ซุปเปอร์แพท
ปิยะพัชรี ศิลปี



ทุเรียนหอม VS. ทุเรียนเหม็น!

เขียนบทความนี้ขึ้นมาเพราะ ได้รับเชิญไปทานอาหารที่บ้านเพื่อนรุ่นน้อง มีอาหารทั้งของคาว และ ของหวาน อร่อยลิ้นมาเป็นชะนวนที่ให้เขียนถึงราชาผลไม้ “ทุเรียน” ที่เป็นหนึ่งในของหวานวันนั้น ข้าวเหนียวทุเรียน ของโปรดเจ้าค่ะ มีคุณผู้ชายเจ้าของบ้านคนเดียวที่ไม่ทานทุเรียน บ่นว่าเหม็นจึงทานไม่ได้ ทำให้มีบทความเรื่องนี้

ในขณะเดียวกันฤดูนี้เป็นฤดูผลไม้ที่มีทุเรียนเป็นพระเอกซะด้วยจึงทันต่อเหตุการณ์ ไม่ตกเทรนด์ เรามาหาข้อมูลพร้อมๆกัน ปรึกษาอากู๋ ที่มีหลายบทความที่วิเคราะห์กันไปต่างๆนานาว่าเค้าว่ากันอย่างไรบ้าง หนึ่งบทความที่น่าสนใจจึงนำมาลงให้อ่านกัน ขอขอบคุณเจ้าของบทความมา ณ.ที่นี้ด้วย...เค้าว่ายังงี้นะเจ้าคะ..

ในขณะที่กลิ่นบางกลิ่นส่งผลต่อทุกผู้ทุกคนแบบเดียวกัน เช่น ของบูดเน่า ใครได้กลิ่นก็เบ้หน้าร้องยี้บอกว่าเหม็น กลิ่นดอกไม้อ่อนๆ ใครๆ ก็ยอมรับว่าหอม แต่กลับมีอีกบางกลิ่นที่ส่งผลต่อคนชนิดตรงข้ามสุดขั้ว บางคนบอกว่าหอมมาก บางคนบอกเหม็นจะตาย ตัวอย่างที่ชัดเจนคือกลิ่นทุเรียน พูดถึงปุ๊บจะมีการแบ่งแยกเป็นสองฝ่ายชัดเจนคือฝ่ายที่ชอบ หอมฉุยออกขนาดนี้ กับฝ่ายที่เกลียดเพราะมันเหม็นสุดๆ

คนช่างสงสัยเลยพยายามหาสาเหตุว่าเป็นเพราะอะไร ทำไมกลิ่นเดียวกันจึงก่อให้เกิดปฏิกิริยาการรับรู้สองแบบที่สุดโต่งได้ขนาดนี้ โดยมีหลายทฤษฎีที่ยกมาใช้ไขข้อข้องใจ ตั้งแต่ทฤษฎีว่าด้วยวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ วัฒนธรรม ที่ระบุว่าความหอม-เหม็นของคนเรานั้นถูกหล่อหลอมพัฒนาจากสังคมและความเป็นอยู่ พูดง่ายๆ คนที่โตมาในสวนทุเรียน คุ้นเคยกับทุเรียนมาแต่อ้อนแต่ออกจะมีความคุ้นชินกับกลิ่นทุเรียน จนรู้สึกว่ามันหอมดี ในขณะที่ชาวตะวันตกซึ่งไม่เคยพบเจอทุเรียนมาก่อนในชีวิต วันหนึ่งเมื่อได้กลิ่นก็อาจจะเหม็นมากจนทนไม่ไหว (เนื่องจากทุเรียนมีกลิ่นที่รุนแรง) แต่ก็มีข้อโต้แย้งว่าคนที่อยู่กับทุเรียนมาทั้งชีวิตบางคนก็ยังคิดว่าทุเรียนเหม็นอยู่ดี

โยงไปยังอีกทฤษฎีย้อนไกลถึงสมัยอริสโตเติล โดยเขาระบุว่าในบรรดาความรู้สึก 5 อย่างของมนุษย์ คือ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส นั้น กลิ่นกับรส “บางครั้งจะถือเป็นความรู้สึก 1 อย่างแทนที่จะเป็นความรู้สึกแยกกัน 2 อย่าง” โดย 75% ของสิ่งที่เรากินและลิ้มรสเป็นผลสืบเนื่องกับความรู้สึกเรื่องกลิ่น ฉะนั้น มีแนวโน้มว่าคนที่คิดว่ากลิ่นทุเรียนหอม เป็นเพราะเคยกินทุเรียน รับรู้ว่าทุเรียนอร่อย เลยโยงรสชาติความอร่อยเข้ากับกลิ่น ในขณะที่คนที่คิดว่าทุเรียนเหม็นก็มักจะไม่กินทุเรียน ไม่เคยรับรู้รสชาติ ได้กลิ่นอย่างเดียวก็แย่แล้ว ซึ่งมีความเข้าเค้าอยู่ เพราะบางคนบอกว่าให้นั่งในห้องสองต่อสองดมกลิ่นทุเรียนเฉยๆ ก็ไม่ไหว แต่ถ้าอนุญาตให้กินทุเรียนได้ กลิ่นที่เคยคิดว่าไม่ไหวนั้นจะดีงามขึ้นมาทันที แต่ก็อีกนั่นแหละ ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นแบบนี้ทั้งหมด

“ทำไมบางคนได้กลิ่นทุเรียนแล้วหอม บางคนเหม็น” คนเรามียีนในการรับกลิ่นที่แตกต่างกัน และการที่แต่ละคนจะได้กลิ่นอะไรหรือไม่ได้กลิ่นอะไรก็ขึ้นอยู่กับว่าเรามียีนแบบไหน แต่จะให้เจาะลึกลงไปถึงขั้นที่กลิ่นเดียวกันทำไมบางคนหอมบางคนเหม็น ยังเป็นเรื่องที่ต้องค้นคว้าวิจัยกันอีกยาวไกลเพราะคนเรามียีนในการรับกลิ่นมากมายมหาศาล ที่แน่ๆ คือคนที่คิดว่าทุเรียนหอมจะต้องมียีนในการรับกลิ่นคนละแบบกับคนที่คิดว่าทุเรียนเหม็นแน่นอน

กลิ่นทุเรียนแบ่งเป็น 2 กลุ่มชัดเจน ได้แก่ กลุ่มกลิ่นเหม็น คือกลุ่มที่มีความเป็นกำมะถัน เช่น กลิ่นหัวหอม กลิ่นผักกะหล่ำ กลิ่นแอลกอฮอล์เอทานอล ที่มีลักษณะฟุ้งกระจายได้เร็ว ลอยไปในอากาศได้ไกล เหมือนก๊าซจำพวกโพรเพน ที่เราได้กลิ่นแล้วสมองจะสั่งงานให้ร่างกายรู้สึกระวังและกลัว เพราะเป็นกลิ่นฉุนที่มีอันตรายต่อร่างกาย กับกลุ่มกลิ่นหอม คือกลุ่มกลิ่นผลไม้สุก กลิ่นคาราเมล กลิ่นชินนามอน กลิ่นสับปะรด ซึ่งเป็นกลิ่นหอมหวานกระตุ้นให้อยากอาหาร

และก็ด้วยกลิ่นที่ปะปนกันนี้เองทำให้ทุเรียนมีทั้งกลิ่นหอมและเหม็น สำหรับคนที่ชอบกลิ่นหอมต่างๆ ในทุเรียนก็จะบอกว่าทุเรียนหอม ส่วนคนไม่ชอบกลิ่นบางอย่างที่เป็นกลิ่นเหม็นในทุเรียน อาทิ ไม่ชอบกลิ่นกำมะถัน ไม่ชอบกลิ่นอาหารทะเล ก็จะคิดว่าทุเรียนเหม็น

ก่อนจากกันวันนี้ดิฉันมีเรื่องขำๆจะเล่าให้ฟัง ลูกสาวคนเล็กของดิฉันเกิดที่อเมริกา อาบุตอนนั้นประมาณ 5 ขวบ เธออยู่ในห้องนอนบนชั้นสอง ขณะที่ดิฉันทานข้าวเหนียวน้ำกระทิทุเรียนอยู่ในห้องนั่งเล่นชั้นล่าง ลูกสาวโผล่หน้าชะโงกระเบียงมองลงมาและบอกว่า หม่ามี้ วันนี้เราไม่ได้ทิ้งขยะเหรอ ส่งกลิ่นเหม็นขึ้นมาบนห้องหนู อิ..อิ..หารู้ไม่ว่าดิฉันกำลังเพลิดเพลินกับของหวานราชาผลไม้

ด้วยรักและปรารถนาดี จาก Super Pat (323)702-0788