สดศรี สัตยธรรม ผู้หญิงหนึ่งเดียวในบรรดา 5 เสือ กกต. ที่มีผู้คนกล่าวขานถึงมากที่สุด ทั้งในด้านดีและด้านลบ ตั้งแต่ กกต. ชุดนี้ถือกำเนิดจนถึงปัจจุบัน
"หญิงเหล็ก" แห่ง กกต. คือหนึ่งในฉายาของเธอนอกจากสรรพนามต่างๆ ที่มีคนชอบ และคนที่ไม่ชอบเธอสรรหามาเรียกขาน
แต่เนื้อแท้และความคิดเห็นของ สดศรี สัตยธรรม จะเป็นเช่นไร ติดตามได้จากคำสัมภาษณ์ที่พรั่งพรูจากเรียวปากของเธอที่ให้ไว้กับ น.ส.พ.ไทยแอล.เอ. ในนครลอสแอนเจลิส ณ ไทยแลนด์พลาซ่า บนถนนฮอลลีวูด เมื่อวันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน 2555 ในโอกาสที่เธอเดินทางมาดูงานเลือกตั้งในอเมริกา....
หลังจากนั้นถึงจะมีการสอบสวนจนแล้วเสร็จ แล้วก็มาดูซิว่า ผิดหรือเปล่า ถ้าผิดจะให้ใบเหลือง หรือใบแดงก็แล้วแต่ ก็เป็นวิธีการตามกฎหมายระบุไว้ จะเห็นได้ว่า กกต. เราก็ทำตามหน้าที่ และก็ต้องฟังเสียงประชาชนเป็นหลักใหญ่ เพราะว่าเขาเลือกคนนี้มาแล้ว เราก็จะต้องให้เขาเป็นส่วนที่เขาจะได้เข้ามาโดยชอบหรือไม่เนี่ย ก็จะมีวิธีการสืบสวนสอบสวน ซึ่งจะต้องกระทำแน่นอน
เพราะว่าการไม่ใช้สิทธิ์ โดยที่ไม่ไปเลือกตั้ง รธน. ไม่ได้เขียนห้ามไว้เลยนะคะ เป็นข้อยกเว้นตามมาตรา 101 (4) แม้ว่าถูกขังอยู่ก็สามารถที่จะสมัครรับเลือกตั้งได้ ส่วนไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเนี่ย หมายถึงว่า เขาผู้นั้นเนี่ยต่อไปข้างหน้าเขาไม่สามารถที่จะไปสมัครอะไรได้
ในกรณีของคุณจตุพร นั้นมันคนละเรื่องกัน ในรัฐธรรมนูญ เขียนไว้ว่า การที่เขาไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งคือวันสมัครเขาไม่ได้ถูกตัดสิทธิ์ ในการที่จะสมัคร และในวันเลือกตั้งคือวันที่ 3 ก.ค. 54 เขาไม่ได้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เนื่องจากถูกคุมขังอยู่ เขาขอศาลแล้วเพื่อที่จะออกมาใช้สิทธิ์ แต่ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวออกไปหรือศาลไม่อนุญาตให้คุมตัวออกมาใช้สิทธิ์
ตามรัฐธรรมนูญว่า ในกรณีที่ผู้ถูกขังอยู่ แล้วไม่ได้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งไม่ขาดจากการเป็น ส.ส. "จตุพร" มีสิทธิ์เป็น ส.ส. ได้ตามรัฐธรรมนูญ
แต่เมื่อดูกฎหมายลูกที่ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง ระบุไว้ชัดเจนเลยว่าบุคคลที่จะเป็นสมาชิกพรรคการเมืองได้จะต้องออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง แต่คุณจตุพรไม่ได้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งจึงทำให้ขาดจากการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง เมื่อขาดจากสมาชิกพรรคการเมืองแล้วจะเป็น ส.ส. ไม่ได้ ผู้ที่จะเป็น ส.ส. จะต้องสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้นๆ ภายใน 90 วัน
จะเห็นได้ว่ากฎหมายใหญ่ก็คือกฎหมายแม่ ก็คือรัฐธรรมนูญ ขัดกับกฎหมายลูก แล้วมาตรา 6 ของ รัฐธรรมนูญ เขียนไว้ชัดเจนว่าจะไม่มีกฎหมายใดขัดต่อรัฐธรรมนูญได้เลย ถ้าขัดแย้งกันเราจะต้องเอากฎหมายแม่เป็นหลัก ฟังแล้วจะถือได้ว่ากฎหมายแม่เป็นกฎหมายใหญ่ นี่คือความเห็นเสียงข้างน้อยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เสียงข้างมากท่านไม่ได้ฟังอย่างนั้น ท่านฟังว่า กรณีของคุณจตุพรขาดจากการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองตามกฎหมายประกอบ รธน. ว่าด้วยพรรคการเมือง เพราะฉะนั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็น ส.ส. คือท่านไม่ได้ฟังว่าความขัดกันของกฎหมายลูกกับกฎหมายแม่เป็นอย่างไร แต่เราก็ต้องเคารพต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
บุคคลใดก็ตามที่เข้าไปในศาล แล้วแสดงกริยาก่อความวุ่นวายในสถานที่ ที่ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เข้ามาก็ต้องเคารพศาล เพราะศาลทำไว้ในพระปรมหาภิไชย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
หากเข้ามาเพื่อก่อความวุ่นวายในศาล ก็ยังมีกฎหมายว่าไว้ว่าเป็นการละเมิดหน้าศาลเหมือนกัน สถานที่แห่งนี้ก็คือสถานที่รวมตัวแทนของประชาชน ตัวแทนก็คือ ส.ส. หรือ ส.ว. ก็ดี เขาถือว่าเป็นบุคคลที่ได้รับการยกฐานะว่าเป็นตัวแทนของประชาชน
การที่ท่านมาแสดงอาการเหล่านี้ขึ้นมาในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าประเทศใดก็ตาม รัฐสภาเขาถือว่าที่ที่ทรงไว้ซึ่งเกียรติ ทรงไว้ซึ่งผู้ที่ได้รับเกียรติจากประชาชน เป็นตัวแทนประชาชน ทำไมท่านถึงต้องดูถูกตัวเอง การที่ดูถูกตัวเอง ก็หมายถึงต้องดูถูกประชาชน ดูถูกสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ในความเห็นของตัวเองนะคะ ก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควร ไม่ว่าจะโดยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม เราจะต้องให้เกียรติแก่สถานที่ ที่จะมีการแสดงแก่คนที่ทำหน้าที่ตัวแทน
ส่วนหลังจากออกมาจากที่การประชุมเสร็จแล้วค่อยไปว่าทีหลัง ท่านจะพูดคุยกับท่านประธานสภาว่า ท่านไม่ควรทำอย่างนี้ ท่านไม่ควรทำอย่างนั้นนะ ก็เป็นเรื่องที่ว่ากันไป
การหมิ่นประมาทจะต้องมีตัวบุคคลที่ถูกหมิ่นประมาทมาตรา 112 คือการหมิ่นประมาทสถาบัน ก็ควรมีตัวแทนที่จะร้องทุกข์เข้ามา สมควรไหมที่จะมีตัวแทนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือสถาบันสูงสุดของเราเป็นตัวแทนในการยื่นคำร้องต่ออัยการ ในการยื่นฟ้องบุคคลนั้น เพื่อที่จะไม่ต้องเอากฎหมายมาตรา 112 มาเล่นทางการเมืองกัน
ที่ถามว่าควรเลิกไหม ในความคิดเห็นแล้วไม่ควรเลิก เพราะเหมือนหมิ่นประมาทคนธรรมดานั่นเอง และควรที่จะมีคนยื่นแทนในการที่จะฟ้องร้อง หรือร้องทุกข์ไหม ก็น่าจะดีเพื่อที่จะมีการกรองก่อนว่า การร้องอันนี้จะเป็นการหมิ่นประมาท "พระองค์ท่าน" หรือไม่เพียงไร
เมื่อครอบครัว ลูกเต้าไม่เดือดร้อนอะไร ก็ถือว่าทุกท่านจะใช้ชีวิตบั่นปลายอยู่ในขวานทองของเรา อยากให้ทุกท่านสละเวลาเล็กน้อยไปเลือกคนดี
และเชื่อว่าในการเลือกตั้งต่อไป คนไทยที่มีความสนใจต่อการเมือง จะมีความพร้อมที่จะไปเลือกตั้งมากขึ้น ในปีหน้าเราจะมีการเลือกตั้ง ส.ว. ก็ขอเชิญคนไทยใน USA ช่วยไปเลือกตั้งประมาณต้นปี ส่วน ส.ส. ยังไม่ครบเวลา
การทำประชามติเกี่ยวกับการรับร่างรัฐธรรมนูญ จะต้องทำประชามติในต่างประเทศด้วย ก็เชิญชวนทุกท่านที่เป็นคนไทยที่มีความรักชาติ ให้ช่วยกันพาประเทศเราไปในจุดที่ถึงว่าเราส่งใจให้คนไทยในประเทศไทย เราจะมองดูว่าความรับผิดชอบในประเทศเราไม่ได้อยู่ในมือของนักการเมือง แต่อยู่กับพวกท่านไม่ว่าจะมุมใดของโลกนี้
สิ่งสำคัญที่สุดของการแตกแยกก็คือ ขึ้นอยู่กับสื่อมวลชน อยากให้สื่อมวลชนในอเมริกาเป็นกลาง และขอให้ทุกฝ่ายมีความปรองดองกัน
เราควรจะเลือกความอยู่รอดของประเทศชาติมากกว่า การแบ่งแยกสีกัน ทุกคนควรรักใคร่สมัครสมานสามัคคีกัน