Special Scoop
เสียรู้ เสียดาย เสียใจ...กับความหวังรวย ลมๆ แล้งๆ

บ่อนการพนันหรือคาสิโนของชาวอินเดียนแดง (Indian Gaming) ในแคลิฟอร์เนียมีทั้งหมดกว่า 60 แห่ง จากจำนวน 53 เผ่า ทั้งเล็ก และใหญ่ต่างกัน (ที่ลาสเวกัสมีกว่า 122 คาสิโน) ขอเล่าความเป็นมาโดยสังเขปให้ท่านฟังก่อน…

ในปี 1987 ศาลสูงสุดของประเทศอเมริกา (U.S. Supreme Court) ได้ตัดสินคดีระหว่าง รัฐแคลิฟอร์เนีย กับ อินเดียนแดงเผ่าคาร์บาซอน (California VS. Cabazon Band of Mission Indians) ที่ทางเผ่าอินเดียนแดงทำการเปิดบ่อนในเขต (Indian Reservation) ของตนเอง ซึ่งทางรัฐสั่งให้ปิด ปรากฏว่า ศาลสูงสุดตัดสินให้ชุมชนอินเดียนแดงชนะ โดยบอกว่า เผ่าอินเดียนแดงที่ได้ขึ้นทะเบียนกับรัฐบาลกลาง และได้รับการรับรองแล้วนั้น ทางรัฐต่างๆใดๆ จะไม่มีสิทธิ์ออกกฎหมายบังคับให้ปิดได้ เพราะดินแดนของชาวอินเดียนแดงเป็นเขตปกครองพิเศษของเขา (Sovereign Entities) ที่ดูแลกันเอง

ในปี 1988 ทางสภาคองเกรสออกกฎหมายจัดระเบียบบ่อนของชาวอินเดียนแดง เพราะรู้ว่าต่อจากนั้นไปบ่อนจะผุดขึ้นทั่วประเทศแน่ๆ (ปัจจุบันมีกว่า 420 แห่งทั่วประเทศที่ได้สิทธิ์) เรียกว่า The Indian Gaming Regulatory Act (IGRA)

IGRA แยกบ่อนการพนันเป็น 3 ประเภท และให้สิทธิ์อำนาจว่าใครเป็นผู้ดูแล

ประเภทแรก (Class I) มีเกมส์ธรรมดาที่เล่นกันในหมู่คนอินเดียนแดงเผ่าต่างๆ มีรางวัลเล็กๆ เกมส์เหล่านี้จะเป็นการเล่นตามประเพณี และในเทศกาลต่างๆ ของชาวอินเดียนแดง (Traditional Indian Games Related to Tribal Ceremonies or Celebrations) ในประเภทนี้ คองเกรสระบุว่า ให้เผ่าต่างๆ ดูแลกันเอง

ประเภทที่สอง (Class II) เกมส์ต่างๆ เช่น บิงโก (Bingo), ล๊อตโต้ (Lotto), โป๊กเกอร์ (Poker) โดยคนเล่นเล่นกันเอง ในประเภทนี้ กฎหมายให้เผ่าต่างๆ ดูแลตัวเอง ร่วมกับคณะกรรมการอินเดียนแดงเพื่อการพนันแห่งชาติ (National Indian Gaming Commission) และรัฐไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือจำกัดจำนวนเกมส์ หรือโต๊ะที่ให้คนเล่นได้

ประเภทที่สาม (Class III) บางครั้งเรียกว่า เป็นเนวาด้าสไตล์ (Nevada-Style Games) บ่อนประเภทนี้เล่นได้ครบวงจรแบบลาสเวกัสเลย… Slot Machines, Blackjacks, Roulette เกมส์ไพ่ต่างๆ และเกมส์ลูกเต๋าด้วยในประเภทนี้ คองเกรสระบุให้เผ่าอินเดียนแดงรวมกับรัฐนั้นๆ ดูแลร่วมกัน โดยผ่านการอนุมัติของกระทรวงมหาดไทยของรัฐบาลกลาง (Department of the Interior) ทางรัฐแคลิฟอร์เนียก็มีกระทรวงยุติธรรมของรัฐ แผนกดูแลการพนันเป็นผู้ดูแลร่วม (California Gambling Control Commission, Dept. Of Justice)

เหตุผลสำคัญที่ศาลสูงสุดอนุญาตให้เผ่าอินเดียนแดงต่างๆ เปิดบ่อนด้ ก็เพื่อให้คนอินเดียนแดงมีงานทำ มีรายได้ให้ใกล้เคียงกับชุมชนอื่นๆ ซึ่งก่อนหน้านี้พวกเขามีรายได้น้อยกว่าคนอเมริกันกว่าสองเท่า พวกเขาถูกทอดทิ้งให้อยู่แบบอนาถา ขี้เหล้าเมายา สถิติการฆ่าตัวตายก็สูงมากกว่าชุมชนอื่นๆ แต่ตอนนี้คนอินเดียนแดงมีการมีงานทำ และมีรายได้ดีขึ้นมากตั้งแต่มีการอนุญาตให้เปิดบ่อนขึ้น

เหตุผลอีกประการหนึ่งที่ศาลสูงสุดยกมาอ้างคือ รัฐบาลแคลิฟอร์เนียเองก็ได้ผ่านกฎหมายในปี 1984 (Proposition 37) อนุญาตให้เล่นล๊อตเตอรี่กันได้มิใช่หรือ ฉะนั้น…รัฐจะมาผูกขาดเป็นเจ้ามือคนเดียวไม่ได้ และในปี 2000 ประชาชนได้ลงคะแนนเสียงกว่า 64% เห็นด้วยกับการแก้ไขธรรมนูญของรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยให้เผ่าอินเดียนแดงเปิดบ่อนได้ (Proposition 1A) และอนุญาตให้ผู้ว่าการรัฐ เจรจากับเผ่าอินเดียนแดงต่างๆ ว่าจะแบ่งปันผลกำไรกันอย่างไร เพื่อแลกเปลี่ยนในการอนุญาตให้มีเครื่องเล่นต่างๆ ได้มากขึ้น ซึ่งในภายหลัง ทางรัฐแคลิฟอร์เนียก็ขอส่วนแบ่งเป็นเครื่องๆ ไปเลย เช่น บ่อนที่มี Slot Machines ต้องจ่ายเงินเครื่องละ $8,000 - $25,000 ต่อปีต่อเครื่อง บ่อนต่างๆ ยังต้องลงขันเป็นเงิน 100 ล้านเหรียญ ในการพัฒนาการคมนาคม ถนนหนทางที่จะไปบ่อนต่อปี เป็นระยะเวลา 18 ปี จนถึงปี 2030

ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ ก็จะบอกให้ท่านทราบว่า ทางบ่อนเขามีค่าใช้จ่ายมากเหมือนกัน รายได้ที่ประเมินจากบ่อนในแคลิฟอร์เนียกว่า 60 แห่งนั้น อยู่ที่ประมาณ 7-10 พันล้านเหรียญ ตัวเลขจริงๆ เขาไม่ต้องเปิดเผยให้ใคร เพราะ เป็นเขตอิสระปกครองตัวเองครับ

การพนันกับอาชญากรรมเป็นของคู่กัน ซึ่งจากการศึกษาข้อมูลที่ได้มาจาก มหาวิทยาลัยจอร์เจีย สเตท(Georgia State University) สรุปว่า

- 50% ของคนที่ติดการพนันแบบงอมแงม (ผีพนันเข้าสิง) จะทำผิดในคดีอาญา

- 80% - 90% ของคนที่เข้าไปบำบัดในสมาคมช่วยเหลือคนติดการพนัน (Gamblers Anonymous) ยอมรับว่าพวกเขาได้กระทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย เช่น โกงเงินนายจ้าง ขโมยของนายจ้างไปขาย ใช้เครดิตการ์ดจนเกินกำหนด แล้วเบี้ยวไม่จ่าย คนพวกนี้จะโกหก เพื่อเอาเงินมาเล่น หวังจะได้เงินเพื่อเอาเงินมาใช้หนี้

- 21% ของคนเล่นการพนันเหล่านี้ จะไม่ยอมรับว่าเขาเป็นผู้ติดการพนัน

- 80% ของคนติดพนัน จะติดการดื่มสุรา ติดบุหรี่ หรือแม้แต่เสพย์ยาเสพติดด้วย

แล้วพวกเราจะทำอย่างไร ในเมื่อบ่อนต่างๆ มีวิธีการตลาดที่จะหลอกล่อ ให้พวกเราเข้าไปเล่นหลายสิบวิธี เช่น กินฟรี ดื่มฟรี พักโรงแรมฟรี ดูโชว์ฟรี เป็นสมาชิกได้เงินฟรี แล้วรวมถึงการแจกสิ่งของฟรีในวันและเวลาที่บ่อนกำหนด แถมยังมีรถบัสมารับใกล้บ้านท่านอีกต่างหาก เพื่อชักจูงและประเคนให้เรา

ฉะนั้น… เราต้องรู้ทันกิเลสเหล่านี้ จากคำแนะนำของสมาคมผู้มีปัญหาการพนัน (Office of Problem Gambling, California Department of Alcohol & Drug Programs) และประสบการณ์ที่ประสบมาด้วยตัวเองคือ

1. คิดเสียว่า เงินที่เสียไป ก็เป็นค่าที่เราไปหา ความสุข ความบันเทิง

2. ต้องตั้งงบไว้ว่าพร้อมที่จะยอมเสียเท่าไร

3. ตั้งเวลาว่าจะเล่นนานเท่าไร ห้ามต่อเวลา หยุดเมื่อถึงเวลาที่กำหนด ไม่ว่าจะได้หรือเสีย

4. ต้องเข้าใจว่า บ่อนเขาตั้งขึ้นมาเพื่อหาเงินเหมือนธุรกิจอื่นๆ ที่ทำแล้วต้องมีกำไร เราก็เป็นลูกค้าที่มาใช้บริการเท่านั้น เข้ามาเล่นเกมส์ของบ่อน ที่เขาโปรแกรมเครื่องไว้แล้วว่า เขาจะเอากำไรเท่าไร โดยโอกาสที่เขาจะชนะเราสูงกว่าเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเกมส์ไพ่ เช่น BlackJack หรือเครื่องเกมส์ต่างๆ

5. ห้ามยืมเงินคนอื่นมาเล่น สำคัญมากอันนี้ ในทางกลับกัน เราก็ไม่ควรให้เพื่อนยืมเงิน เพราะจะเสียเพื่อน เหมือนป๋าอรุณ สีบุญเรือง ที่เคยบอกผมว่า ถ้าใครมายืมเงิน ก็ให้เขาไปเลย ถือว่าทำบุญ (ไม่ต้องทวง) แล้วก็เดินหนี

6. ห้ามเล่นพนันเพื่อชดเชยส่วนที่ขาดหาย จากครอบครัว เพื่อน และการงาน

7. อย่าเสียดาย เมื่อเราเสียเงินไปแล้วก็แล้วไป บางคนเสียดายก็อยากเอาคืน เลยใส่เงินเข้าไปอีก ก็ยิ่งเสียมากขึ้นไปอีก ฝรั่งบอกว่า Don’t Chase Losses!

8. ห้ามเล่นการพนันเพื่อประชดตัวเอง ครอบครัว หรือเพื่อนฝูง จากการที่พวกเขาเหล่านั้นทำให้เราเจ็บปวด ผิดหวัง อกหัก

9. ถ้ารู้ว่าเรามีปัญหาก็ปรึกษาหาคนช่วย โทรศัพท์ก็ได้ ที่800-GAMBLER (800-426-2537) หรือ www.problemgambling.ca.gov ปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมการรักษาบำบัด ฟรี

ถ้ารู้ได้อย่างนี้ ก็สามารถที่จะช่วยให้เราเตรียมตัว เตรียมใจ ก่อนที่จะเดินเข้าบ่อน ไม่ตกเป็นเหยื่อที่น่าสงสาร โดยคุณเองน่าจะรู้อยู่ว่า ปีหนึ่งๆ คุณเสียเงินให้กับบ่อนเหล่านี้ไปเท่าไร?

โชคดีครับ

คิด ฉัตรประภาชัย