป็นแกนนำบุกเข้าไปในธรรมศาสตร์ โดยปลุกระดมว่าข้างในมหาวิทยาลัยมีทั้งคอมมูนิตและกลุ่มทหารเวียตนามส้องสุมกำลังอยู่ภายใน เหล่านิสิตนักศึกษาถูกปราบปราม นักศึกษาชายและนิสิตหญิงต้องถอดเสื้อทิ้ง โดยนิสิตหญิงใส่แค่เสื้อชั้นใน เพื่อเป็นการตรวจค้นอาวุธ โดยทั้งหมดต่างถูกบังคับให้คลาน 4 ขาเป็นแถวอยู่เต็มสนามหญ้า ก่อนถูกต้อนให้ขึ้นรถบัสพาไปสอบสวน บรรยากาศในวันนั้นก็ไม่ต่างจากวันนี้เท่าไหร่ แม้เวลาจะผ่านพ้นมาแล้ว 44 ปี ที่เขียนมานี้ก็แค่อยากจะเตือนสตินิสิตนักศึกษาให้กลับไปศึกษาประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา.......................

ตอนนี้ใครที่มีเงินสดเก็บไว้ในบ้านไม่เกิดดอกผลอะไร จะเอาไปฝากธนาคารดอกเบี้ยก็นิดเดียว จะเอาไปลงทุนซื้อหุ้นก็ไม่แน่ว่าจะหมดหรือเปล่า ที่น่าสนใจตอนนี้ก็คือทองคำ เริ่มกลับมาทำกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการลงทุนอีกอย่างคือการเข้าไปซื้อเงินคริปโต้ บริคอร์ย หรือเงินตราเท็คโน ซึ่งสามารถลงทุนจำนวนเท่าใดก็ได้ แค่ตั้งระหัสและจำไว้ให้ได้ บินไปประเทศไหนก็เบิกได้ และทุกๆ 4 ปีค่าของมันจะเพิ่มขึ้น มูลค่าของมันจากร้อยดอลล่าเคยเพิ่มขึ้นไปเป็นหมื่นดอลล่า เคยทำสถิติมาแล้ว การลงทุนก็นซื้อได้ตามตู้จำหน่ายตามตลาดทั่วไป แค่แนะนำแต่ไม่รับประกันนะ........................

หลายๆรัฐประชาชนประท้วงไม่ยอมสวมหน้ากากอนามัย อย่างอาคันซอ จอร์เจีย ฟอริด้า เกิดการกระทบกระทั่งกัน ทั้งในศูนย์การค้าและร้านอาหาร ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตมีจำนวนพันคนต่อวัน