ซุปเปอร์แพท
ปิยะพัชรี ศิลปี



โลกนี้อยู่ยาก!

วันนี้จะชวนคุณๆแฟนคลับมาอ่านเรื่อง โลกอยู่ยากขึ้นทุกวัน จากข่าวอาชญกรรม ทำร้ายกันและกัน ปัญหาเงินเฟ้อ ข้าวยากหมากแพง โรคภัยไข้เจ็บคร่าชีวิตเป็นล้านๆคนภายใน ปีสองปี สาระพันปัญหา ด้วยตัวเองเป็นคนคิดบวก จึงค้นคว้าหาวิธีให้ความสบายใจกับตัวเอง อยู่กับภาวะนี้อย่างมีความสุขให้ได้ จึงไปค้นคว้าหาอ่านวิธีรับมือกับมัน ค้นไปค้นมาไปอ่านเจอบทความดีๆในอินเตอร์เน็ท จึงขอคัดลอกมาฝากแฟนๆคลับ ขอบคุณเจ้าของบทความมา ณ.ที่นี้ด้วย

เราจะอยู่ได้และดี เมื่อรู้ วิธีจัดการกับอารมณ์ที่ไม่คล้อยตามหรือตื่นตระหนกไปกับสิ่งแวดล้อม มารู้จักกับ เทรนด์การบำบัดใหม่แห่งโลกมิลเลเนียล

วิธีจัดการกับอารมณ์ โลกนี้อยู่ยาก! ประโยคฮิตที่ใช้ได้กับคนทุกวัยในยุคนี้ เพราะโลกที่หมุนเร็วขึ้นทุกวันๆ สารพัดการเปลี่ยนแปลง ช่องว่างแห่งวัยที่ถ่างกว้างได้แบบไม่หยุด….ข่าวอาชญกรรม ทางสื่อต่างๆ แต่ไม่ว่าจะอยู่วัยไหน ตรงไหนของสังคม เราก็ยังต้องเกี่ยวข้องหรือมีปฏิสัมพันธ์กับโลกใบนี้ แบบยากจะหลีกเลี่ยง

สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดแทบทุกวินาที ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าเราจะอยู่กับครอบครัว เพื่อน แฟน อยู่คนเดียวนั่งนิ่งๆไถดูโซเชียลมีเดีย หรือนั่งดู netflix ทีวี ทุกอิริยาบถ มี ‘อารมณ์’ มาเกี่ยวข้องทั้งสิ้น อารมณ์ คือ พลังงานของร่างกาย อารมณ์ที่ดี คือพลังงานบวก อารมณ์ร้ายโกรธ แค้น เสียใจ ดีใจแบบเสียสติ คือพลังงานลบ เมื่อไหร่ที่ร่างกายเต็มไปด้วยพลังลบ ร่างกายก็จะทำงานผิดเพี้ยนไป เช่น ป่วยเป็นโรคทั้งซึมเศร้า วิตกกังวล ไมเกรน ปวดท้อง หรือลามใหญ่ไปจนถึงมะเร็ง

ตัวอย่างง่ายๆ โรคออฟฟิศซินโดรม หมอว่าเกิดจากการทำงานหน้าคอมพ์นานเกินไป แต่เด็กนั่งเล่นเกมทั้งคืน ไม่เคยบ่นปวดหลัง โปรแกรมเมอร์อยู่หน้าคอมพ์ไม่ต่ำกว่า 15 ชั่วโมงต่อวัน สะบักไม่เคยติด มีแต่หนุ่มสาวออฟฟิศทั่วไปนี่แหล่ะ ที่เป็น เพราะมีอารมณ์ความเครียดมาเกี่ยวล้วนๆ

การบำบัดหนึ่ง ที่กำลังเป็นเทรนด์ใหม่ ว่ากันว่าเป็นเหมือนยาอายุวัฒนะแห่งศตวรรษที่ 21 คือ ศาสตร์ของการจัดการกับอารมณ์ (The Emotion Code) การบำบัดที่เชื่อว่าเราสามารถจัดการกับพลังงานและอารมณ์ในร่างกาย ด้วยการคุยกับจิตใต้สำนึกของตัวเอง ผ่านเทคนิค muscle testing จากหลักการวิทยาศาสตร์ที่เชื่อว่า จิตใต้สำนึกของเรา รู้จักตัวเราเองดีที่สุด และมีร่างกายเป็นหมอที่ดีที่สุด มีพลังสามารถรักษาตัวเองได้ เราสามารถฝึกลบอารมณ์ที่ฝังอยู่ในร่างกาย (trapped emotion) เราได้ เพราะทุกอารมณ์ที่เกิดขึ้น จะคงอยู่ในอณูเซลล์ของร่างกาย ถ้าได้ลบออกไปบ้าง พลังงานลบก็จะไม่พอกพูนคั่งค้าง ลองสังเกตดูว่า ทำไมบางทีเรื่องเล็กที่เราหงุดหงิดเรื่อยๆ นานๆเข้า โดนสะกิดเพียงหางๆ กลับเหมือนระเบิดนิวเคลียร์ หากเราได้ปลอดปล่อยหรือลบออกไปบ้าง ปฏิกิริยาและความสัมพันธ์ที่เรามีกับคนรอบตัว จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น

นอกจากการฝึกจัดการอารมณ์ในแบบของ The Emotion Code แล้วยังมีสิ่งง่ายๆ ที่ทำให้สามารถดูแลจัดการอารมณ์ได้ดีขึ้น อาทิ

• นั่งจิตนิ่ง 10 นาที เริ่มต้นวันด้วยการนั่งนิ่ง แบบสมาธิ ฝึกตามดูจิต ดูความคิด ไม่ฟุ้ง

• สวดมนต์ บทไหนก็ได้ ศาสนาใดก็ได้ เติมพลังงานที่ดีเข้าสู่ร่างกาย

• ออกกำลังกาย ให้สารเอนดอร์ฟีนหลั่งให้เต็มที่

• อยู่แวดล้อมด้วยคนคิดบวก เลี่ยงการเติมพลังลบเข้าสู่ใจ หากเลี่ยงไม่ได้ เพียงแค่ฟังและไม่ฟุ้งตาม ไม่ต้องขึ้นตาม ไม่ต้องยุ ไม่ต้องดราม่า

เพียงเท่านี้! โลกจะอยู่ยากแค่ไหน ก็ไม่สน เพราะใจเราดี อารมณ์เราดี!!

อะไรคือกำแพงหัวใจ Heart-Walls? อยากทราบไหมว่ากำแพงหัวใจของคุณสูงและหนาแค่ไหน?

เคยรู้สึกไหมว่า ทำไมคุณถึงเจอผู้ชายห่วยๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า…เป็นสาวเปรี้ยวก๋ากั่น แต่พอเจอผู้ชายจริงจัง เธอกลับหนีหัวหด….ทำไมการมอบความรักให้ใครสักคน จึงเป็นเรื่องยากจัง…กลัวความผิดหวัง.. ไม่กล้าไว้ใจผู้ชายหน้าไหนอีกต่อไปแล้ว…หรืออีกประเภท ไม่แน่ใจว่าอยู่เพราะรักหรือแค่ไม่อยากอยู่คนเดียว…ผูกพันแต่ไม่กล้าผูกใจ…รักแต่ไม่กล้าแสดงออก…. รักใครก็ลงท้ายด้วยการอกหัก… หรือแม้แต่ความสัมพันธ์กับครอบครัว รักแม่แต่ก็คุยกันไม่เคยเข้าหู….

ทราบไหมว่า ต้นตอของความรู้สึกเหล่านี้ คือ “กำแพงหัวใจ” พลังของอารมณ์ที่ทับซ้อนพอกหนาติดค้างอยู่ในใจ เมื่อคุณพบกับความผิดหวัง เสียใจ โกรธแค้น สะสมอยู่มาตลอด… ถ้าเราจักรู้วิธีปอกเปลือก ปลดปล่อย ทลายกำแพงหัวใจให้เบาบางลง คุณก็จะสัมผัสถึงความสุขได้มากขึ้น ดึงดูดความสัมพันธ์ที่ดีและยั่งยืนเข้าสู่ตัว พร้อม! ที่จะมอบความรักและรับความรัก กล้าแสดงออกถึงความรักได้ง่ายขึ้น เปิดหัวใจ เพื่อความสัมพันธ์กับคนรอบตัวที่ดียิ่งขึ้น ทั้งคนรัก ครอบครัว พ่อแม่ เพื่อนฝูง หรือเพื่อนร่วมงาน

ลองนำไปปฎิบัติดู ไม่ลองไม่รู้ ได้ผลอย่างไร ส่งข่าวกันด้วย

ด้วยรักและปรารถนาดีจาก Super Pat (323)702-0788