เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา 3 เดือน ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นอกเหนือจากปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน ไหว้พระสวดมนต์ตามปกติแล้ว กิจกรรมบุญอีกส่วนหนึ่งที่ทางวัดไทยฯ จัดขึ้นตลอดเทศกาลเข้าพรรษา การแสดงพระธรรมเทศนามหาเวสสันดรชาดก หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า “เทศน์มหาชาติ” เป็นการพรรณนาพระประวัติพระชาติสุดท้ายขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก่อนประสูติเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ โอรสของพระเจ้าสุทโธทนะ แห่งนครกบิลพัสดุ์ แล้วเสด็จออกผนวชแสวงหาโมกขธรรมจนได้ตรัสรู้เป็นศาสดาเอกของโลก โดยพระชาติสุดท้ายดังกล่าวนั้น ทรงประสูติเป็นพระเวสสันดร โอรสของพระเจ้าสัญชัย แห่งนครสีพี ทรงบำเพ็ญบารมีด้วยการบริจาคทาน
การเทศน์มหาเวสสันดรชาดก หรือ "การเทศน์มหาชาติ" นั้น มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยเป็นอย่างน้อยเพราะปรากฏหลักฐานอยู่ในจารึกหลักที่ 3 หรือจารึกนครชุม ซึ่งจารึกขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1900 ในรัชกาลของพระมหาธรรมราชาที่ 1
หรือพญาลิไท ความว่า "…ธรรมเทศนาอันเป็นต้นว่า พระมหาชาติหาคนสวดแลมิได้เลย…" จึงกล่าวได้ว่า ชาวพุทธไทยนิยมจัดให้มีเทศน์มหาชาติมาแต่โบราณแล้ว โดยแบ่งเนื้อหาสาระที่เทศน์ออกเป็นตอนๆ เรียกว่า “กัณฑ์” มีทั้งหมด 13 กัณฑ์ เริ่มด้วย “กัณฑ์ทศพร” เป็นกัณฑ์แรก
เนื้อหาสาระของกัณฑ์นี้ เป็นการพรรณนาถึงพระอินทร์ประสาทพรแก่พระนางผุสดี ก่อนที่จะจุติลงมาเป็นพระราชมารดาของพระเวสสันดร แต่ปางก่อนนั้นผุสดีเทวีเสวยชาติเป็นอัครมเหสีของพระอินทร์ เมื่อจะสิ้นพระชนมายุจึงขอพร 10 ประการ จากพระอินทร์ ทั้งยังเคยโปรยผงจันทร์แดงถวายพระวิปัสสีพุทธเจ้าและอธิฐานให้ได้เกิดเป็นมารดาพระพุทธเจ้าด้วย พร 10 ประการนั้นมีดังนี้
1. ขอให้เกิดในกรุงมัททราช แคว้นสีพี
2. ขอให้มีดวงเนตรคมงามและดำขลับดั่งลูกเนื้อทราย
3. ขอให้คิ้วคมขำดั่งสร้อยคอนกยูง
4. ขอให้ได้นาม "ผุสดี" ดังภพเดิม
5. ขอให้พระโอรสเกริกเกียรติที่สุดในชมพูทวีป
6. ขอให้พระครรภ์งาม ไม่ป่องนูนดั่งสตรีสามัญ
7. ขอให้พระถันเปล่งปลั่งงดงามไม่ยานคล้อยลง
8. ขอให้เส้นพระเกศาดำขลับตลอดชาติ
9. ขอให้ผิวพรรณละเอียดบริสุทธิ์ดุจทองคำธรรมชาติ
10. ขอให้ได้ปลดปล่อยนักโทษที่ต้องอาญาประหารได้
วัดไทยฯ จัดแสดงกัณฑ์แรกนี้ในวันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม ศกนี้ ขอเชิญท่านสาธุชนร่วมฟังเทศน์มหาชาติโดยพร้อมเพรียงกัน เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012