Special Scoop



ท่องเมืองไทยกับโครงการเยาวชนไทยเยือนถิ่น ครั้งที่ 11

กรกฎาคมที่ผ่านมา มีโอกาสร่วมโครงการเยาวชนไทยคืนถิ่น ของ คุณสุรศักดิ์ วงศ์ข้าหลวง ซึ่งมีจุดประสงค์ให้เยาวชนไทยที่เกิดในอเมริกาได้กลับเมืองไทย รู้จักประเทศไทย วัฒนธรรมไทย ชุมชนไทย และคนไทย ที่เป็นรากเหง้าหรือบรรพบุรุษของพวกเขา ซึ่งปีนี้เป็นปีพิเคษที่เปิดโอกาสนำคณะที่ร่วมเดินทางไปกราบถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อันเป็นที่รักของปวงชนชาวไทย ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท

ปีนี้ได้จัดเป็นปีที่ 11 มีผู้ปกครองและลูกหลานหลาย ๆ ท่านได้ร่วมโครงการนี้มาโดยตลอด ส่วนผมได้เข้าร่วมโครงการเป็นครั้งแรก โดยการชักชวนของ คุณวรนุช บุญประกอบ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของสมาคมนวดไทยและสปาแห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งเธอว่าคุ้มค่าจริง ๆ

กลุ่มคณะเดินทางได้เห็นสิ่งต่าง ๆ มากมาย และได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น และเป็นอย่างดี จากฝ่ายรัฐบาลและองค์กรต่าง ๆ การเลี้ยงต้อนรับ ได้ทำบุญเลี้ยงอาหารเด็กพิการ เด็กกำพร้า รวมถึงการเข้าพบคารวะพณฯท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง เป็นต้น

มีผู้ร่วมเดินทางครั้งนี้กว่า 250 คน ต้องใช้รถบัสถึง 5 คัน มีการติดต่อประสานกับสายการบิน 2 สาย ไชน่าแอร์ไลนส์ (China Airlines) และอีวา แอร์ (Eva Air) โดยมีบริษัทสตาร์ทัวร์ เป็นผู้จำหน่ายตั๋วเครื่องบิน ซึ่งผมได้รับความช่วยเหลือเรื่องตั๋วเป็นอย่างดี จาก คุณโต้ง (Tony) แห่งสตาร์ทัวร์ ที่ให้บริการและอำนวยความสะดวกให้อย่างดีทีเดียว ขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วย

ผมเลือกที่จะใช้ไชน่าแอร์ไลนส์ ด้วยโปรโมชั่นที่จะผ่านเสียไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่เป็นลูกค้าประจำของอีวา นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ว่า เมื่อมีการแข่งขันกันในการค้า ลูกค้าก็จะได้ประโยชน์ เพราะเขาจะสู้กันในเรื่องราคาและอื่น ๆ เช่น ไชน่าแอร์ไลนส์ บิน Premium Economy (อีวา เรียกว่า Premium Economy Elite อ่านว่าอีลีท) ราคาถูกกว่า แถมขาเข้า-ออก ไต้หวัน-กรุงเทพฯ ได้อัพเกรดให้นั่งชั้นธุรกิจ (Business Class) ฟรี เก้าอี้นอนได้ อาหารก็ดีกว่า ก็เลยเป็นที่มาของการมาทดลองนั่งและบินไชน่าแอร์ไลนส์ และเวลาที่ออกจาก LAX และถึงเมืองไทยก็ใกล้เคียงกับอีวามาก คือจะออกตอนเที่ยงคืนกว่านิดหน่อย ถึงกรุงเทพฯ 10 โมงเช้า ส่วนอีวากลับถึงกทม.ช้ากว่า คือเที่ยงวัน การได้รับอัพเกรดเป็น Business Class ก็ได้ใช้บริการ Free Lounge ที่ไต้หวัน (ขาเข้าไทย) และ กรุงเทพฯ (ขาบินออก) ด้วยอาหารว่าง เครื่องดื่ม และแอลกอฮอล์ ฟรี Wi-Fi ฯลฯ

การขับรถเข้าสนามบิน LAX เป็นปัญหามากเนื่องจากการก่อสร้าง Metro Rail โดยเฉพาะช่วงก่อนออกจากฟรีเวย์ 105 เพื่อวิ่งเข้าสนามบินนั้น ใช้เวลาเป็นชั่วโมงแล้ว ซึ่งหากไม่เผื่อเวลา เพราะไม่รู้มาก่อนหรือชะล่าใจ ก็มีคนตกเครื่องแน่นอน เพราะทุกคนประดังกันไปสนามบิน ไปรับ-ส่งผู้โดยสารที่มีปริมาณมากกว่าเมื่อก่อนอยู่แล้ว และยังบินเวลาใกล้เคียงกัน กอปรกับมีการซ่อมแซมทางอีกต่างหาก ถ้าคิดว่าปกติจะใช้เวลา 1-1.5 ชม. ตอนนี้ต้องเตรียมตัวกันเป็น 2-3 ชั่วโมงอย่างน้อย เพื่อให้ถึงสนามบินก่อนสัก 3 ชั่วโมง มิฉะนั้นมีสิทธิ์ตกเครื่อง ต้องเสียเงินซื้อตั๋วใหม่อีก

จึงอยากจะบอกทางลัดให้ คือทางที่รถแท็กซี่หรือแม้แต่รถตำรวจใช้ เพราะจะรอกันแบบนี้ไม่ได้ ทางสำหรับเข้าสนามบินนานาชาติ LAX จาก 105 Fwy. (West) หรือเรียกว่า Century Freeway โดยอย่าเพิ่งออกตามชาวบ้านเขา ที่ทุกคนรอคิวอันยาวเหยียดเพื่อออก Sepulveda Blvd.-LAX นั้น แต่เราจะต้องออกก่อน 1 ป้ายทางออก คือให้ออกถนน Nash St. มีตัวอักษรเล็ก ๆ ว่า LAX เหมือนกัน จะเลี้ยวเป็นรูปวงแหวน เจอสี่แยกแรกก็เลี้ยวขวา ผ่านอีกสองสี่แยกแล้วเลี้ยวขวา คุณก็จะเจอไฟแดงที่คนลงจากฟรีเวย์ที่ Sepulveda มาชนกันนั่นแหละครับ จะได้ไม่ต้องรอตามหลังรถ bumper-to-bumper ที่ยาวเหยียด

หลังจากนั้นแล้วให้ชิดเลนซ้าย เพราะเลนขวา 2 เลนจะเข้าสนามบิน (Century Blvd.) จะติดมาก ชาวบ้านจะขับเข้าสนามบินกันทั้งนั้น เราจะยังขับชิดเลนซ้ายผ่านตลอด แล้วไปเลี้ยวขวาที่ถนน 98th ถึงสี่แยกแรกเลี้ยวซ้ายเข้าสู่สนามบินทาง Terminal 1 ขับไปทางซ้ายเรื่อย ๆ พอใกล้วงแหวนก็ชิดขวาเป็น Tom Bradley International Terminal ของสายการบินระหว่างประเทศ หากได้ลองใช้ดูแล้ว ก็มาเล่าสู่กันฟัง

ไชน่าแอร์ไลนส์ พยายามปรับปรุงในหลาย ๆ ด้าน เพื่อต้องการแย่งลูกค้าจากสายการบินอีวาให้ได้ เช่นการใช้เครื่องบินใหม่เหมือนอีวา คือ Boeing 777-300 ER (ER = Extended Range บิน 10-12 ชม.ไม่ต้องหยุด) ที่นั่งก็มีชั้นเหมือนกัน Business, Premium Economy และ Economy ก็ไม่แปลก เพราะเห็นอีวาทำแล้วประสบความสำเร็จอย่างมาก ถ้าราคาถูกกว่าหน่อย มีโปรโมชั่นแถมอีกนิด รับรองว่ามีลูกค้าเพิ่มแน่นอน รวมถึงผมก็คนหนึ่ง แต่อย่างหนึ่งที่ยังไม่เหมือนกันคือ อีวาเขามีการสะสมไมล์เลจที่มีเครือข่ายมากมายคือ Star Alliance ในขณะที่ China Airlines ยังใช้ Sky Team Miles ซึ่งเป็นคู่แข่งของ Star Alliance

ส่วนการบริการบนเครื่องบิน ก็เหมือนกับอีวา ก็หมวย ๆ สาว ๆ ทั้งนั้น เรื่องอาหาร ก็นับว่าโอเคเลย มีเส้นหมี่ผัดหมู เห็ดหอม เอาใจคนไทยที่มีเป็นร้อยคนในเครื่องนี้ สังเกตได้ คือห้องน้ำเขาไม่มีโลชั่น น้ำหอม ให้อีกแล้ว มีแต่สบู่เหลวล้างมือ เพราะชั้น Premium Economy จะมีกระเป๋าเล็ก ๆ ใส่ไว้ให้หมดแล้ว แต่เห็นคุณลุงคุณป้าหลายคนที่ไม่รู้ ก็เลยต้องบอก ๆ กันให้เอาไปใช้ในการเดินทางที่อื่นได้ ที่แปลกและประทับใจในถาดอาหาร คือไม้จิ้มฟันของไชน่ากับอีวาไม่เหมือนกัน ชอบของไชน่า เพราะมีแปรงเล็ก ๆ ไว้นวดเหงือกได้ด้วย เอาไป 10 คะแนนเลย ในขณะที่อีวาก็ใช้แบบด้ามแขวน ก็แล้วแต่ชอบ

หลังจากนั่งจากแอลเอถึงไต้หวันก็ 13:25 ชั่วโมง นั่งกันจนก้นเมื่อยกว่าจะถึง ก็ยังคิดถึง “การบินไทย รักคุณเท่าฟ้า” ที่ยกเลิกการบินไปได้ 2 ปี เพราะขาดทุน เหตุผลหนึ่งก็คือการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงที่ไม่ทันกับคู่แข่งเลย ทุกอย่างต้องไปกระจุกที่กรุงเทพฯ (Centralized Power) ในการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ โดย ผจก.ใหญ่แอลเอได้แต่เสนอ ส่วนคนออกคำสั่งอยู่ไกลโข อย่างนี้สู้เขาไม่ได้แน่ เครื่องบินที่ใช้ก็ไม่เหมาะสมกับจำนวนผู้โดยสาร นี่ไชน่าแอร์ไลนส์เดินไปสุดลำ เต็มทุกที่ครับ และตราบใดที่บอร์ดของการบินไทยยังไม่ยอมกระจายอำนาจในการปรับกลยุทธ์ในสมัยยุคดิจิตอลให้กับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นแล้ว ก็คงยากที่จะแข่งขันกับสายการบินอื่น ๆ ได้ ทั้ง ๆ ที่คนไทยในอเมริกาอยู่กันเป็น 7-8 แสนคน เป็นประเทศที่มีคนไทยอยู่นอกประเทศไทยมากที่สุด แต่กลับไม่มีสายการบินของเรามาบริการ รายได้ขาดไปมหาศาล น่าเสียใจไหมล่ะ

แต่ยังไม่สายนะครับที่จะเริ่มต้นใหม่ “ช้าดีกว่าไม่ทำเลย” เอาวิกฤตมาเป็นโอกาสในการเปลี่ยนแปลง ควรที่ต้องเชิญพ่อค้ามานั่งบอร์ดการบินไทยมาก ๆ ไม่ใช่มีแต่ทหาร ข้าราชการประจำ มานั่ง แล้วจะไปสู้เขาได้อย่างไร เปิดใจกว้าง ๆ เพื่อชื่อเสียงประเทศ และผลกำไรก็จะตามมา คนไทยอยากนั่งและสนับสนุนสายการบินแห่งชาติไทยอยู่แล้ว สนนราคา การบริการ เครื่องบินที่ทันสมัย ล้วนเป็นปัจจัยในการค้าที่มันเปลี่ยนแปลงกันเร็วมาก ๆ ในยุคนี้

หนังสือพิมพ์หลายฉบับคงจะเล่าไฮไลท์ของโปรแกรมโครงการเยาวชนเยือนถิ่นนี้บ้างแล้ว เพราะมีผู้สื่อข่าวหลายท่านร่วมเดินทางด้วย พร้อมเขียนให้ท่านผู้อ่านกันเป็นตอน ๆไป

ขอปรบมือให้กับคณะผู้จัดทุกท่านทั้งที่ประเทศไทยและอเมริกา สิ่งที่ประทับใจคือคณะทำงานของคุณสุรศักดิ์ วงศ์ข้าหลวง มากันทั้งครอบครัวเลยครับ โดยเฉพาะน้องชาย คุณองอาจ วงศ์ข้าหลวง ที่ต้องวิ่งทั่ว ขึ้นลงบัสทั้ง 5 คัน ตลอดระยะเวลา 16 วันของโครงการนี้ ขอบพระคุณในการเสียสละ และจัดทำโครงการดี ๆ นี้สำเร็จเป็นปีที่ 11 ครับ