Special Scoop
เปิดใจ กงสุลใหญ่ (คนใหม่) เจษฎา กตเวทิน (รองอธิบดีกรมสารนิเทศ)

จากการเลี้ยงต้อนรับอย่างอบอุ่น ณ ห้องอาหารนนทรี ใกล้มหาวิทยาลัยเกษตร เมื่อคืนวันพุธที่ 7 มีนาคม 2555 โดย คุณดำฤทธิ์ วิริยะกุล หัวหน้าข่าวภูมิภาค หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และผู้อำนวยการรายการ “คนไทยต่างแดน” ที่เสนอผ่านเครือข่ายของ TGN NETWORK แพร่ภาพให้พวกเราได้ชมทางสหรัฐอเมริกามาช้านานให้กับคณะคอนเสิร์ตการกุศล “รวมเสียง รวมใจ ศิลปินไทยในลอสแองเจลีส” นำโดยหัวหน้าคณะ คุณเพ็ญพิมพ์ จิตรธร ที่สามารถนำนักแสดง นักร้องดังในอดีตกลับสู่มาตุภูมิไทยได้ถึง 10 ท่าน ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากคนไทยในอเมริกาที่มาสนับสนุนกันมากมาย ตลอดจนคนไทยที่เคยไปอยู่อเมริกาก็มาจองที่นั่งกันจนที่นั่งเกือบ 100 ที่ ณ โรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมกรุง ถูกจับจองเกือบหมดเลย และหนึ่งในผู้ที่มาต้อนรับคณะของศิลปินแอลเอก็คือ ท่านเจษฎา กตเวทิน กงสุลคนใหม่ของนครลอสแองเจลิส (รองอธิบดีกรมสารนิเทศ) ซึงได้รับการแต่งตั้งให้มาดำรงตำแหน่งที่สำคัญ และมากด้วยภารกิจที่จะต้องสานต่อจาก กงสุลใหญ่ดำรง ใคร่ครวญ ที่มีผลงานมากมายต่อชุมชนไทย กับเสียงคำวิจารณ์จากคนบางคนในชุมชนผมเลยขอถือโอกาสเป็นตัวแทนของชุมชนไทยแอลเจลิสมาทำความรู้จักกับท่านเจษฎา กตเวทิน และเพื่อให้ชุมชนไทยได้รับทราบกับจุดยืน และวิสันทัศน์ของท่านกับชุมชนไทยในสหรัฐที่ถือเป็นชุมชนที่ใหญ่ที่สุด นอกราชอาณาจักรไทย

คิด : สวัสดีครับท่าน ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับตำแหน่งใหม่ที่ท่านกำลังจะมารับ คือตำแหน่งกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแองเจลิสที่เป็นเหมือนตัวแทนของคนไทยใน 7 รัฐ ผมขอเรียนถามประวัติของท่านนิดหน่อยนะครับในการทำงานที่กระทรวงการต่างประเทศ และประวัติการศึกษาโดยสังเขป

กงสุลใหญ่เจษฎา : ผมเรียนจบคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ เสร็จแล้วก็ไปเรียนปริญาโทต่อที่ CENTRAL MISSOURI STATE UNIVERSITY ประเทศสหรัฐอเมริกา ในด้านรัฐศาสตร์เช่นกัน เสร็จแล้วก็กลับมาประเทศไทย และเริ่มทำงานในการะทรวงต่างประเทศในปี 2530 ทำงานในกรมกองต่างๆในกระทรวงเช่น กรมเศรษฐกิจ, กรมโครงการระหว่างประเทศ, กรมสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวง หลังจากนั้นก็ไปเป็นกงสุลที่ ออตตาว้า ออสเตรเลีย, จากาต้า มาเลเซีย และตำแหน่งสุดท้ายเป็นรองอธิบดีสารนิเทศ และเป็นผู้อำนวยการสถาบันการต่างประเทศ และสุดท้ายเป็นรองอธิบดีกรมสารนิเทศ เป็นตำแหน่งสุดท้าย

คิด : มีความคิดเห็นอย่างไรกับชุมชนไทยในสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะในแคลิฟอร์เนีย

กงสุลใหญ่เจษฎา : เป็นชุมชนที่มีความสำคัญมาก อับดับแรกก็อยากจะไปทำความรู้จักกับชุมชนคนไทยองค์กรต่างๆ เพราะอาณาเขตรับผิดชอบกว้างใหญ่มาก ขอความร่วมมือกับชุมชนเราในการทำงานเพื่อสร้างความเข้มแข็ง และทำอย่างไรกับชุมชนรุ่น 2-3 ที่เติบโตและเกิดในสหรัฐให้มีความเชื่อมโยงผูกพันกับประเทศไทย, ผลักดับให้เขามีบทบาททางการเมือง ธุรกิจ ให้เหมือนกับชุมชนอื่นๆได้อย่างไร

คิด : ท่านมีการพูดคุยกับท่านกงสุลใหญ่ดำรง ใคร่ครวญ หรือยังครับและท่านได้ฝากทำอะไรไว้, คิดอย่างไรกับชุมชนไทยที่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก แบ่งสีกันซึ่งบางครั้งมีเสียงวิพากวิจารณ์ออกมาโจมตีการทำงานของสถานกงสุล

กงสุลใหญ่เจษฎา : มีการพูดกัน นี่ท่านดำรง ใคร่ครวญ ก็เพิ่งกลับไปแอลเอ เมื่อ 2 วันนี้ได้พูดคุยกันในภาพรวมกับปัญหา และความต้องการต่างๆของชุมชนไทยหลายประเด็น ผมขอไปดูอีกที่หนึ่ง ส่วนเรื่องเสียงวิจารณ์นั้นไม่มีปัญหา ผมคิดว่า ผมมีความตั้งใจจริงในการทำเพื่อส่วนรวม และมุ่งมั่นที่จะทำตัวเองให้เป็นที่รู้จักเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด ผมคิดว่าคงจะมีอะไรก็พูดคุยกันได้ เพราะจุดประสงค์ของสถานกงสุลก็คือการบริการชุมชนไทยอยู่แล้วท่านกงสุลดำรง ใคร่ครวญ ก็ได้ฝากถึงองค์กร 3 เสาหลักของชุมชนไทยที่ท่านได้ผลักดันขึ้นสภาหอการค้าไทย อเมริกันสมาคมไทย และสมาคมวัฒนธรรมไทย ซึ่งผมก็เห็นด้วยเต็มที่ว่าองค์กรเหล่านี้เป็นเสาหลัก แน่นอนการทำงานของผมผ่านสมาคมต่างๆซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นและจะทำต่อไปซึ่งผมคิดว่าวัดวาต่างๆและองค์กรทุกองค์กรก็จะไปทำความรู้จักด้วย ขอความร่วมมือด้วย และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

คิด : สภาหอการค้าไทยอเมริกัน ซึ่งผมเป็นเลขาธิการอยู่ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากท่านกงสุลใหญ่ดำรง ใคร่ครวญ ซึ่งหอการค้ามีผลงานตลอดระยะเวลา 1 ปีเศษที่ผ่านมา และหนึ่งในโครงการที่ท่านได้ริเริ่มไว้คือการนำคณะกรรมการบอร์ด และนักธุรกิจชั้นนำที่เป็นสมาชิกของหอการค้ากลับมาพบผู้นำของรัฐบาล ของอกชน เมื่อปีที่แล้วอยากถามความเห็นในโครงการนี้ และงบประมาณของสถานกงสุลในโครงการต่างๆต่อองค์กรเหล่านี้

กงสุลใหญ่เจษฎา : ผมได้รับทราบว่า งบประมาณปีนี้ลดลง ยกตัวอย่างกงสุลสัญจรซึ่งผมว่าเป็นประโยชน์กับพี่น้องชาวไทยที่ไม่มีสถานกงสุลในเมืองใกล้เคียงก็ถูกตัดไปครึ่งหนึ่ง ตอนนี้ก็อยู่ในงบประมาณครึ่งปีผมก็ต้องขอให้กระทรวงทบทวน ผมขอไปดูอีกหน่อย ถ้าเป็นโครงการที่ดี มีประโยชน์ต่อประเทศ ต่อชุมชนไทย ผมก็คิดว่าคงไม่มีปัญหาผมดูแล 13 รัฐ ขอดูงบภาพรวม ขอโอกาสเข้าไปดูรายละเอียดอีกทีหนึ่งบางโครงการถ้าให้ไม่ได้ปีนี้ก็อาจจะขอไปในปีหน้า ขอเวลาไปคิดดูอีกที

คิด : การทำงานในสถานกงสุลในการบริการชุมชนไทยผมได้รับทราบจากประชาชนหลายๆคนในเรื่องโทรศัพท์ในสถานกงสุล ซึ่งกว่าจะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ก็แสนลำบาก บางครั้งก็มีกิริยาไม่สุภาพ และพักเที่ยง 12.00 น. ถึง 13.00 น. ก็ปิด ซึงประชาชนบางคนขับรถมาจากที่ไกลๆ ต้องมารอหยุดพักทานข้าว มีความเป็นไปได้มั้ยที่จะเปิดระหว่างช่วงพักทานข้าว เพราะหน่วยราชการของรัฐอเมริกาเขาก็สามารถจัดหัวหน้ามาบริการในช่วงพักกลางวันได้

กงสุลใหญ่เจษฎา : ผมขอเข้าไปดูก่อน ขอเข้าไปศึกษาในข้อจำกัดความเป็นไปได้ ถ้าทำได้ผมก็ยินดีทำ เพราะเห็นใจคนที่ขับรถมาไกลๆ ผมเน้นในการบริการประชาชนอยู่แล้ว ขอรับไว้ก่อน

คิด : ท่านจะฝากอะไรให้กับชุมชนไทย โดยเฉพาะในแคลิฟอร์เนีย ได้ทราบว่าท่านจะไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 เมษายน 2555 ที่จะถึงนี้

กงสุลใหญ่เจษฎา : ครับ คิดว่าจะไปดูในวันที่ 19 เมษายน 2555 นี้ ผมขอโอกาสในการทำงานในตำแหน่งใหม่ ผมมีความจริงใจ และมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อส่วนรวม ก็ขอเวลาพิสูจน์ เพราะคำพูดมันมีแต่คำสวยๆ ขอโอกาสดูว่าเราเป็นของจริงของปลอมนะครับ ข้อสังเกตของผมหลังจากได้พูดคุยท่านกงสุลใหญ่คนใหม่ เจษฎา กตเวทิน ว่าท่านเป็นคนหนุ่มไฟแรง มีความตั้งใจจริงในการทำงาน มีประสบการณ์ในกรมกองต่างๆ ในกระทรวงต่างประเทศมาก ได้ทำการบ้านในการเข้ามารรับตำแหน่งใหม่พอสมควร ท่านทำตัวเรียบง่าย มีอัธยาศัยดีเป็นมิตรกับทุกๆคนที่ได้พูดคุยด้วย ท่านมีความเข้าใจถึงปัญหาของชุมชนไทยในสหรัฐอเมริกาว่ามีจุดอ่อน จุดแข็งอยู่ตรงไหนชอบมากที่ท่านเน้นจะผลักดันใน GENERATION 2-3 ให้มีความผูกพันกับประเทศไทยให้มากขึ้น นำเขาเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองท้องถิ่น และการทำธุรกิจให้มากขึ้นท่านเห็นความสำคัญในองค์กรหลักตลอดจนวัดวา และองค์กรอื่นๆ ในการช่วยเหลือผลักดันให้ชุมชนไทยมีศักยภาพเท่าเทียมกับชุมชนอื่นๆ ซึ่งท่านก็รู้ว่าพูดมันง่าย แต่เวลาทำจริงๆแล้วมันยาก แต่พวกเราก็ยินดีต้อนรับ และขอให้ท่านประสบผลสำเร็จในความตั้งใจที่จะพัฒนาชุมชนไทยในประเทศสหรัฐอเมริกาให้ดีขึ้นต่อไป โชคดีครับ

รายงานโดย... คิด ฉัตรประภาชัย