โอ๊ย.. อะไรจะนักจะหนา กันเนี่ยะ อายุปูนนี้ (60 ปี ขึ้น) ยังใจน้อย โกรธขึ้งเคียดแค้น ชิงชัง เอาเป็นเอาตาย ถือศักดิ์ศรีกันเกินเลย กันอีก โดนเข้ากับตัวเอง ถึงรู้..ว่าถูกคนอื่นโกรธโดยไม่รู้ตัว แบบชนิดตัดญาติขาดมิตร ยังไม่พอ ยังถูกกระแทกแดกดัน จนงง! ว่า เราไปทำไรให้เค้าเคียดแค้นชิงชังจนถึงขนาดนี้กันได้ ....เฮ้อ เอาเถอะ เรื่องความคิดคนเราไม่เหมือนกัน ฉบับนี้ขออนุญาติระบายอารมณ์หน่อย คิดว่าคุณๆผู้อ่านคงโดนแบบนี้กันบ้าง อย่าถือสาหาความกันเลย ทำใจสบายๆ นึกเสียว่า ขึ้นอยู่กับวาสนาที่จะมีต่อกันหรือไม่ ดีกว่า เรามาคุยกันว่า คนในโลกนี้ ตามคำของพระพุทธเจ้าท่านเปรียบเปรยว่ามนุษย์เรานี้มี 4 เหล่า 4 ประเภท เปรียบเหมือน “ต้นบัว 4 เหล่า” ว่ามีอะไรบ้าง
บัวสี่เหล่า เป็นการเปรียบเทียบระดับสติปัญญาของคน โดยมีการจำแนกออกได้เป็น 4 อย่าง แสดงให้เห็นถึงความสามารถของคนที่เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ เป็น 4 ระดับ คือ
1.เหล่าที่ 1 มีสติปัญญา ฉลาดเฉลียว เมื่อได้ฟังก็สามารถรู้และเข้าใจในเวลาอันรวดเร็ว เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำ เมื่อต้องแสงพระอาทิตย์ก็จะเบ่งบานทันที เหมือน บุคคลที่มีศีลธรรมประจำใจครบถ้วนสมบูรณ์ อย่างน้อยก็มีศีล 5 ครบทุกข้อ มีความบริสุทธิ์ในจิตใจพอสมควร ปฏิบัติทั้งทาน-ศีล-ภาวนา มีโอกาสบรรลุธรรม ถึงมรรค-ผล-นิพพานได้ไม่ยาก ถ้ามีความเพียรพยายามปฏิบัติต่อเนื่อง สม่ำเสมอไม่ท้อถอย
2. เหล่าที่ 2 มีสติปัญญาปานกลาง เมื่อได้ฟังแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มเติม ก็จะสามารถรู้และเข้าใจได้ในเวลาไม่ช้า เปรียบเสมือน ดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำ ซึ่งจะบานในวันถัดไป เหมือน บุคคลที่มีศีลธรรมประจำใจพอสมควรแล้ว ศีล 5 อาจจะครบบ้างไม่ครบบ้าง มีโอกาสทำบุญทำทาน กุศลต่างๆบ่อยๆ แต่อาจจะยังไม่ได้ลงมือปฏิบัติธรรม สมาธิภาวนา พวกนี้ถ้าได้พบผู้แนะนำที่ดี เขาก็สามารถพัฒนาจิตใจขึ้นไปเป็นกัลยาณชน-ผู้เจริญแล้วได้ไม่ยากเลย
3. เหล่าที่ 3 มีสติปัญญาน้อย เมื่อได้ฟังแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มอยู่เสมอมีความขยันหมั่นเพียร ไม่ย่อท้อ ในที่สุดก็สามารถรู้และเข้าใจได้ในวันหนึ่งข้างหน้า เสมือน ดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งจะค่อย ๆ โผล่ขึ้นเบ่งบานได้ หมายถึง บุคคลที่ยังดี ค่อยยังชั่วกว่าประเภทบัวก้นบึง ที่จมอยู่ใต้น้ำ รอวันเวลาเติบโต โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำในโอกาสต่อไป พวกนี้ยังพอมีศีลอยู่บ้าง เป็นบางข้อ ดีบ้างชั่วบ้างปะปนสลับกันไป ถ้าพวกนี้มีโอกาสพบครูบาอาจารย์ หรือกัลยาณมิตรที่ดี แนะนำให้คำปรึกษา เขาก็มีโอกาสพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นได้ต่อไปหนึ่ง
4. เหล่าที่ 4 ไร้สติปัญญา แม้ฟังก็ไม่อาจเข้าใจความหมาย ไร้ซึ่งความเพียรเปรียบเสมือน ดอกบัวที่จมอยู่โคลนตม ยังแต่จะตกเป็นอาหารของเต่า ปลา อีกด้วย ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นพ้นน้ำเพื่อเบ่งบานได้อีก บัวก้นบึง-คือ บุคคลที่เสมือนบัวก้นบึง ยังคงเป็นเหง้า เป็นหัว จมอยู่ในโคลนตม รอคอยเวลาที่จะแตกเหง้า แตกหัว แตกหน่อเป็นต้นบัวอีกนานมาก และมีโอกาสที่จะเป็นอาหารแก่เต่าปลา ยากที่จะเติบโตเป็นต้นบัวต่อไปได้
เมื่อเปรียบเทียบกับมนุษย์ที่อยู่ในสังคมแล้ว ทำให้เห็นได้ว่าในสังคม ๆ หนึ่ง จะมีทั้งมนุษย์ที่เปรียบเสมือนเป็นบัวสี่เหล่าปะปนกันอยู่สุดแต่ว่า “ตัวเรา” จะเลือกเป็นบัวประเภทไหน ขึ้นอยู่กับจิตใจและการกระทำของตัวเราเอง…
แถมท้ายพอดีไปอ่านเจอบทความ ที่ชอบจัง ขอนำมาแบ่งปันให้ทุกๆคนที่ เริ่มเข้าวัยรุ่น แรกแย้มฝา..และไว้คอยเตือนใจตัวเองด้วยละ
1.อย่าทะเลาะกับเพื่อนสนิท เพราะเพื่อนสนิทรุ่นราวคราวเดียวกัน ก็ล้มหายตายจากไปทีละคนสองคน ยังจะมาทะเลาะชนิดไม่เผาผีกันกับเพื่อนดีๆที่หลงเหลืออยู่น้อยนิดอีกทำไมกัน เรื่องเล็กๆน้อยๆ ยอมมันมาทั้งชีวิต ยอมมันอีกสักครั้งสองครั้ง ยอมมันได้ ก็ยอมมันไปเถอะ 2.อย่าปลูกพืชยืนต้นด้วยเมล็ด ไปซื้อต้นสวยๆ ชนิดต่อตา ต่อกิ่ง ขุดตอฯ มาปลูกลงดินเลย จะได้มีโอกาสชื่นชมดอกสวยๆลูกงามๆของมัน เพราะขืนปลูกด้วยเมล็ด กว่าจะได้ดูดอกออกผล คงได้ไปนอนคุยกับรากมันมากกว่า เอาเงินซื้อเวลา ซื้อต้นโตๆมา ยังจะพอมีมีโอกาสได้ดูดอกออกผล 3.อย่าท่องเที่ยวแบบผจญภัย ประเภทขึ้นเขา ลงห้วย บุกป่า ปีนหน้าผา พิชิตดอยฯ เดี๋ยวจะไม่ได้ลงมา อายุมาแล้ว ต้องเลือกเที่ยวแบบ “กินร้อน นอนเย็น เอนจิบกาแฟ แอ่นระแน๊ดูดาว” ดีกว่านะ! 4.อย่าใส่เสื้อผ้าเพื่อโชว์ภาพวาบหวิว โดยเฉพาะคุณผู้หญิง พยายามห่อเรือนร่าง ด้วยเสื้อผ้าสวยๆให้มิดชิดไว้ดีกว่า อย่าผ่าอกลึกๆโชว์วาบหวิว หรือรัดติ้วโชว์เนื้อหนังมังสา เพราะพออายุมากขึ้นแล้วนี่ อย่าโชว์เลย! เพศตรงข้ามอาจบอกว่า “ให้ดูฟรีๆยังเคืองเลย” เพราะมันเลยเวลาโชว์มานาน 5.อย่าดื่มกินเพราะเสียดายของ โดยเฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่าเสียดาย เพราะเห็นว่าเป็นของฟรี เลยใส่เสียเต็มเหนี่ยว เพราะร่างกายเรา ไม่ได้ทนทาน เหมือนตอนหนุ่มๆแล้วจิบพอครึ้มๆ ให้อารมณ์พอแจ่มใสก็พอแล้ว 6.อย่าหากินบุฟเฟต์ อายุมากขึ้น กินบุฟเฟต์อย่างไรก็ไม่คุ้ม อัดเข้าไปมากๆ เพื่อความคุ้ม ก็จะแน่นหน้าอก อึดอัด นอนไม่หลับเข้าไปอีก สั่งเป็นที่ที่มากินจะดีกว่า สบายท้องกว่ากันด้วย 7.อย่าขับรถเร็วเกิน 90 กม/ชม. เพราะการมองเห็น การตัดสินใจ ความคล่องตัว ความแข็งแรงฯ มันไม่เหมือนตอนเราหนุ่มสาวแล้ว ขับรถความเร็วพอดีๆ ทิ้งระยะห่างพอควร เกิดอะไรขึ้น จะได้หยุดทัน ใครเขาจะรีบ ก็หลบให้เขาแซงไปก่อน 8.อย่านัดสังสรรค์ยามค่ำคืน อายุมากแล้ว อย่านอนเกินสี่ทุ่ม พอมืด ก็จะเริ่มง่วงง่าย ควรเป็นเวลานอน มากกว่าเวลาสังสรรค์ แถมมองในความมืดก็ไม่ชัดเจนเหมือนแต่ก่อน ขับรถเองก็จะมองถนนไม่ค่อยถนัดเหมือนเดิม เพราะฉะนั้น อายุมากแล้ว นัดกันตอนเที่ยงๆ หรือตอนกลางวันดีกว่า 9.อย่าออกกำลังตามเทรน ให้ออกกำลังตามวัยจะดีกว่า จะมาวิ่งมาราธอน ขี่จักรยานเสือภูเขา ปีนหน้าผา เตะฟุตบอล ต่อยมวยฯ ทั้งที่ไม่เคยทำเลยอันนี้ อันตรายเกินไป ต่อสุขภาพ เลือกออกกำลังกายทีเหมาะกับวัย เช่น เดิน วิ่งเบาๆทางเรียบ ขี่จักรยานทางเรียบ ว่ายน้ำ เต้นรำฯ แบบนี้จะเหมาะกับวัยมากกว่า 10.อย่าหาเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล จนอาจต้องติดคุกติดตะราง อะไรไกล่เกลี่ย ยอมความกันได้ ก็ยอมๆกันไปบ้าง อย่าได้ถึงติดคุก ติดตะรางกันเลย อยู่ข้างนอก สบายกว่าในคุกมากมายนัก อายุมากแล้ว อย่าเป็นคน “ยอมหัก ไม่ยอมงอ” เหมือนตอนรุ่นๆเลย เดี๋ยวจะตายในคุกเอาเปล่า ใช้ชีวิตในยามสูงวัย ให้มีความสุขและความรื่นรมย์ดีกว่า (เครดิต โดย ดร.พนม ปีย์เจริญ 5-2-2022)
ด้วยรัก และ ปรารถนาดี จาก Super Pat (323)702-0788