ซุปเปอร์แพท
ปิยะพัชรี ศิลปี



เที่ยว Jerusalem Holy Land แดนศักดิ์สิทธิ์ พระเยซู

ในที่สุดวันนี้เราได้มา เจรูซาเล็ม เมืองดินแดนแห่งความศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู โดยมีคุณไก๊ด์หนุ่มคนเก่งชื่อ Sergie ชูป้าย Super Pat Group พร้อมรถบั๊สคันใหญ่คอยต้อนรับอย่างอบอุ่น หลังจากเรือจอดเทียบท่าเรียบร้อย

ใครเคยดูหนังฝรั่ง Kingdom of Heaven เป็นหนังประวัติศาสตร์ย้อนไปไกลถึงยุคสงครามครูเสด ที่อัศวินนักรบของคริสตจักรจากยุโรป เข้ายึดนครเยรูซาเล็มของอิสราเอลไว้ได้โดยสมบูรณ์ และมีฉากการทำสงครามยึดเมืองอันยิ่งใหญ่อลังการ ระหว่างชาวคริสต์ที่ป้องกันเยรูซาเล็ม กับซาลาดินกษัตริย์ผู้เกรียงไกรจากเปอร์เซีย

ตลอดเวลากว่า 4,500 ปีที่ผ่านมา นครเยรูซาเล็มจึงกลายเป็นหนึ่งในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ และศูนย์รวมศรัทธาอันยิ่งใหญ่ ต้นกำเนิด 3 ศาสนาสำคัญของโลก ทั้งคริสต์ ยูดาห์ (ยิว) และอิสลาม ซึ่งปัจจุบันหากใครได้ไปเยือนเขตเมืองเก่าเยรูซาเล็ม ก็ยังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายโบราณนี้ และนี่คือ ‘เยรูซาเล็ม’ นครศักดิ์สิทธิ์ Kingdom of Heaven

ปัจจุบัน เยรูซาเล็ม ยังคงเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 3 ศาสนา ที่มีผู้คนอาศัยปะปนกันอยู่ในเขตเมืองเก่าอันศักดิ์สิทธิ์ (The Old City) ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ย่านด้วยกันคือ ย่านชาวอาร์เมเนีย (Armenian Quarter) ย่านชุมชนชาวยิว (Jewish Quarter) ย่านชาวคริสต์ (Christian Quarter) และ ย่านชาวมุสลิม (MuslimQuarter) ทำให้ที่นี่เป็นเมืองที่อบอวนไปด้วยวัฒนธรรมทางศาสนาที่แตกต่างกันมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

กรุงเยรูซาเล็มเป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ก่อร่างสร้างขึ้นโดยกษัตริย์ดาวิด (King David) และเป็นดินแดนที่มีประวัติศาสตร์เกี่ยวเนื่องกับ 3 ศาสนาสำคัญดังที่กล่าวไปแล้ว ทำให้เมืองเต็มไปด้วยบรรยากาศอันแตกต่างทั้งในแง่ความเชื่อและความศรัทธา แต่ก็ยังคงอบอวลด้วยมนต์เสน่ห์ของความงดงามและมนต์ขลัง โดยในเขตเมืองเก่าแบ่งออกเป็น 4 ย่าน ได้แก่ ย่านชาวอาร์เมเนีย (Armenian Quarter) ย่านชุมชนชาวยิว (Jewish Quarter) ย่านชาวคริสเตียน (Christian Quarter) และย่านชาวมุสลิม (Muslim Quarter) แต่ละย่านก็มีสถานที่ท่องเที่ยวให้เดินชมกัน

เยรูซาเล็มเป็นเมืองใหญ่ มีทั้งย่านเมืองเก่าและเมืองใหม่ เราสามารถชมขึ้นไปยัง เนินเขามะกอก (The Mount of Olieves) ทางด้านตะวันออกของเมือง เพื่อชมทัศนียภาพของเยรูซาเล็ม ให้เต็มตาแบบพาโนรามาได้เลย อีกทั้งเนินเขามะกอกนี้ยังเกี่ยวพันกับเหตุการณ์สำคัญยิ่งยวดของพระเยซู โดยในสมัยโบราณเชื่อว่าเป็นเนินเขาที่เต็มไปด้วยต้นมะกอกอยู่ดาษดื่น แต่มีการตัดเอาไม้ไปใช้อยู่เรื่อย จนกระทั่งไม่เหลือต้นมะกอกให้เห็น แต่กลายเป็นที่ตั้งของโบสถ์และวิหารมากมาย เพราะเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาส่วนของชุมชนชาวมุสลิมอันเป็นที่ตั้งของ Dome of the Rock หรือโดมทองแห่งเยรูซาเลม อันเป็นศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอิสลาม และกลายเป็น Landmark สำคัญของนักท่องเที่ยว ที่ชอบถ่ายภาพโดมทองคำขนาดยักษ์นี้ไว้อวด หรือแชร์ผ่านโลกออนไลน์กันด้วย

จากด้านบนจะมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของย่านเมืองเก่าอย่างชัดเจน และเมื่อเดินลงมาตามทางเดินเลาะเนินเขาลาดลงเรื่อยๆ จะผ่านสุสานเก่าแก่ของชาวยิว กระทั่งมาถึง ‘The Sanctuary of Gethsemane’ สวนมะกอก 8 ต้นแห่งแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นสถานที่ซึ่งพระเยซูอธิษฐานกับเหล่าสาวก ภายในสวนมีต้นมะกอกเก่าแก่อายุกว่าพันปี ที่เพาะรากเดิมมาจากต้นมะกอกในสมัยพระเยซู ใกล้กับสวนยังเป็นที่ตั้งของ The Basilica of the Agony มหาวิหารที่สร้างครอบก้อนหินที่พระเยซูทรงประทับภาวนาก่อนจะถูกทหารโรมันจับตัวไปตเดินลัดเลาะมายังย่านชุมชนชาวยิว ที่มีการตรวจตราค่อนข้างเข้มงวด เพราะเป็นย่านที่เชื่อมต่อกับย่านของชาวมุสลิม อันเป็นที่ตั้งของ The Wailing Wall หรือกำแพงทางตะวันตก (Western Wall) แต่ถ้าพูดว่า ‘กำแพงร้องไห้’ หลายคนอาจจะร้อง อ๋อ! นี่คือแนวกำแพงเมืองเก่าอันสูงใหญ่ทางตะวันตกของเนินพระวิหาร หรือ ภูเขาโมไรยาห์ (Mount Moriah) ชาวยิวเชื่อว่าเป็นสถานที่สำคัญและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่ง เพราะเป็นสัญลักษณ์การหวนคืนสู่แผ่นดินแห่งพันธสัญญาของชาวอิสราเอล ที่พระยะโฮวาห์ทรงตรัสไว้นั่นเอง

แนวกำแพงอันสูงใหญ่ถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง แยกชายหญิงออกจากกันระหว่างการสวดภาวนา ขอพร และร้องไห้กับกำแพง นอกจากนี้ชาวยิวเชื่อว่าบริเวณนี้เป็นสถานที่ใกล้ชิดกับพระเจ้ามากที่สุดในโลก พระองค์จะคอยสดับตรับฟังคำขอของผู้ที่มาอ้อนวอนทุกคนอย่างเท่าเทียม นอกจากจะสวดมนต์แล้ว ยังนิยมเขียนคำอธิษฐานหรือระบายความทุกข์ใจใส่ในกระดาษ แล้วสอดเข้าไปตามรูเล็กๆ บนกำแพง เพื่อให้สารนั้นส่งถึงพระเจ้าโดยตรง หลังจากสอดคำอธิษฐานแล้วจะต้องเดินถอยหลังออกจากกำแพง ไม่หันหลังให้กำแพงเด็ดขาด นี่คือธรรมเนียมที่ปฏิบัติสืบต่อกันมานานหลายชั่วอายุคน

จากนั้นเราถูกพาไปเที่ยวทะเลทรายบนเนินเขาแห่งหนึ่งซึ่งรายการนี้เกือบจะถูกยกเลิกเนื่องจากความไม่ปลอดภัยจากการประทะกันของชาวปาเลสไตน์กับชาวยิว แต่ บริษัททัวร์ท้องถิ่นก็สามารถพาพวกเราเข้าไปสัมผัสการขี่อูฐได้สนุกสนานเป็นที่ถูกอกถูกใจสมาชิกทัวร์กันท่วนหน้า ก่อนจะถูกพาทาทานอาหารกลางวันท้องถิ่นซึ่งเป็นเวลาบ่ายมากแล้ว คุณทัวร์ไก๊ด์น่ารักมากๆ ได้ซื้อขนมปังชาวยิวแสนอร่อยให้ทานและทางที่เราไปขี่อูฐได้เตรียมอาหารว่างพร้อมน้ำชา กาแฟ ต้อนรับเราเต็มที่กันอย่างอิ่มหนำสำราญ หลังจากนั้นเราถูกพาไปที่ Church of the Holy Sepulchre หรือ โบสถ์พระคูหาศักดิ์สิทธิ์ โดยชาวคริสต์ออร์ทอดอกซ์เรียกว่า โบสถ์การคืนพระชนม์ เป็นโบสถ์ในย่านชุมชนชาวคริสต์ของเมืองเก่าเยรูซาเล็ม ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวคริสต์ เพราะเป็น สถานที่ตรึงกางเขนพระเยซู และ ยังเป็น สถานที่ฝังพระศพของพระเยซู และเป็นที่ที่พระองค์ฟื้นคืนพระชนม์ ขอบอกว่า เราต้องเดินขึ้นบันได ไต่เขา เนื่องเพราะทำเลของเมืองเป็นอย่างนั้น พวกเราจึงให้ไก๊ด์ไปติดต่อรถกอล์ฟพาพวกเราที่เป็นสว.ไปที่โบสถ์

ภายในโบสถ์ มีวิหารน้อยใหญ่ โดยจะมี แท่นหินศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นที่วางพระศพของพระเยซูหลังตรึงกางเขนจนสิ้นพระชนม์ ทำให้ชาวคริสต์จะต้องมาที่นี่ให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต และนำหน้าผากแตะที่แท่นหิน รำลึกถึงท่านศาสดาพระเยซู และเชื่อกันว่าที่ด้านในสุดของวิหาร ยังเป็นที่ฝังพระศพของพระเยซู ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งในโลกของศาสนาคริสต์

จากนั้นรถทัวร์ได้พาพวกเรามาส่งขึ้นเรือ ตอน หนึ่งทุ่มครึ่ง เพื่อทานอาหารเย็นที่ห้องอาหาร Alizer ก่อนไปดูโชว์ และเต้นรำออกกำลังกาย เตรียมตัวตื่นเช้า ไปเที่ยวเมือง Tel A Viv ซึ่งเป็นเมืองท่าที่สำคัญ ของประเทศอิสราเอล โปรดติดตาม....

ด้วยรักและปรารถนาดี จาก Super Pat (323)702-0788