ไม่น่าเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อ ภายใน 1 เดือน เพื่อนสนิท มิตรสหาย คนรู้จัก เสียชีวิต จากโลกนี้ไป 4 คนด้วยกันทั้งๆที่อายุน้อยกว่า 1 ในนั้น เป็นสามีของ ลูกสาวบุญธรรมน้อง สุธีนา บำรุงรัตน์ Dudley คือคุณ Stephen Dudley, ได้รับเกียรติให้เป็นพิธีกรในงานสวดอภิธรรมที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่วัดไทยลอส แอนเจลิส มีผู้มาร่วมแสดงความเสียใจด้วยชุดสีสัน ชมพู-เทา ตามความปรารถนาของคุณสตี๊ฟ เกือบ 300 คน เจ้าภาพฝากกราบขอบพระคุณทุกท่านมา ณ.ที่นี้ด้วย ฉบับนี้ขอถือโอกาส เขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องสัจจธรรมแห่งชีวิต อนิจจัง ไม่เที่ยง ซึ่งได้รับข้อมูลมาจากอินเตอร์เน็ทมาแบ่งปันให้คุณผู้อ่านแฟนคลับไว้พูดคุยกันในวงสนทนาตามโอกาส
เราเชื่อกันว่า ‘เกิด แก่ เจ็บ ตาย’ เป็นสี่เรื่องธรรมชาติที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ในชีวิตคนคนหนึ่งความตายที่เปลี่ยนไปในสังคมสมัยใหม่ โดยเฉพาะในสังคมที่ผู้คนอายุยืนขึ้นเรื่อยๆ และในระดับนโยบายทางรัฐบาลก็ ‘เป็นห่วง’ เรื่องการกลายเป็นสังคมสูงอายุ จากแรงบันดาลใจในหนังเรื่อง Plan 75 ที่พูดถึงนโยบายที่พยายามลดจำนวนผู้สูงอายุด้วยการสร้างระบบให้ผู้สูงอายุเลือกจบชีวิตตนเองเมื่ออายุ 75 ปีขึ้นไปแล้ว เรียกนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการตายว่า necropolitics ลองไปค้นหาบทความกันได้
ทั้งสี่เรื่องที่เราเคยเชื่อว่าเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ นโยบายสาธารณะของเกือบทุกประเทศก็เข้ามาพยายามทำให้เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ หรืออย่างน้อยก็ชะลอได้ ยกเว้นก็แต่เรื่องการตายที่ดูเหมือนนโยบายจะออกมาทำนองว่าอยากให้ตายด้วยความสงบ หรือไม่ต้องทนทุกข์ทรมานก่อนตาย ‘มากจนเกินไป’ เพราะการชะลอการตายในบางเงื่อนไขก็นำไปสู่การทุกข์ทรมาน ‘มากจนเกินไป’ ทั้งกับผู้ที่กำลังจะตายและผู้คนรอบข้างที่มีความรักความผูกพัน ซึ่งรู้สึกว่าตัวเองต้อง ‘รับผิดชอบ’ กับความตายนั้น ไม่ว่าจะเป็นญาติสนิทหรือแพทย์ผู้รักษา ไปถึงบุคลากรด้านสุขภาพสาขาอื่น
ระหว่างมีชีวิต มนุษย์ก็ใช้กรรมเก่าและสั่งสมกรรมใหม่ ใส่ลงไปในซอฟต์แวร์คือ จิต เมื่อร่างแตกสลาย จิตก็เดินทางต่อไป
เหนี่ยวร่างได้ก็เกิดภพชาติใหม่ ในทางพระพุทธศาสนาเรียกวงจรนี้ว่า สังสารวัฏ คือการท่องเที่ยวไปในภพภูมิ จากชีวิตหญิงเป็นชาย จากคนเป็นเทพ หรือบางทีก็อาจเกิดในภพต่ำลงไปอีก ขึ้นอยู่กับบุญบาปที่ทำในขณะใช้ชีวิต
บุญบาปจึงเป็นเสมือนเสบียงทางหรือเครดิตการ์ด ที่ทำให้เราสามารถรูดใช้จ่ายชำระหนี้ได้ไม่ขาดแคลน เมื่อเวลาเดินทางไกลไปต่างแดน การเดินทางต่างภพก็เช่นกัน ต้องมีเครดิตการ์ดคือบุญกุศลติดตัว
เมื่อหันมามองดูชีวิตของเราแต่ละวันแต่ละคน เราตื่นเช้าขึ้นมา เหมือนเกิดระหว่างวันก็เดินทางไปนั่น มานี่ ค่ำมาก็เข้านอน การนอนเหมือนการตาย เพียงแต่มีการตื่นขึ้นมาอีก การนอนเป็นการหยุดพักชั่วขณะ แล้วตื่นขึ้นมาทำงานอีกในวันรุ่งขึ้น
การตายก็เหมือนการหยุดพักชั่วขณะ แล้วก็ไปก่อภพในครรภ์มารดาอีก 9 เดือน แล้วคลอด ระหว่างเวลาอาจจะนอนนานหน่อย คือนอนในครรภ์นานถึง 9 เดือน มิใช่คืนเดียวเหมือนเรานอนในห้องนอน
ท่านผู้อ่านลองคิดดูว่า ทุกขณะของชีวิตเรา มีการเปลี่ยนเสมอ จากสเปิร์มตัวเดียว บวกกับไข่ของแม่ ยังเจริญเติบโตขึ้นมา มีหู มีตา มีสมอง มีหัวใจ มีแขน ขา มีอวัยวะทุกส่วนครบบริบูรณ์ เป็นคนที่สมบูรณ์ขึ้นมาได้
คิดดูให้ดีว่า ชีวิตเราน่าอัศจรรย์เพียงใด มีคุณค่าแค่ไหน กว่าจะได้เกิดเป็นมนุษย์ สุดแสนจะลำบากเพียงใด มีคนไม่น้อย พยายามทำลายชีวิตตน เพราะไม่รู้ที่มาที่ไปของชีวิต คิดแต่เพียงว่า เมื่อตนเป็นทุกข์เพราะมีชีวิต หากปลิดชีวิตได้ ก็น่าจะหมดทุกข์ เขาคิดได้เพียงเท่านี้ แต่หารู้ไม่ว่าชีวิตมีเบื้องหน้าและเบื้องหลังยาวไกลกว่าที่คิด ชีวิตเราแต่ละคน ไม่เคยหยุดเดินทางแม้แต่เสี้ยววินาที เดินทางมาแล้วหลายแสนภพชาติ แม้หลังความตายก็ยังเดินทางต่อไป แต่ที่ไหน อย่างไร ไม่มีใครรู้...
รักกัน คิดดี ทำดี พูดดี ต่อกัน ในเวลาที่เราไม่รู้ว่าจะเหลือเวลาเท่าใด ที่เราจะได้พบกันในภพนี้
ด้วยรัก และ ปรารถนาดี จาก Super Pat (323)702-0788