ซุปเปอร์แพท
ปิยะพัชรี ศิลปี



เที่ยวเมือง Kusadas ประเทศ ตุรกี สนุกกว่าที่คิด

วันที่ 17 ตุลาคม ล่องเรือสำราญมาถึง ท่าเรือของเมือง Kusadas หลังอาหารเช้า พวกเรา 29 คน เช็คเอ๊าท์ออกขจากเรือสำราญ NCL Jade ไปที่ Gang Way ซึ่งมีรถบั๊สคันใหญ่พร้อมทัวร์ไก๊ด์ Ms.Yaskaya มาคอยรับเราจากนั้นรถบัสคันใหญ่ก็มารับเราไปเที่ยวต่อยังบ้านพระแม่มารี ณ เมืองเอเฟซุส (house of virgin mary ) ซึ่งห่างจากท่าเรือประมาณ 40 นาที

เรามาเที่ยวตุรกีช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งใครๆก็บอกว่าเป็นช่วงที่น่าเที่ยว ตุรกีไม่ต้องทำ visa ถ้าอยู่ไม่เกิน 30 วัน ตุรกี (Turkey) เป็นประเทศนี้มีประวัติศาสตร์และอารยธรรมที่เก่าแก่มานานกว่า 2,500 ปีก่อนคริสตกาล ภูมิประเทศเชื่อมต่อ 2 ทวีปทั้งฝั่งเอเชีย และฝั่งยุโรป ประเทศนี้ถูกล้อมรอบด้วยทะเลสามด้านด้วยกัน ได้แก่ ทางเหนือสุดจะติดกับทะเลดำ และทางใต้จะติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทางตะวันตกก็จะติดกับทะเลอีเจียน

จากนั้นรถบัสคันใหญ่ก็มารับเราไปเที่ยวต่อยังบ้านพระแม่มารี ณ เมืองเอเฟซุส (house of virgin mary ) ซึ่งห่างจากเมืองอิซเมียร์ประมาณ 70 กิโลเมตร

ผ่านเมืองโบราณเอเฟซุส(City of Ephesus) ก่อน เดี๋ยวช่วงบ่ายเราค่อยมาเที่ยวที่นี่กัน

บ้านพระแม่มารี House of Virgin Mary เชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มารีอาศัยอยู่และสิ้นพระชนม์ในบ้านหลังนี้ ถูกค้นพบอย่างปาฏิหารย์โดยแม่ชีตาบอดชาวเยอรมัน ชื่อ แอนนา แคเทอรีน เอมเมอริช (Anna Catherine Emmerich) เมื่อปี ค.ศ. 1774-1824 ได้เขียนบรรยายสถานที่นี้ไว้ ในหนังสืออย่างละเอียดราวกับเห็นด้วยตาตนเอง เมื่อเธอเสียชีวีตลงมีคนพยายามสืบเสาะค้นหาบ้านหลังนี้จน พบในปี ค.ศ. 1891 ปัจจุบันบ้านพระแม่มารีได้รับการบูรณะเป็นบ้านอิฐ ชั้นเดียว

มีการขุดบ่อน้ำที่มีลักษณะคล้ายลูกกุญแจ และมีความเชื่อที่ว่าใครมาดื่มน้ำที่นี่ก็จะเหมือนกับมีกุญแจเข้าสู่ประตูสวรรค์ แต่ปัจจุบันไม่ใช้บ่อนี้แล้ว มีการใช้จากก็อกแทนภายในมีรูปปูนปั้นของพระแมม่ารีแบมือทั้ง2 ข้าง ตั้งตระหง่านอยู่ระหว่างทางเดินไปยังบ้าน ตามประวัติศาสตร์ท่านมีอายุยืนยาวถึง 150 ปี บ้านพระแม่มารีเป็นบ้านอิฐชั้นเดียว พวกเราเดินเข้าไปภายในไม่กว้างเท่าไหร่ ภายในมีลายเซ็นต์ของสันตปาปาโป๊ปเบเนดิกส์ที่ 6 ที่มาเยือนสถานที่แห่งนี้ ไปได้สักพักก็ถึงทางออก บริเวณนี้มีก๊อกน้ำ 3 ก๊อกเชื่อว่าเป็นก๊อกน้ำที่มีความศักดิ์สิทธิ์แทนความเชื่อในเรื่องสุขภาพ ความร่ำรวยและความรัก ใกล้ๆกันเป็นกำแพงอธิฐาน ซึ่งมีความเชื่อว่าให้เขียนสิ่งที่ปรารถนาลงในกระดาษหรือผ้านำไปผูกและอธิฐานจะทำให้สมหวัง เดินมาสักพักก็เห็นๆที่ๆเขาจุดเทียนอธิฐานกัน

พวกเราก็ไปเที่ยวเมืองโบราณ Ephesus ที่อยู่ไม่ไกลันัก เอเฟซุส (City of Ephesus) เป็นเมืองโบราณสมัยกรีกและโรมัน ซึ่งเคยรุ่งเรืองและใหญ่เป็นอับดับสองของจักรวรรดิโรมันรองจากเมืองหลวงคือโรม อย่างไรก็ตามยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าเอเฟซุสถือกำเนิดขึ้นในสมัยใดมีตำนานเล่าขานมาว่า นักรบหญิงเผ่าอะเมซอนสร้างเมืองในช่วงศตวรรษที่ 14 ก่อนคริสตกาล และอีกตำนานกล่าวว่า ชายหนุ่มชื่อว่า อันโดรคลุส (Androclus) ลูกชายของโคดรุส (Codrus) แห่งเอเธนส์เป็นผู้สร้างเมือง โดยต้องการอพยพมายังดินแดนอนาโตเลีย จึงนำความไปปรึกษาคนทรงเทพเจ้าอะพอลโล ซึ่งทำนายว่า หมูป่าและปลาจะบอกสถานที่นั้นให้แก่อันโดรคลุส จึงพาทหารของเขาออกเดินทาง ขณะจุดไฟย่างปลาก็มีหมูป่าตัวหนึ่งโผล่จากพุ่มไม้ เมื่อเห็นดังนั้น ก็นึกถึงคำทำนาย และควบม้าตามไป แล้วสังหารหมูป่านั้นเสีย สถานที่นั้นได้กลายเป็นเมืองเอเฟซุส ซึ่งตำนานนี้มีสลักไว้ที่วิหารฮาเดรียน (Harian Tapinagi หรือ Temple of Hadrian)

เมืองนี้สันนิษฐานว่ามีอายุมากกว่า 2500 ปี เมืองนี้เคยเป็นเมืองท่าที่เจริญสูงสุดและบางส่วนได้ถูกทำลายโดยแผ่นดินไหว จากนั้นก็เสื่อมถอยตามกาลเวลา และได้รับการบูรณะโดยการขุดขึ้นมาและจัดเรียงใหม่ โดยมีสภาพสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก(เทียบกับเมืองอื่นๆในยุคเดียวกัน) ทำให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาชมเป็นจำนวนมากและ ค.ศ. 2015 องค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ขึ้นทะเบียนให้เอเฟซุสเป็นมรดกโลก

จากนั้น ทัวร์ไก๊ด์ได้พาเราไปที่โรงงาน Fashion show Outlet ที่ผลิตสินค้าหนังสัตว์คุณภาพ Grade A. เป็นโรงงานผลิตสินค้าหนังสัตว์ส่งให้บรรดา ดีไซน์เนอร์ดังๆทั่วโลก เราได้ชม Fashion Show เสื้อหนัง ที่เรียกว่า Silk Leather รู้สึกถึงความนุ่มละไมของเสื้อหนัง ที่แตกต่างจากซื้อข้างนอกทั่วๆไป มี น้องๆในคณะ ได้ถูกเชิญขึ้นไปเดินแบบเสื้อกับบรรดานายแบบ นางแบบอีกด้วยนับเป็นเกียรติอย่างยิ่ง เราได้ผลิตภัณฑ์ เสื้อหนัง กระเป๋าหนังติดมือมากัน คนสอลคน ซึ่งนับได้ว่าราคาและคุณภาพเกินคุ้ม พวกเราต้องขึ้นเรือก่อน เที่ยง ซึ่งจวนเจียนเวลามากๆ เพราะมัวไปใช้เวลาที่ Outlet นี้นานเกินควร ทำให้หมิ่นเหม่ต่อการตกเรือ วิ่งขึ้นเรือกันเหงื่อตกไปตามๆกัน 555 ขำ ก็ ขำ เหนื่อย ก็เหนื่อย สงสารคนสว.ทั้งหลาย เป็นบทเรียนที่ดีละกัน

เราทุกคนขึ้นเรืออย่างสวัสดิภาพ ได้เวลาทานอาหารกลางวันกันที่ห้อง Garden Café ชั้น 12 ก่อนจะแยกย้ายกันไปพักผ่อนตามอัธยาศัย เพื่อมาพบกันตอน ดินเนอร์ ที่ห้องอาหาร Grand Pacific เวลา 6 โมงเย็น และ จะขึ้นท่าไปเที่ยวเมือง Patmos เมืองชายแดนกร๊ก และ ตุรกี ฉบับหน้าค่ะ

ด้วยรัก และ ปรารถนาดี จาก Super Pat (323)702-0788

เดินเข้ามาก็ดูแผงผังเมืองจำลองกันก่อน จะแบ่งเป็น 2 โซนตลาดด้านบนและด้านล่าง มีถนนหินอ่อน โรงอาบน้ำโรมัน โรงนวด ยิมเนเซียม วิหารกษัตริย์ฮาเดรียม บ้านคนร่ำรวย ห้องสมุด โรงละคร หอประชุมและอื่นๆ