Special Scoop



“To Serve At The Pleasure Of The President”

เป็นวลีที่แปลได้ว่า จะรับใช้ตามความประสงค์หรือความพอใจของท่านประธานาธิบดี ซึ่งใช้กันมาตั้งแต่สมัยวิคตอเรีย แคนาดา ปีค.ศ. 1867 มีกษัตริย์เป็นคนแต่งตั้งตำแหน่งสำคัญต่าง ๆ

และที่เป็นข่าวใหญ่ในสัปดาห์นี้ ก็คือข่าวที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ปลดผู้อำนวยการสำนักงานตำรวจสอบสวนกลางของสหรัฐฯ (Federal Bureau of Investigation, F.B.I.) หรือเอฟบีไอ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยหลายท่านสงสัยว่าประธานาธิบดี มีสิทธิ์ปลดผู้อำนวยการ F.B.I.ได้อย่างไร โดยไม่มีการไต่สวน เพียงแค่บอกว่าทำงานไม่มีประสิทธิภาพ จึงเป็นที่มาของบทความในวันนี้

อำนาจของประธานาธิบดี ในการแต่งตั้งและปลดได้ (Political Appointees) ซึ่งมีอยู่เป็นพัน ๆ ตำแหน่งในคณะรัฐบาลของประธานาธิบดีแต่ละสมัย หรือแม้แต่ในระดับท้องถิ่น

นักการเมืองที่ได้รับเลือกจากประชาชนโดยการเลือกตั้ง เช่น ประธานาธิบดี (President) ผู้ว่าการรัฐ (Governor) นายกเทศมนตรี(Mayor) สมาชิกสภาเทศมนตรี (Council Members) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (House of Representatives) หรือสมาชิกวุฒิสภา (Senators) ล้วนมีอำนาจในการแต่งตั้งคนที่ไว้วางใจ คนใกล้ชิด บ้างก็เคยทำงานกันมาก่อน รู้นิสัยใจคอ และสไตล์การทำงานเป็นอย่างดี มีความซื่อสัตย์ จงรักภักดี มีอุดมการณ์ที่คล้ายคลึงกัน

ฉะนั้น ประธานาธิบดีสามารถแต่งตั้งบุคคลที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี (Secretary) ในกระทรวงต่าง ๆ รวมถึงรัฐมนตรีช่วย อัยการสูงสุด (U.S. Attorney General) เอกอัครราชทูตอเมริกาประจำประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ผู้อำนวยการสำนักงานหลัก ๆ ที่สามารถขับเคลื่อนนโยบายของประธานาธิบดีได้ แต่ทุกตำแหน่งต้องได้รับความเห็นชอบโดยรัฐสภาล่างและบนด้วย

ในระดับท้องถิ่นก็เช่นกัน ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียมีอำนาจแต่งตั้งคณะผู้บริหารในกระทรวงต่าง ๆ ของรัฐ นายกเทศมนตรีมีสิทธิ์แต่งตั้งหัวหน้าตำรวจแอลเอ พีดี (ยกเว้นส่วนของแอลเอเคาน์ตี้เชอริฟ ที่ได้รับเลือกตั้งจากประชาชนทุก 4 ปี) ผู้อำนวยการบริหารสนามบิน LAX ผู้อำนวยการหัวหน้าแผนกต่าง ๆ ของเทศบาลเมืองแอลเอทั้งหมด

ข้อดีคือ ตำแหน่งทางการเมืองเหล่านี้ไม่ต้องสอบเข้าแข่งขันกับใคร คือถ้าผู้แต่งตั้งชอบ ก็เสนอให้สภาลงมติรับ ก็จบ ส่วนข้อเสียคือ เจ้าหน้าที่เหล่านี้เรียกว่า "At-Will Employee" คือ สามารถถูกปลดได้ทุกเวลาจากผู้แต่งตั้งโดยไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลมากมาย หรือไม่มีเลยก็ได้ ดังเช่น นายเจมส์ โคมีย์ ผ.อ. เอฟบีไอ ที่ได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดีโอบามา ในปี 2008 พอมาถึงนายทรัมป์ เห็นเขาทํางานไม่เข้าสายตา ก็ถูกเชิญให้ออก แล้วเลือกคนที่เขาไว้วางใจ มีอุดมการณ์คล้าย ๆ กัน มีความจงรักภักดี (Obedience & Loyalty) เข้ามาแทน

แต่ที่ถูกครหาและตำหนิ คือการปลดกลางอากาศ โดยไม่มีการโทรศัพท์ หรือเรียกมาพบ โดยที่นายโคมีย์ทราบข่าวในระหว่างการเดินทางมากล่าวสนุทรพจน์ที่แอลแอ รับรู้ข่าวจากสื่อ มันดูไม่เหมาะสมหรือไม่ให้เกียรติกันเลย ซึ่งการปลดตำแหน่งสำคัญเช่นนี้ ก็เคยเกิดขึ้นเป็นปกติในทุกสมัย เพียงแต่ครั้งนี้เป็นการปลดแบบสายฟ้าแลบ แต่มันก็เคยเกิดขึ้นที่เมืองไทยเหมือนกัน ครั้งนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรํฐมนตรี ก็ปลด พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวช อดีต ผบ.ตร. กลางอากาศ ขณะไปปฏิบัติหน้าที่ทางใต้ โดยไม่เคยเรียกไปสอบถามอะไรเลย

ตำแหน่งสำคัญเหล่านี้ ถือเป็นตัวแทนของประธานาธิบดี ซึ่งจำเป็นต้องแต่งตั้งบุคคลที่ได้รับความไว้วางใจให้เข้ามาเป็นหูเป็นตา เป็นหน้าตาของประธานาธิบดีด้วย มีศักยภาพที่จะทำตามนโยบายของประธานาบดีได้ดี และยังคงรักษาผลประโยชน์ต่อส่วนรวม ให้เจ้านายดูดีในทุกโอกาส และแน่นอนคือ ต้องทำในขอบเขตภายใต้กฎหมายบ้านเมืองเท่านั้น

เจ้าหน้าที่ระดับสูงเหล่านี้ ไม่ต้องผ่านการคัดเลือกหรือสอบแข่งขันกับใคร ซึ่งเป็นข้อดี แต่ข้อเสียคือ สามารถถูกไล่ออกได้ทุกเวลา (ยกเว้นการแต่งตั้งผู้พิพากษา ซึ่งถ้าแต่งตั้งแล้ว ประธานาธิบดีก็จะไล่ออกไม่ได้เป็นอันขาด จนกว่าจะเกษียนกันไปเอง) ส่วนใหญ่ก็เป็นคนใกล้ชิดที่สนับสนุนและได้รับความไว้วางใจจากนายทั้งสิ้น พวกเจ้าหน้าที่เหล่านี้เรียกว่า "Political Appointees"

มาดูเงินเดือนของตำแหน่งสำคัญในประเทศสหรัฐอเมริกา

- President U.S. ประธานาธิบดี Donald J. Trump $400,000 ต่อปี (แต่นายทรัมป์ขอรับแค่ $1.00 ต่อปี)

-Vice President รองประธานาธิบดี Mike Pence $230,700 /ปี

-Speaker of the United States House of Representatives ประธานสภาผู้แทนราษฎร Paul Ryan $223,500 /ปี

-รัฐมนตรีกลาโหม (Secretary of Defence) James Mattis $205,700 /ปี

-รัฐมนตรีความมั่นคง (Secretary of Homeland Security) John Kelly $205,700 /ปี

รัฐมนตรีอื่น ๆ ก็ได้รับเท่ากัน

-หัวหน้าเจ้าหน้าที่ของประธานาธิบดีทรัมป์ (Chief of Staff) Reince Priebus (อดีตเป็นประธานพรรครีพับลิกัน) $176,461 /ปี

-โฆษกของประธานาธิบดี (White House Press Secretary) Sean Spicer $176,461 /ปี

-ผู้อำนวยการตำรวจสอบสวนกลาง (Director of F.B.I.) James Comey (อดีต ผ.อ. ถูกปลดออก 5/9/17) $170,400 /ปี


ส่วนในระดับท้องถิ่นของแอลเอ

-Mayor นายกเทศมนตรี นาย Eric Garcetti $239,993 ต่อปี

-สมาชิกสภาเทศมนตรีแอลเอ Members of City Council มี 15 เขต 15 คน เงินเดือนคนละ $184,610 ต่อปี ผู้ดูแลไทยทาวน์คือ นาย Mitch O'Farrell

-L.A. County Board of Supervisors ผู้บริหารแอลเอเคาน์ตี้ มี 5 เขต 5 คน เงินเดือนคนละ $179,000 ต่อปี ประธานคนปัจจุบัน นาย Mark Ridley Thomas

-Orange County Board of Supervisors ผู้บริหารออเร้นจ์เคาน์ตี้ มี 5 คน เงินเดือน $168,153 ต่อปี ประธานคนปัจจุบัน นางมิเชลล์ สตีล

ทุกตำแหน่งที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ยังมีงบประมาณใช้จ่ายสนับสนุนอีกมาก เช่น ผู้บริหารแอลเอเคาน์ตี้ มีงบสนับสนุนปีละ 3 ล้านเหรียญ ที่สามารถว่าจ้างเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ รวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จำเป็น

ชุมชนไทยเราควรจะสนับสนุนนักการเมืองที่แคร์และใส่ใจต่อชุมชนเราบ้าง ให้โอกาสแก่ลูกหลานเราได้เข้าไปฝึกทำงาน เผื่อวันข้างหน้าเยาวชนที่ได้รับโอกาสนั้น จะได้มาดำรงตำแหน่งสำคัญ ๆ ที่จะสามารถเข้าช่วยเหลือชุมชนไทยได้อย่างเต็มที่ครับ

“ผู้ชนะ ไม่ใช่คนที่ทำให้คนอื่นแพ้ ”

Happy Mother’s Day!


โชคดีครับ
คิด ฉัตรประภาชัย