ก่อนอื่นต้องขอบคุณแฟนคลับหลาย ๆ ท่านที่ช่วยหาเสียงให้กับท่าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ซึ่งกำลังจะถึงวันเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ดีเดย์แล้ว ในวันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2556 ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ และเพื่อไทย ออกรณรงค์หาเสียงกันดุเดือดมาก สรรหากลยุทธ์อะไรได้ก็งัดออกมาใช้ให้หมด มีการไปฟ้องร้องกับ กกตวิพากษ์วิจารณ์กันให้มั่วถึงความไม่ยุติธรรมเอาเปรียบของแต่ละพรรค พรรคเพื่อไทยซึ่งมีทั้งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สส มาช่วยหาเสียงเป็นประจำ ฉะนั้น จึงเห็นไดัชัดว่า ถ้าพรรคใดพรรคหนึ่งได้คงจะทำงานกันลำบาก เพราะจะมองหน้ากันได้อย่างไร เพราะต่างก็ไม่ไว้ใจกัน ฉะนั้นก็ขึ้นอยู่กับประชาชนในกรุงเทพมหานครเท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสินว่าจะเลือกจากคุณสมบัติของผู้สมัครมากกว่าที่จะคำนึงถึงผู้สมัครของพรรคการเมืองไหม?

ผู้สมัครอิสระจึงมีโอกาสที่จะได้รับความไว้วางใจมากในการเลือกตั้งในครั้งนี้ เพราะจากการสำรวจของประชาชนเขาบอกว่า เบื่อที่สุด คือ การทุจริตคอรัปชั่น มากถึง 40.55% ฃึ่งรวมถึงการทะเลาะกันระหว่างพรรครัฐบาล และพรรคฝ่ายค้านที่ตั้งหน้าตั้งตาคอยจับผิด และถ้าท่านดูจากคุณสมบัติของท่านผู้สมัครทั้ง 25 คนแล้ว ผู้ที่มีคุณสมบัติซื่อสัตย์สุจริตตลอดระยะเวลา 40 กว่าปี ก็คือ ท่าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส แน่นอน นอกจากนี้เหตุผลที่ท่านมีความเหมาะสมที่จะเป็นผู้ว่า กทม.ฯ ก็คือ

1. ไม่สังกัดพรรคการเมืองใด ไม่ต้องทำตามคำสั่งของพรรค ถือผลประโยชน์ของชาติเป็นตัวตั้ง

2. มีความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ ดูแลคนกว่า 250,000 คน ใน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช)มาแล้ว

3. มีวิสัยทัศน์ที่จะเห็นคนกรุงเทพฯมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

4. ขยัน อดทน

5. ซื่อสัตย์สุจริต

ท่านบอกว่า ขออาสาแก้ปัญหากรุงเทพฯ เพื่อประชาชนทุกคน โดยมิได้มีความทะเยอทะยาน และมักใหญ่ใฝ่สูงทางการเมืองแต่อย่างใด โดยยึดหลัก “ผมขอรับใช้ชาติ ไม่รับใช้พรรค” จะบริหารกรุงเทพมหานครโดยสุจริต โปร่งใส ยึดหลักธรรมาภิบาล โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วม ควบคุม และตรวจสอบได้ ภายใต้ระยะเวลา “1 ปี เปลี่ยนแปลงดีขึ้น 4 ปีเรียบร้อยสำเร็จตามเป้าหมาย”

แล้วท่านจะหาคนแบบนี้ได้ที่ไหน ผมรู้จักท่านมาตั้งแต่ปี 2535 ยังไม่เคยเห็นท่านเปลี่ยนแปลง พูดตรง ๆ โผงผางบ้าง เพราะคนข้าง ๆ ตามท่านไม่ค่อยทัน ทำงานไม่ได้ดั่งใจท่าน ก็อาจจะพูดแบบลูกพ่อขุนบ้าง แต่จุดมุ่งหมายดี มีความจริงใจที่จะเข้ามาแก้ปัญหาให้พวกเราชาวกรุงเทพฯ ผมตั้งใจจะกลับไปฉลองกับท่านในวันที่ท่านจะเดินเข้ามารับตำแหน่งผู้ว่ากรุงเทพมหานครคนใหม่ครับ

กฏหมายเพิ่มเติมสำหรับปี 2013 ของรัฐแคลิฟอร์เนีย

กฏหมายที่คิดว่าเราควรรู้ เพราะมันอาจจะเกี่ยวข้องกับเรา คือ

Business and Professional Code (กฎหมายเกี่ยวกับธุรกิจและวิชาชีพ)

มาตรา 7583.12 (Amended): Security Guard and Firearms

เป็นกฎหมายเพิ่มเติมบังคับให้คนที่เป็น รปภ. แล้วมีอาวุธพกในขณะปฏิบัติหน้าที่จะต้องมีบัตรอนุญาตในการพกพาอาวุธติดตัวตลอดเวลา (Hard Copy) ใบจริงเท่านั้น พร้อมด้วยบัตรประจำตัวที่มีรูปถ่ายที่ชัดเจน

มาตรา 21609.1 (Added): Junk Dealer / Recycler

เพิ่มบังคับให้คนที่รับซื้อหัวปั้มประปาของกองดับเพลิง (Fire Hydrants) หรือส่วนประกอบต่าง ๆ เช่น พวกทองเหลืองน๊อตฝาปิดของไฟฟ้า ประปา ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นของสาธารณะที่ซื้อมาด้วยภาษีของประชาชน ผู้รับซื้อจะต้องมีใบอนุญาตที่จะนำไปขาย ออกโดยองค์กรสาธารณูปโภค (Public Utilities Commission) กฎหมายนี้จะทำให้คนที่คิดขโมยอุปกรณ์เหล่านี้หาที่ขาย/ซื้อได้ยาก

กฎหมายแพ่ง (Civil Code)

มาตรา 1161.3 (Amended): Eviction and Elder/Dependent Adult Abuse

กฎหมายเพิ่มเติมนี้บอกเตือนเจ้าของบ้าน อพาร์ทเม้นท์ ที่คิดจะขับไล่เหยื่อที่ได้รับการกระทำจากอาชญากรต่าง ๆ เช่น กรณีถูกแฟนตบตี (Domestic Violence) ถูกละเมิดทางเพศ (Sexual Assault) หรือถูกตามตื้อ สกดรอย (Stalking) กฎหมายนี้ไม่อนุญาตให้ขับไล่หรือไม่ต่อสัญญาเช่าให้พวกเขา

Government Code (กฎหมายของรัฐบาล)

มาตรา 8594.10 (Added): Silver Alert

กฎหมายเพิ่มเพื่อให้บุคคลที่หายสาปสูญไปโดยที่หาสาเหตุไม่ได้ได้ใช้ การเตือนจากทางตำรวจบนทางด่วน หรือสื่ออื่น ๆ ได้ บุคคลที่หายจะต้อง

1. มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป

2. ตำรวจได้ใช้ความพยายามทุกวิถีทางเพื่อหาบุคคลนี้แล้วยังไม่เป็นผล

3. บุคคลดังกล่าวหายโดยไม่มีเหตุผลเป็นที่น่าสงสัย

4. บุคคลดังกล่าวมีความเป็นไปได้ที่จะทำร้ายตนเอง และผู้อื่น เป็นภัยต่อสังคม

ซึ่งการออกคำเตือน (Silver Alert) คล้าย ๆ กับ Amber Alert ก็จะได้ให้ประชาชนช่วยแจ้งแบะแสหลังจากได้รับทราบการสูญหายของบุคคลดังกล่าวได้อย่างรวดเร็วเป็นบริเวณกว้างทั่วรัฐ และประเทศได้

Health and Safety Code (กฎหมายเกี่ยวกับสุขภาพ / ยาเสพติด และความปลอดภัย)

มาตรา 11376.5 (Added) : Medical Assistance for Person Who is Overdosing on Drugs.

กฎหมายเพิ่มเติมนี้อนุญาตให้คนที่ติดยาเสพติด หรือมียาเสพติดหรืออุปกรณ์สารเสพติดเพื่อใช่ส่วนตัวในครอบครอง จะไม่ถูกดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ถ้าบุคคลดังกล่าวต้องการหาที่บำบัดในการรักษาการติดยาเสพติด สำหรับพ่อแม่ที่มีลูกติดยาก็ไม่ต้องกลัวว่าตำรวจจะจับ ถ้าเราจะไปหาที่บำบัดรักษา

Penal Code (กฎหมายอาญาทั่วไป)

มาตรา 273 (Added Child): Reporting of Child Death or Missing

บังคับให้ผู้ปกครอง หรือพ่อแม่ที่มีเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี ถ้าเด็กตายหรือหายตัวไป ต้องแจ้งกับตำรวจภายใน 24 ชั่วโมง กฏหมายนี้ยกเว้น ถ้าเด็กอยู่ในความดูแลของหมออยู่โรงพยาบาล โรงพยาบาลก็จะแจ้งให้

มาตรา 594.37 (Added): Picketing Funerals

มาตรานี้เพิ่มเติมห้ามไม่ให้คนมาประท้วง ถือป้าย ในงานศพ (ยกเว้นเป็นสถานที่ส่วนบุคคล) ไม่ต่ำกว่า 300 ฟิต (Feet) จากสุสานฝังศพ โบสถ์ วัด ในระหว่างสวดศพ และห้ามใช้เครื่องเสียงทุกประเภทด้วย มาตรานี้เพิ่มเติมเพราะมีชาวบ้านมาประท้วง หรือมาสมน้ำหน้าพวกโจร แก๊งค์ ที่ตาย ญาติผู้เสียหายแค้นจะมาประท้วงในงานศพไม่ได้นะครับ

มาตรา 3407 (Added): Pregnant Inmate and Handcuffing

ห้ามมิให้ผู้คุมใส่กุญแจมือไขว้หลัง หรือเครื่องพันธนาการต่าง ๆ ต่อผู้ต้องหาที่ตั้งครรภ์ หรือพึ่งคลอดลูก นอกเสียจากผู้คุมคิดว่าผู้ต้องหาจะก่อความไม่สงบทำร้ายผู้คุมหรือกับผู้อื่น หรือกับประชาชนทั่วไปในความปลอดภัย

จะเห็นว่า สส ที่นีจะรีบออกกฏหมายแก้ไขเพิ่มเติมทันทีเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ไม่เหมือนกับบ้านเรากว่าจะแก้ไขอะไรมันแสนลำบากมีแต่คำนึงถึงผลประโยชน์ของพรรคพวกตัวเองเป็นใหญ่ ยังมีกฎหมายจราจรที่เพิ่มเติมใช้ในปี 2013 อีกหลายมาตรา เช่นถ้าถูกจับในการขับขี่ในขณะเมา (DUI) ตำรวจจะจับไปตรวจเลือด ซึ่งปกติจะตรวจปัสสาวะ เป็นต้น โอกาสหน้าจะเขียนต่อ

ขออนุญาตินำลงบทความในไทยรัฐ เขียนโดย กิเลน ประลองเชิง ลงวันศุกร์ที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ตรงเป้าฟังชัดเจน

ทางเลือกเดียว

บทเรียนบทหนึ่ง ซึ่งสอนผมให้รู้ว่า สื่อหนังสือพิมพ์นั้น...ไม่สามารถชี้นำให้ชาวบ้านรักและชัง หรือจะตัดสินใจลงคะแนนให้นักการเมืองคนไหน เกิดขึ้นในการเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2522

ก่อนการเลือกตั้งครั้งนั้น หลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 คุณสมัคร สุนทรเวช เป็น รมว.มหาดไทย...รัฐบาลทหาร ผลงานขึ้นหน้าขึ้นตา ก็คือ ใช้อำนาจคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ปิดหนังสือพิมพ์แทบจะเป็น ...รายวัน ขนาดสยามรัฐ ที่คุณสมัครเคยเขียนบทความ ใช้นามปากกา นายหมอดี จนชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก...ก็ยังไม่เว้น นสพ.ฉบับที่ผมทำตอนนั้น ถูกปิดสองครั้ง รีไรเตอร์ถูกสั่งให้เปิดวิทยุฟังข่าวปิด นสพ.ทุก 7 โมงเช้า...พ้นไปวัน ก็โล่งอกกันไปวัน

เพราะฉะนั้น เมื่อคุณสมัครไปลงพรรคไหน พวก นสพ.ก็จะอยู่ตรงกันข้ามก่อนเลือกตั้ง เสียงทางหนังสือพิมพ์ไม่เอาสมัคร แต่ยิ่งตีก็ยิ่งดัง...คุณสมัครไปปราศรัยที่ไหน คนก็แห่แหนกันไปฟังผลนับคะแนนเลือกตั้งกรุงเทพฯ ไม่เป็นทางการหลังเที่ยงคืน...ตอนนั้นผมทำข่าวอยู่เพชรบุรี เพราะเป็นปีที่ คุณณรงค์ กิตติขจร ไปสมัครเลือกตั้ง คนจากมหาดไทย เย้ยให้เจ็บใจ...พวกคุณเขียนตีเขาอยู่ทุกวัน คิดยังไงเมื่อคุณสมัครชนะ

บทเรียนนั้น ผมเอามาเทียบเคียงกับกระแสการเลือกผู้ว่าฯ กทม.ตอนนี้ วัดจากโพล วัดจากสื่อ...ซึ่งก็รู้กันอยู่ ใครมีสื่ออยู่ในมือมากกว่า ใครได้พวกในสื่อกระแสหลักมากกว่า เพราะมีทั้งเงินมีทั้งอำนาจผมจึงไม่เชื่อว่า กระแสที่ตั้งใจสร้าง...หวังจะได้ใจ พวกที่อยากเลือกผู้ชนะ จะเกิดขึ้นได้ง่ายๆเพื่อนๆผู้สันทัดกรณีหลายคน ยังเชื่อว่า นับคะแนนแล้ว ลงท้าย ประชาธิปัตย์ ก็จะชนะ...เหมือนที่เคยชนะมาแล้ว

แต่ผมบังเอิญผมชักธง ไม่เอาสองพรรคมานาน...นับแต่วันที่ประชาธิปัตย์ เล่นเกม...ประกาศไม่ลงเลือกตั้ง พันธมิตร ตั้งม็อบยึดทำเนียบ ยึดสนามบิน จนนำไปสู่การที่ทหารปฏิวัติ...ผมก็ตัดเยื่อใย...ไปเลยเมื่อไม่ยอมรับกระบวนการเลือกตั้ง...เสียแล้ว ก็ไม่ควรใช้ชื่อพรรค ประชาธิปัตย์ ซึ่งก็คือ ประชาธิปไตย อีกต่อไป

ละเมื่อฝ่ายคุณทักษิณ เปิดเกมสู้ใหม่ เริ่มจากการยึดสี่แยกราชประสงค์ ไปถึงการประกาศเผาเมือง...ที่จริง ก็เป็นเรื่องเลวร้าย...จนต้องด่าต้องประณามกัน...แต่ผมก็ค่อนไปทางเห็นใจ...วิธีการฝ่ายทักษิณ แม้จะไม่เหมือน แต่รูปแบบเดียวกันเอาประชาชนเป็นตัวประกันเหมือนๆกันฝ่ายทักษิณเลือกตั้งชนะ เป็นรัฐบาล ฝ่ายประชาธิปัตย์แพ้ ก็เป็นฝ่ายค้าน...การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ ข้อดี...ก็คือ ดีกว่าการยึดสนามบิน-เผาเมือง...แพ้ชนะตัดสินกันด้วยมือประชาชน

ประชาชนส่วนใหญ่ ผ่านความรักความชัง มากับสงครามการเมืองเก้าปี ก็ล้วนแต่มีธง...สี ปักอยู่ในใจอยู่แล้ว จึงเป็นการยากที่จะให้สื่ออย่างพวกผม หรือใคร...จะไปฉุดให้กลับมาตั้งหลักคิดใหม่

ถ้ายังเลือกให้สองพรรคนี้ แพ้ชนะกันต่อไป สงครามยืดเยื้อก็จะยาวนานอีกต่อไป หาจุดจบไม่ได้สักที

ประชาชนที่เคยบ่นว่า หมดความอดทนกับกลเกมสงครามการเมือง...ที่ทำร้ายทำลายบ้านเมือง...ควรจะสอนบทเรียนให้พรรคการเมืองใหญ่ ได้รู้ว่า แพ้ชนะต้องอดทนอดกลั้น อยู่ในเกมประชาธิปไตยแท้ๆ...เท่านั้นและหาก...ยังมีคนเก่งคนดีเหลืออยู่เป็นทางเลือก...ผมจึงไม่ลังเลที่จะเลือก...เพราะเห็นว่า ดีกว่าไปกาในช่องไม่ประสงค์จะเลือกเบอร์ใด เพราะกาแต่ช่องนี้ มานานหลายการเลือกตั้งเต็มที

เด็กรุ่นลูกผมหลายคน...บอกจะเลือกสุหฤท เบอร์ 17 เขาว่า พูดจากันในสื่อออนไลน์รู้เรื่อง คนรุ่นใหญ่ตั้งใจเลือกเบอร์ 11 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เพราะชอบใจในความซื่อตรงมั่นคง ปราบคอรัปชัน และชอบสโลแกน “กรุงเทพต้องปลอดพรรคการเมือง”คนรุ่นนี้ เบื่อพรรคการเมือง

การตัดสินใจ สื่อหรือใครก็ชี้นิ้ว หรือชี้นำใครไม่ได้...หรอกครับ สรุปตัวเองด้วยเหตุผลของตัวเองให้พร้อม วันที่ 3 มี.ค.นี้ ไปลงคะแนน...ถ้าพรรครัฐบาลชนะ...ก็พร้อมจะยกบ้านเมืองทั้งชั้นใน ชั้นนอกให้เขาไปผมว่า ข้อดีก็มี อย่างน้อยเวลาน้ำท่วมใหญ่ จะได้ด่าได้ถูกฝาถูกตัว.กิเลน ประลองเชิง

โชคดีครับ
คิด ฉัตรประภาชัย