ซุปเปอร์แพท
ปิยะพัชรี ศิลปี



การเป็นอาสาสมัครช่วยการเลือกตั้งมิดเทอมประจำปี 2018 ในอเมริกา

วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการเป็นอาสาสมัคร Pollworkers ให้กับการเลือกตั้งมิดเทอมของอเมริกาให้อ่านกัน และถือโอกาสรายงานการไปงาน Meet and Greet ของ Sheriff Jim McDonald ที่ลงสมัครรับเลือกต้ง โดยมีองค์กรณ์ สมาคม ชมรมต่างๆในชุมชนไทยให้ความสนับสนุนจัดงานขึ้นที่ Thailand Plaza Thai Town เทื่อวันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีผู้มาร่วมงานเกือบ 200 คน ขอแสดงความยินดีกับ Sheriff Jim McDonald ที่ดีรับเลือกให้เป็นหัวหน้า Sheriff ของแอลเอเค้านตี้อีกหนึ่งสมัยสมความตั้งใจของชาวไทยที่มีความสนิทสนมกันมาก

การเลือกตั้งมิดเทอมในอเมริกาของปี 2018 นี้ เราสองคนดิฉันและอ.จารย์เชนวริทธ์ ศิลปีได้สมัครเป็นอาสาสมัครช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนผู้มาเลือกตั้งตามที่ทางเขต ลอสแอนเจลิสเคาน์ตี้ได้ขอร้องมา โดยเราต้องไปลงทะเบียนกับหน่วยงานเลือกตั้ง ซึ่งต้องมีคุณสมบัติเป็นสัญชาติอมริกา และได้ลงทะเบียนเพื่อออกเสียงเลือกตั้ง เป็นพลเมืองดีและต้องไปรับการอบรมที่หน่วยงานเลือกตั้งอย่างต่ำ 2 ชั่วโมงซึ่งทางเขต(county)จ่ายชดเชยค่าป่วยการให้ด้วย 2 ชั่วโมง $40 ต่อคน

เราได้รับหมายกำนดการไปช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้เลือกตั้งในวันที่ 6 พฤศจิกายน ตั้งแต่เวลา 6 โมงเช้าเพื่อเตรียมอุปกรณ์ให้ผู้ที่จะมาลงคะแนนเลือกตั้งเข้ามาโหวตเวลา 7.00am. – 8.00pm. ที่ Evans Community Adult School 717 Figueroa Street LA. CA มีผู้มาลงคะแนนที่คูหานี้ เกือบ 2,000 คน เป็นประสบการณ์อีกอย่างหนึ่ง สนุก ได้ความรู้ ได้สัมผัสใกล้ชิดกับพลเมืองอเมริกันทุกชาติทุกศาสนา การอาสาไปทำงานนี้นั้นทางเขตจ่ายให้อาสาสมัครเป็นค่าป่วยการวันละ $100 ต่อคน ด้วยอีกต่างหาก นับว่าได้ประสบการณ์ ได้ความรู้ และยังได้รับเงินชดเชย รายการนี้มีแต่ได้กับได้ ขอบคุณโอกาสดีๆอย่างนี้ค่ะ....มีรูปมาฝากด้วยนะ

ก่อนอื่นเรามารู้จักกันนิดว่า การเลือกตั้งมิดเทอมคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร

โดยทั่วไปการเลือกตั้งมิดเทอมจะจัดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บริหารประเทศผ่านไปแล้วครึ่งวาระ (2 ปี) ซึ่งจะตรงกับระยะเวลาที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) อยู่ครบวาระ 2 ปีพอดี จึงต้องมีการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งใหม่ยกทีมทั้ง 435 คน นอกจากนี้ยังจะมีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ผู้ว่าการรัฐ รวมถึงสมาชิกสภานิติบัญญัติ ซึ่งในแต่ละปีจะมีจำนวนที่ไม่เท่ากันอีกด้วย

ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เป้าหมายคือการชิงชัยเก้าอี้ ส.ส. 435 ที่นั่ง ส.ว. 35 ที่นั่ง ผู้ว่าการรัฐ 36 ที่นั่ง โดยแต่ละพรรคจะต้องได้เก้าอี้ ส.ส. อย่างน้อย 218 ที่นั่ง จึงจะได้รับเสียงข้างมากในสภาล่าง ในขณะที่จะต้องได้เก้าอี้ ส.ว. อย่างน้อย 51 จาก 100 ที่นั่ง จึงจะได้รับเสียงข้างมากในสภาสูง ซึ่งการจัดให้มีการเลือกตั้งมิดเทอมเป็นไปเพื่อให้เกิดการถ่วงดุลอำนาจระหว่างประธานาธิบดีกับเสียงของประชาชน

โดยปกติแล้วการเลือกตั้งมิดเทอมส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยได้รับความสนใจจากพลเมืองอเมริกันเมื่อเทียบกับการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งจะเห็นได้จากสถิติของพลเมืองที่ออกมาใช้สิทธิ์ใช้เสียงในการเลือกตั้งมิดเทอมครั้งผ่านๆ มา ซึ่งครั้งล่าสุดเมื่อปี 2014 มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ไม่ถึง 40%

แล้วทำไมจู่ๆ การเลือกตั้งมิดเทอมครั้งนี้จึงได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก คำตอบของคำถามนี้ก็คือเป็นเพราะผู้ชายชื่อ ‘ทรัมป์’ นี่เอง ซึ่งผลของการเลือกตั้งมิดเทอมในครั้งนี้จะส่งผลต่อการบริหารประเทศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยตรง ถ้าหากพรรครีพับลิกันสูญเสียเสียงข้างมากให้แก่พรรคเดโมแครต การผ่านร่างกฎหมายใดๆ ที่จำต้องผ่านทั้งสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาจะเป็นไปด้วยความยากลำบาก สภาและพรรคฝ่ายค้านจะมีอำนาจในการตรวจสอบรัฐบาลเพิ่มมากขึ้น

แต่ในทางกลับกัน หากพรรครีพับลิกันยังคงรักษาเสียงข้างมากในสภาไว้ได้จะยิ่งเป็นการเน้นย้ำถึง ‘ความชอบธรรม’ ให้กับทรัมป์ในฐานะผู้นำประเทศที่พลเมืองอเมริกันยังคงให้การสนับสนุน

เอาเป็นว่าเรามารู้เรื่องการเลือกตั้งเพียงแค่นี้ก่อนละกัน เพราะตามปกติดิฉันจะไม่ค่อยเขียนบทความเกี่ยวกับการเมืองสักเท่าไร แต่พอดีเข้าไปเกี่ยวข้องเลยนำมาเล่าสู่กันฟังพอหอมปากหอมคอ

พบกันใหม่ฉบับหน้า ด้วยรักและปรารถนาดีจาก Super Pat